บล.บลูเบลล์ Make It Great : The Vision Mid-Year 2024 Economic Outlook ภายใต้แนวความคิดใหม่ Make It Great เพื่อก้าวอย่างมั่นคง เเละเป็นพลังมุ่งมั่นเคียงข้างนักลงทุนอย่างจริงใจ พร้อมเผยโฉมโลโก้ใหม่

96

มิติหุ้น – บริษัทหลักทรัพย์ บลูเบลล์ จำกัด หรือ บลูเบลล์ จัดงานสัมมนาเอ็กซ์คลูซีฟ “Make it Great: The Vision Mid-Year 2024 Economic Outlook” สำหรับผู้ลงทุนรายใหญ่ (High Net Worth: HNW) ผู้ลงทุนรายใหญ่พิเศษ (Ultra High Net Worth: UHNW) ที่ปรึกษาการลงทุน ที่ปรึกษาการลงทุนอิสระ และพันธมิตรทางธุรกิจ

นางสาวนริสรา ชัยวัฒนะ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทหลักทรัพย์ บลูเบลล์ จำกัด หรือ บลูเบลล์ เปิดเผยว่า “รู้สึกยินดีและขอขอบคุณนักลงทุนทุกราย พันธมิตรการขาย และบริษัทผู้ออกหุ้นกู้ที่ให้ความมั่นใจและไว้วางใจ ด้วยความเชื่อมั่นนี้เองจึงทำให้บริษัทหลักทรัพย์บลูเบลล์เติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่องและมั่นคง”

โอกาสนี้เรายังได้มีการพัฒนาโลโก้ของบลูเบลล์ขึ้นใหม่  เพื่อสะท้อนถึงแนวคิด Make It Great สื่อถึงความมุ่งมั่น แข็งแกร่ง  มีไหวพริบปฏิภาณ ซื่อตรง และความอ่อนน้อมถ่อมตนของบลูเบลล์ให้ชัดเจนยิ่งขึ้น “เรามุ่งมั่นที่จะสร้างแบรนด์บลูเบลล์ให้เติบโตต่อไปอย่างมั่นคง  Make It Great  แนวความคิดที่จะมุ่งสร้างประสบการณ์การลงทุนที่ดีที่สุดให้กับทุกท่าน Make It Great  คือการใช้ประสบการณ์ องค์ความรู้  การวิเคราะห์ ความทุ่มเทใส่ใจในรายละเอียดและเคียงข้างอย่างจริงใจ  และแนวความคิด Make It Great จะเป็นการท้าทาย เป็นพลังที่จะผลักดันองค์กร บุคลากรทุกคนของเราให้สร้างผลลัพธ์อันเป็นเลิศ เพื่อให้บริษัทหลักทรัพย์บลูเบลล์อยู่ในใจนักลงทุนตลอดไป

จัดทัพลงทุนด้วยหุ้นกู้: เข้าใจหลักการความเสี่ยงที่มาคู่กับผลตอบแทน

ดร.สมจินต์ ศรไพศาล กรรมการผู้จัดการ สมาคมตลาดตราสารหนี้ไทย (ThaiBMA) กล่าว ในยามที่ตลาดการเงินมีความผันผวนมากมาย หลักการจัดทัพลงทุนโดยมุ่งวัตถุประสงค์ยิ่งมีความสำคัญเป็นพิเศษ และสำหรับการลงทุนในตราสารหนี้นั้น หัวใจสำคัญของกลยุทธ์การลงทุน การเข้าใจความเสี่ยงหลักสามประเภท ความเสี่ยงอันเกิดจากความผันผวนของอัตราดอกเบี้ย (interest rate risk) ความเสี่ยงด้านเครดิต (credit risk) กับความเสี่ยงด้านสภาพคล่อง (liquidity risk)

ในครึ่งปีหลังนี้ ความเสี่ยงด้านอัตราดอกเบี้ยน่าจะน้อยเพราะทิศทางอัตราดอกเบี้ยนโยบายของสหรัฐชี้ไปในทางที่มีโอกาสจะลดลงได้สักสองครั้ง ในขณะที่อัตราดอกเบี้ยนโยบายของไทยก็น่าจะทรงตัวหรืออาจลดลงได้สักหนึ่งครั้ง ทำให้ความเสี่ยงด้านอัตราดอกเบี้ยไม่น่าเป็นห่วง ส่วนความเสี่ยงด้านเครดิตและสภาพคล่องนั้น ควรมีการวิเคราะห์ความน่าเชื่อถือและความสามารถในการชำระหนี้ประกอบการตัดสินใจลงทุนเสมอ ซึ่งสามารถดูได้จากข้อมูลผู้ออกและอุตสาหกรรมในเว็บไซต์ของ ThaiBMA โดยคำนึงถึงความสอดคล้องกับระยะเวลาการถือครองให้ดีด้วย และที่สำคัญคือความเข้าใจหลักการของความเสี่ยงที่มาคู่กับผลตอบแทน การระวังไม่ลงทุนในตราสารบางตัวหรือผู้ออกบางราย ในสัดส่วนที่มากเกินไป ก็จะทำให้ท่านมีทัพลงทุนที่มีผลตอบแทนที่ดีตามศักยภาพความเสี่ยงที่ท่านรับได้

มุมมองการลงทุนครึ่งปีหลัง: สหรัฐอเมริกายังปรับตัวขึ้นได้

นายเกียรติศักดิ์ ปรีชาอนุสรณ์ CFA ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการลงทุนทางเลือก บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน กรุงศรี จำกัด กล่าวว่า ปัจจัย Macro ยังสนับสนุนให้ตลาดไปต่อในครึ่งปีหลัง GDP ของ US ยังเติบโตได้  3.2% ในปีนี้ แม้ตลาดแรงงานจะเริ่มชะลอตัว แต่โอกาสเกิด Recession อยู่ในระดับต่ำ ในขณะที่เงินเฟ้อลดลงอย่างมีนัยยสำคัญทำให้ FED จะเริ่มลดดอกเบี้ยตั้งแต่เดือน ก.ย. นี้ แม้ตลาดหุ้นในปีนี้จะปรับตัวขึ้นมามาก โดยเฉพาะ S&P Index แต่เป็นการขึ้นแบบกระจุกตัวในหุ้น Big Tech เท่านั้น ขณะที่กลุ่มอื่นๆ ยังปรับตัวขึ้นได้ไม่มากนัก ซึ่งในครึ่งปีหลังคาดว่ากลุ่มเหล่านี้จะปรับตัวขึ้นได้ โดยมีแรงสนับสนุนจาก Earning ที่ดีขึ้นในช่วงครึ่งปีหลัง บลจ.กรุงศรี กองทุนแนะนำ KF-SINCOME, KF-CSINCOM, KFSINCFX KFGLOBAL, KFGLOBFX

มุมมองการลงทุนครึ่งปีหลัง: ตลาดหุ้นเอเชีย เกาหลีใต้และอินเดียยังน่าสนใจ

นายปิยะภัทร์ ภัทรภูวดล Director, ฝ่ายกลยุทธ์การลงทุน บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน ไทยพาณิชย์ จำกัด กล่าวว่า ตลาดหุ้นเเกาหลีใต้ ซึ่งได้ประโยชน์จากกระแส AI เพราะมีบริษัทชั้นนำ ทั้งในอุตสาหกรรม Mobile Device และ Memory Chip นอกจากนี้เกาหลีใต้เป็นตลาดหุ้นที่มี Valuation น่าสนใจ เมื่อพิจารณาจาก Forward P/E ขณะที่การปฏิรูปตลาดทุนหรือ Value-up Program คาดว่าจะช่วยขับเคลื่อนตลาดหุ้นในระยะยาว บลจ.ไทยพาณิชย์ กองทุนแนะนำ SCBKEQTG

อีกตลาดหุ้นที่น่าสนใจคือ ตลาดหุ้นอินเดีย ที่มีการเติบโตของเศรษฐกิจและกำไรบริษัทจดทะเบียนที่แข็งแกร่ง โครงสร้างประชากรที่เอื้อต่อการขยายตัวของการบริโภคและภาคแรงงานในระยะยาว ส่วนปัจจัยการเมือง คาดว่า จะมีความต่อเนื่องของนโยบายภาครัฐ หลังการเลือกตั้งเสร็จสิ้นไปแล้ว บลจ.ไทยพาณิชย์ กองทุนแนะนำ SCBINDIA

มุมมองการลงทุนครึ่งปีหลัง: การขยายตัวของเศรษฐกิจไทยมีแนวโน้มเร่งตัวขึ้นและธีมเทคฯโลก

ดร.สมชัย อมรธรรม ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ ฝ่ายกลยุทธการลงทุน บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน กรุงไทย จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า บลจ. กรุงไทย คาดการณ์ว่าเศรษฐกิจไทยปี 2567 มีแนวโน้มขยายตัวที่ระดับ 3.0% ดีขึ้นจากในปี 2566 ที่ขยายตัวได้ 1.9% ในขณะที่อัตราเงินเฟ้อในประเทศยังคงขยายตัวได้ดีขึ้นที่ระดับ 0.7% โดยปัจจัยหลักมาจากการเร่งการเบิกจ่ายของภาครัฐจากการอนุมัติงบประมาณฯ ปี 2567 ที่ล่าช้า   การท่องเที่ยวที่ฟื้นตัวได้ดีขึ้นตามจำนวนนักท่องเที่ยวที่ยังคงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง การบริโภคภาคเอกชนยังขยายตัวได้ดี การส่งออกมีแนวโน้มเร่งตัวขึ้นในช่วงครึ่งหลังของปี แต่ภาคอุตสาหกรรมยังคงเผชิญความท้าทายจากการเสียความสามารถในการแข่งขันในบางสาขา รวมถึงต้องติดตามปัจจัยเสี่ยงของปัจจัยทางภูมิรัฐศาสตร์ที่น่าจะสูงขึ้น ทำให้เราคาดการณ์ตลาดตราสารทุนไทยมีเป้าหมาย SET อยู่ที่ระดับ 1,450 จุด ณ สิ้นปี 2567 แม้ว่าในระยะสั้นยังคงเคลื่อนไหวในกรอบ โดยอาจผันผวนจากปัจจัยการเมือง และปัจจัยภายนอก บลจ. กรุงไทย กองทุนแนะนำ KT-HiDiv

และธีมการลงทุนในหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีระยะยาว เน้นเทคโนโลยีหรือนวัตกรรมในรูปแบบใหม่ๆ จากทั้งในระดับโลกและระดับภูมิภาค ทั้งนี้ ธีมการลงทุนไม่ได้ครอบคลุมเฉพาะในส่วนของปัญญาประดิษฐ์ แต่ยังให้ความสนใจกับธีม 5G, Cloud & infrastructure, Next generation transport และ Digitalization รวมไปถึง Technology buildout ของจีนด้วย ซึ่งผลการดำเนินงานที่ผ่านมาโดดเด่นและพิสูจน์ได้ถึงวิธีการดำเนินงานที่ได้รับการทดสอบตามการเวลา (Time-tested approach) บลจ. กรุงไทย กองทุนแนะนำ KT-Technology

 

 

ติดตามช่องทางมิติหุ้นเพื่อรับข่าวสารตลาดทุนได้ตามลิงค์ด้านล่าง

Web : https://www.mitihoon.com/
Facebook : https://www.facebook.com/mitihoon
Youtube : https://www.youtube.com/@mitihoonofficial7770
Tiktok : www.tiktok.com/@mitihoon