‘อินเด็กซ์ ลิฟวิ่งมอลล์’ เดินหน้าสร้างความยั่งยืนด้านสิ่งแวดล้อมเพื่อโลกสีเขียวแห่งอนาคต ผนึกกำลังพันธมิตร ‘SET – กรมป่าไม้ – ภาคประชาชน’ ในโครงการ Care the Wild โปรเจกต์ “ปลูกกล้าพลิกฟื้นผืนป่า” บนพื้นที่ 13 ไร่ ฟื้นฟูป่าชุมชนบ้านหินดาด จ.นครราชสีมา

34
มิติหุ้น  –  นางสาวกฤษชนก ปัทมสัตยาสนธิ กรรมการผู้จัดการ บริษัท อินเด็กซ์ ลิฟวิ่งมอลล์ จำกัด (มหาชน) หรือ ILM ผู้นำธุรกิจร้านค้าปลีกเฟอร์นิเจอร์ ของใช้ภายในบ้าน ของตกแต่งบ้านครบวงจร เปิดเผยว่า ปัจจุบันโลกเกิดวิกฤตการณ์เปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศอย่างรุนแรง  จากข้อมูลพบว่าตั้งแต่ปี 2566 ประเทศไทยเราต้องเผชิญหน้ากับเอลนีโญ โดยในปี 2568-2569 จะมีสภาพอากาศที่ร้อนและภัยแล้งที่อาจรุนแรงสุดในรอบ 10 ปี และปี 2572-2573 อาจจะเกิดน้ำท่วมใหญ่   ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อความมั่นคงทางอาหาร ความหลากหลายทางชีวภาพและความเป็นอยู่ของมนุษย์ ดังนั้น อินเด็กซ์ ลิฟวิ่งมอลล์  มีความมุ่งมั่นในการมีส่วนร่วมสร้าง
ความยั่งยืนในทุกมิติ  ไม่เพียงพัฒนาร้านสินค้าและบริการเท่านั้น  แต่ยังควบคู่การขับเคลื่อนความยั่งยืนในด้านสิ่งแวดล้อม  เพื่อสร้างสรรค์สังคมรอบข้างให้เติบโตอย่างมีความสุขไปพร้อมกัน  ภายใต้แนวคิด “Sustainable Living for Future Lifestyle” โดยกำหนดกรอบดำเนินธุรกิจ ESG สิ่งแวดล้อม สังคม และบรรษัทภิบาล (Environmental, Social and Governance)  ที่คำนึงถึงผู้มีส่วนได้เสียทุกภาคส่วน ทั้งภายในองค์กร ภาคสังคม และเศรษฐกิจ เพื่อการเติบโตอย่างยั่งยืน
และในฐานะผู้ผลิตและจัดจำหน่ายสินค้าภายในบ้านที่ใช้ “ไม้” เป็นวัสดุหลัก ได้ตระหนักและให้ความสำคัญของทรัพยากรธรรมชาติอย่างยิ่ง จึงเป็นที่มาของการเลือกไม้ป่าปลูกทดแทน 100%   ทั้งนี้ยังเดินหน้าแผนการสร้างสรรค์และส่งเสริมสิ่งแวดล้อมที่ยั่งยืนภายใต้  กลยุทธ์ Green Planet สอดคล้องกับเป้าหมายการมุ่งสู่การก้าวเป็นธุรกิจ Carbon Neutral ในปี 2050 และ Net Zero ในปี 2065 ผ่านการดำเนินการบูรณาการพื้นที่แห้งแล้งเพิ่มพื้นที่สีเขียวด้วยการปลูกป่าระยะ 3 ปี (2567-2569)  โดยผนึกกำลังพันธมิตร
หลัก ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย’ (SET)  ในโครงการ ‘Care the Wild’ ปลูกป้อง Plant & Protect ประเดิมปลูกต้นไม้เฟสแรกในกิจกรรม “ปลูกกล้าพลิกฟื้นผืนป่า” ในป่าชุมชนตำบลหินดาด จ.นครราชสีมา บนพื้นที่รวม 13 ไร่ จำนวนต้นไม้ 2,600 ต้น ประกอบด้วย ไม้มะค่าโมง ไม้สัก ไม้พะยูง ไม้ยางนา​ ไม้ไผ่​ ไม้มะฮอกกานี ไม้อินทนิล​ ไม้ตะเคียนทอง และไม้เสลา โดยผสานความร่วมมือกับหน่วยงานต่างๆ ทั้งจิตอาสาจากผู้บริหารและพนักงานอินเด็กซ์ ลิฟวิ่งมอลล์, กรมป่าไม้ หน่วยงานภาครัฐในพื้นที่ และภาคประชาชนจากชาวบ้านในพื้นที่กว่า 5 หมู่บ้าน รวมกว่า 120 คน ร่วมปลูกกล้าไม้และเรียนรู้กระบวนการปลูกเชิงคุณภาพ เพื่อสร้างสมดุลทางระบบนิเวศที่สมบูรณ์ให้กับสิ่งมีชีวิต และเอื้อประโยชน์ด้านอาชีพ เป็นคลังอาหาร สร้างเศรษฐกิจชุมชน ให้ชาวบ้านในชุมชนตำบลหินดาด ควบคู่การ ส่งต่อทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมที่อย่างยั่งยืน  โดยต้นไม้ 2,600 ต้น จะสามารถดูดซับคาร์บอนไดออกไซด์ได้ราว 7.02 ตันคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่าต่อปี  
นอกจากนี้โครงการ Care the Wild “ปลูกป้อง” Plant & Protect  นับเป็นอีกหนึ่งรูปแบบนวัตกรรมความร่วมมือระหว่างภาคตลาดทุน ในการขับเคลื่อนความยั่งยืน พร้อมสร้างการมีส่วนร่วมของผู้ลงทุน และสนับสนุนแนวคิดการให้ความสำคัญต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม ที่ต้องเดินหน้าควบคู่กับการเติบโตทางธุรกิจ ในรูปแบบการปลูกป่าใหม่ ปลูกป่าเสริม และส่งเสริมการดูแลป่า โดยการปลูกป่าโครงการ Care the Wild จะติดตามการเติบโตอย่างมีส่วนรวมเพื่อให้มั่นใจได้ว่าต้นไม้รอด 100% ไม่ต่่ากว่า 10 ปี  ซึ่งวางกรอบการทำงานร่วมกับ “ธรรมชาติ” เพื่อให้การพัฒนาของมนุษย์อยู่บนเส้นทางเดียวกับการสร้างสมดุลทางธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมให้เกิดความยั่งยืน ที่อาศัยหลักการ “ธรรมาภิบาลป่าไม้” สอดคล้องกับหลักการ Exchange ในการเปิดเผยข้อมูล disclosure based เพื่อขับเคลื่อนเป้าหมายการทำงานของทุกพันธมิตร
ด้านนางกาญจนวรรณ ลายลักษณ์ศิริ รองกรรมการผู้จัดการอาวุโสสายงานการตลาด ILM กล่าวว่า ILM ในฐานะบริษัทจดทะเบียนที่ดำเนินธุรกิจค้าปลีกเฟอร์นิเจอร์ และของแต่งบ้าน ที่ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายสินค้าที่ใช้วัสดุหลักจาก “ไม้” เราตระหนักและคำนึงถึงการใช้ทรัพยากรธรรมชาติอย่างรู้คุ้มค่า ซึ่งเฟอร์นิเจอร์ที่ผลิตจำหน่ายล้วนเป็นไม้จากป่าปลูกทดแทน รวมถึงเรายังใช้ไม้จากต้นยางพาราที่ไม่สามารถผลิตน้ำยางได้แล้ว  เป็นอีกทางที่จะสนับสนุนรายได้ให้เกษตรกรและลดการทำลายป่าทางอ้อม นอกจากนี้บริษัทฯ ยังมีแนวคิดที่จะพัฒนาด้านสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน ด้วยการปลูกป่าใหม่ ฟื้นฟูป่าเดิม ให้เกิดการพึ่งพากันระหว่างมนุษย์และธรรมชาติอย่างยั่งยืน โดยนำทีมผู้
บริหารและพนักงานรวม 40 คน จาก ILM สาขาโคราชและจากสำนักงานใหญ่ ลงพื้นที่ร่วมปลูกต้นไม้รวม 2,600 ต้น ในพื้นที่ 13 ไร่ ในกิจกรรม ‘ปลูกกล้าพลิกฟื้นผืนป่า’  ภายใต้โครงการ Care the Wild ของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย และการลงพื้นที่ไปร่วมปลูกป่าครั้งนี้ได้เห็นความสามัคคีและความหวังของคนในชุมชนมากกว่า 5 หมู่บ้าน ที่จะได้รับประโยชน์จากผืนป่าแห่งนี้ ขอขอบคุณทุกภาคส่วน ทั้งทางตลาดหลักทรัพย์ฯ โดยคุณประลอง ดำรงค์ไทย ผู้ทรงคุณวุฒิคณะทำงานพิจารณาพื้นที่ป่าปลูกโครงการฯ, กรมป่าไม้ โดยคุณสมถวิล ลีลามโนธรรม ผอ.ส่วนจัดการป่าชุมชน สจป. จ.นครราชสีมา  เจ้าหน้าที่ทหารฝ่ายกิจการพลเรือนกรมทหารราบที่ 23 ค่ายสุรธรรมพิทักษ์ จ.นครราชสีมา และคณะครูและนักเรียน รร.บ้านสระมะค่า กล้าเยาวชนมาปลูกฝังจิตสำนึกที่ดีเพื่อเรียนรู้และรักษ์ป่า  ชาวบ้านในตำบลหินดาดที่มาร่วมแรงร่วมใจให้การปลูกป่าสำเร็จลุล่วงไปด้วยดี เราเชื่อว่าการเพิ่มพื้นที่
ป่าไม่เพียงเพิ่มพื้นที่สีเขียวแต่ยังเสริมสร้างคุณภาพชีวิต และความเป็นอยู่ของคนในชุมชนให้ดีอย่างยั่งยืน และประเทศไทยจะมีผืนป่าที่อุดมสมบูรณ์เป็นมรดกทางธรรมชาติให้กับลูกหลานไทยต่อไปในอนาคต”
ทางด้าน สมศักดิ์ พานิชกุล กำนันตำบลหินดาด กล่าวว่า “บริเวณป่าชุมชนตำบลหินดาดแห่งนี้เดิมทีเป็นเป็นป่าสมบูรณ์เป็นโครงการอ่างเก็บน้ำโกรกกระโดนที่สร้างแหล่งน้ำหล่อเลี้ยงคนรวม 4 หมู่บ้าน ทั้งหมู่บ้านสระมะค่า, เมืองเพชร, หัวสะพาน, หัวฝาย ครอบคลุมพื้นที่ 800 ไร่  หลังจากเกิดการบุกรุกป่าและการทำลายสมดุลของป่า  จึงได้มีการทำถนนอ้อมป่าเพื่อลดการบุกรุก  ปัจจุบันคงเหลือพื้นที่เพียง 450 ไร่ เป็นโอกาสอันดีที่อินเด็กซ์ ลิฟวิ่งมอลล์ และทุกภาคส่วนได้เข้ามาร่วมบูรณาการผืนป่าให้เกิดเป็นรูปธรรม โดยเข้ามาพัฒนาพื้นที่แห้งแล้งด้วยการปลูกป่าให้กลับมาเป็นแหล่งน้ำ ผืนป่าที่มีระบบนิเวศที่สมบูรณ์ และเป็นแหล่งอาหารให้กับทุกคนในพื้นที่ต่อไป ผมมองว่าหากเราช่วยกันเพิ่มต้นไม้แค่วันละต้นและช่วยกันดูแลต้นไม้ก็สามารถช่วยขยายผืนป่าให้มากขึ้นได้  ต้นไม้คือชีวิต  และเมื่อต้นไม้อยู่ได้พวกเราก็อยู่รอด
ติดตามช่องทางมิติหุ้นเพื่อรับข่าวสารตลาดทุนได้ตามลิงค์ด้านล่าง

Web : https://www.mitihoon.com/
Facebook : https://www.facebook.com/mitihoon
Youtube : https://www.youtube.com/@mitihoonofficial7770
Tiktok : www.tiktok.com/@mitihoon