AIS จับมือ Singtel และ Maxis รับมือการหลอกลวงทางไซเบอร์ ครั้งแรกของโลกกับความร่วมมือเปิดบริการ Open API ของผู้ให้บริการโทรคมนาคมระดับสากล เสริมแกร่งการตรวจสอบและป้องกันภัยหลอกลวงทางไซเบอร์ระหว่างประเทศ

17

มิติหุ้น –  AIS ลงนามในบันทึกข้อตกลงร่วมกับ Singtel และ Maxis บริษัทโทรคมนาคมชั้นนำของอาเซียน นับเป็นความร่วมมือด้าน API ของบริษัทโทรคมนาคมในระดับนานาชาติครั้งแรกของโลก เพื่อเชื่อมโยงข้อมูลแบบเรียลไทม์ เสริมความแข็งแกร่งในการยืนยันตัวตนและป้องกันการฉ้อโกง ขยายขอบเขตการให้บริการบน AIS Open API เพิ่มความปลอดภัยให้แอพพลิเคชั่น ในการตรวจสอบและยืนยันผู้ใช้งานด้วย API ครอบคลุมไปสู่ระดับภูมิภาค

AIS Open API เป็นแพลตฟอร์มชุดบริการการเชื่อมต่อ (Application Programming Interface – APIs) ที่ผ่านการรับรองมาตรฐานจาก GSMA เปิดให้บริการสำหรับนักพัฒนาแอพพลิเคชั่นจากองค์กรธุรกิจต่างๆ เพื่อเข้าถึงศักยภาพของเครือข่ายโทรคมนาคมในการสร้างสรรค์บริการที่มีนวัตกรรมและเสริมความปลอดภัยให้กับผู้ใช้บริการ โดยบริการที่เปิดให้ใช้งานแล้วในปัจจุบัน คือ การยืนยันตัวตนผู้ใช้บริการดิจิทัลที่ลงทะเบียนกับผู้ให้บริการกับข้อมูลการลงทะเบียนกับบริษัทโทรคมนาคม และการตรวจสอบว่าผู้ที่กำลังทำธุรกรรมผ่านดิจิทัลแอพพลิเคชั่นนั้น ดำเนินการจากอุปกรณ์ที่เพิ่งมีการเปลี่ยนซิมการ์ดหรือไม่ ทั้งนี้เพื่อเป็นการตรวจสอบและป้องกันการทุจริต และหลอกลวงประชาชนจากการทำธุรกรรมออนไลน์ที่พบมากในปัจจุบัน โดยเฉพาะประเทศในกลุ่มภูมิภาคอาเซียน ที่มีรายงานการโจมตีทางไซเบอร์ผ่านแอพพลิเคชั่นในโทรศัพท์มือถือ สูงกว่าค่าเฉลี่ยของภูมิภาคอื่นๆ ทั่วโลก ซึ่งพบว่าส่วนใหญ่ดำเนินการโดยบอทอัตโนมัติที่มุ่งเป้าไปที่การทำธุรกรรมการชำระเงินในอีคอมเมิร์ซ

AIS Open API สามารถประยุกต์ใช้ได้ในหลายอุตสาหกรรม อาทิ ธุรกิจธนาคารและบริการทางการเงิน อีคอมเมิร์ซ เกมออนไลน์ ให้สามารถเพิ่มการยืนยันตัวตน (Multi-factor Authentication) ให้การทำธุรกรรมบนแอพพลิเคชั่นปลอดภัยมากยิ่งขึ้นผ่าน Number Verification API หรือการป้องกันการฉ้อโกงจากการทำธุรกรรมที่ต้องสงสัยผ่านการตรวจสอบเงื่อนไขเมื่อมีการเปลี่ยนซิมได้ทันที ผ่าน SIM Swap API ซึ่งจะช่วยป้องกันความเสี่ยงในการยึดบัญชี อีกทั้งผู้ให้บริการยังสามารถปรับเพิ่มมาตรการรักษาความปลอดภัยในการตรวจสอบและป้องกันการทำธุรกรรมที่เป็นภัยทางไซเบอร์กับผู้ใช้งาน ลดผลกระทบต่อการใช้งานดิจิทัลของประชาชนได้

 

นายภูผา เอกะวิภาต รักษาการหัวหน้าคณะผู้บริหารกลุ่มลูกค้าองค์กร เอไอเอส กล่าวว่า  ความร่วมมือครั้งนี้เป็นก้าวสำคัญในการสานต่อพันธกิจของเราในการปกป้องความปลอดภัยลูกค้าและผู้ใช้บริการดิจิทัล โดยการผสานความเชี่ยวชาญและทรัพยากรด้านโทรคมนาคมของเรากับ Singtel และ Maxis ด้วยการสร้างแพลตฟอร์มที่ทรงพลัง “AIS Open API” ที่จะช่วยเพิ่มความน่าเชื่อถือและความปลอดภัยสำหรับธุรกิจและผู้บริโภคในประเทศไทย มาเลเซีย และสิงคโปร์ การผนึกกำลังในการยืนยันหมายเลขโทรศัพท์ด้วย API นับเป็นการเสริมความแข็งแกร่งให้กับภาคธุรกิจและผู้ให้บริการแพลตฟอร์มดิจิทัลในการยืนยันตัวตนผู้ใช้งานดิจิทัลทั้งในประเทศและระดับภูมิภาค ผ่านการตรวจสอบหมายเลขโทรศัพท์แบบเรียลไทม์ โดยการใช้ประโยชน์จากจุดแข็งของบริษัทโทรคมนาคมเหล่านี้ร่วมกัน ทั้งนี้ AIS Open API จะสามารถนำเสนอวิธีการแก้ปัญหาที่ครอบคลุมและปลอดภัยเพื่อป้องกันรูปแบบการฉ้อโกงที่หลากหลาย รวมถึงการเข้ายึดบัญชีและการโจมตีแบบฟิชชิง โดยการยืนยันหมายเลขของ AIS Open API  จะทำให้ธุรกิจสามารถลดความเสี่ยงของการฉ้อโกงเพิ่มความน่าเชื่อถือของลูกค้าได้เป็นอย่างมาก”

นายอึง เทียน ช็อง ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร สิงค์เทล สิงคโปร์  กล่าวว่า “การเติบโตของอีคอมเมิร์ซในภูมิภาคนี้อาจมีช่องว่างให้เกิดการฉ้อโกงทางดิจิทัลที่เพิ่มมากขึ้น ซึ่งส่งผลกระทบอย่างมีนัยยะสำคัญต่อผู้บริโภคและธุรกิจ เรารู้สึกยินดีที่ได้ร่วมมือกับ AIS และ Maxis เพื่อรับมือกับกรณีนี้  เพื่อช่วยปกป้องลูกค้า ด้วยความร่วมมือนี้จะสามารถก่อให้เกิดประโยชน์จากข้อมูลของบริษัทโทรคมนาคม เราจะสามารถยืนยันตัวตน ปกป้อง และลดความสูญเสียทางการเงินได้อย่างไร้รอยต่อ เพื่อให้ลูกค้าทั้งในสิงคโปร์ ไทย และมาเลเซียได้รับประสบการณ์ด้านดิจิทัลที่ปลอดภัย เราจะยังคงเป็นผู้นำในการต่อสู้กับการฉ้อโกงทางดิจิทัล และเราขอเชิญชวนให้ผู้ให้บริการเครือข่ายมือถือรายอื่นๆ เข้าร่วมเพื่อสร้างระบบนิเวศที่แข็งแกร่งขึ้นสำหรับทุกคน”

นายโก เซียว เอง ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร แม็กซิส มาเลเซีย กล่าวว่า “ในฐานะผู้ให้บริการโทรคมนาคมครบวงจรชั้นนำของมาเลเซีย เราพร้อมส่งมอบการเชื่อมต่อที่รวดเร็ว เชื่อถือได้ และปลอดภัยเพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้า ความร่วมมือนี้จะช่วยปกป้องลูกค้าจากภัยคุกคามทางออนไลน์เพื่อให้ลูกค้าสามารถก้าวข้ามสู่เปลี่ยนแปลงทางดิจิทัลได้อย่างมั่นใจ”

นายจูเลี่ยน กอร์แมน หัวหน้าฝ่ายเอเชียแปซิฟิก สมาคมจีเอสเอ็ม (GSM Association: GSMA)กล่าวว่า “ผมรู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ผู้ให้บริการโทรคมนาคมชั้นนำที่ก้าวล้ำด้านนวัตกรรมทั้งสามรายในเอเชียได้ร่วมมือกันผ่านโครงการ GSMA Open Gateway เพื่อจัดการกับการฉ้อโกงทางออนไลน์และช่วยเพิ่มความไว้วางใจของผู้บริโภคในบริการดิจิทัลใหม่ ๆ ทั่วทั้งประเทศไทย มาเลเซีย และสิงคโปร์ เนื่องด้วยการโจมตีจากการฉ้อโกงทางไซเบอร์สามารถส่งผลกระทบอย่างมากต่อผู้เสียหาย ทั้งด้านการเงินและสภาพจิตใจ ซึ่งอาจนำไปสู่การสูญเสียความเชื่อมั่นในแพลตฟอร์มดิจิทัล โดยเฉพาะอย่างยิ่งในปัจจุบัน อาชญากรไซเบอร์มักเลือกปฏิบัติการข้ามพรมแดนของประเทศ ดังนั้นจึงเป็นเรื่องสำคัญที่ผู้ให้บริการโทรคมนาคมและผู้พัฒนาบริการดิจิทัล จะต้องผนึกกำลังกันเพื่อร่วมหามาตรการในการป้องกันการฉ้อโกง ไม่ว่าจะอยู่ที่ใดในโลก”

การลงนามความร่วมมือนี้ ถูกจัดขึ้นในงาน Digital Nation Summit ณ ประเทศสิงคโปร์ วันที่ 25 กรกฏาคม 2567 ที่ผ่านมา  ระหว่าง เอไอเอส, สิงค์เทล สิงคโปร์ และ แม็กซิส มาเลเซีย  เพื่อเปิดโอกาสให้นักพัฒนา สามารถเข้าถึงการให้บริการแก่ผู้ใช้งานมากกว่า 61.6 ล้านราย ครอบคลุมพื้นที่ประเทศไทย (เอไอเอส 45 ล้านราย) มาเลเซีย (แม็กซิส 12 ล้านราย) และสิงคโปร์ (สิงค์เทล 4.6 ล้านราย) ซึ่งจะต่อยอดการพัฒนาแอพพลิเคชั่นที่ปลอดภัย ป้องกันภัยคุกคาม หรือการหลอกลวงด้านไซเบอร์ได้ในระดับภูมิภาค

ติดตามช่องทางมิติหุ้นเพื่อรับข่าวสารตลาดทุนได้ตามลิงค์ด้านล่าง

Web : https://www.mitihoon.com/
Facebook : https://www.facebook.com/mitihoon
Youtube : https://www.youtube.com/@mitihoonofficial7770
Tiktok : www.tiktok.com/@mitihoon