มิติหุ้น – ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ หรือ ORI เตรียมเสนอขายหุ้นกู้ล็อตใหม่ 3 รุ่นแก่ผู้ลงทุนทั่วไปและผู้ลงทุน สถาบัน อายุ 3 ปี อัตราดอกเบี้ย 4.85% ต่อปี อายุ 3 ปี 6 เดือน อัตราดอกเบี้ย 5.00% ต่อปี และอายุ 4 ปี อัตราดอกเบี้ย 5.15% ต่อปี จ่ายดอกเบี้ยทุก 3 เดือน เสนอขายวันที่ 6-8 สิงหาคมนี้ ผ่าน 12 สถาบันการเงินชั้นนำ ชูระดับความน่าเชื่อถือ “BBB+/Stable” จากทริสเรทติ้ง มั่นใจแบ็คล็อกแกร่ง 46,571 ล้าน ทยอยรับรู้รายได้ต่อเนื่องถึงปี 2571 เปิดตลาดต่างชาติโกยยอดขายกว่า 2,500 ล้านบาท ในครึ่งปีแรก และปิดดีลขายบิ๊กล็อตคอนโดให้ “เดลต้า” กว่า 1,000 ล้านบาท
นายพีระพงศ์ จรูญเอก ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) หรือ ORI ผู้พัฒนาธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ครบวงจร กล่าวว่า บริษัทเตรียมเสนอขายหุ้นกู้ครั้งที่ 3/2567 เป็นหุ้นกู้ชนิดระบุชื่อผู้ถือ ประเภทไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีประกัน และมีผู้แทนผู้ถือหุ้นกู้ ต่อผู้ลงทุนทั่วไป และ ผู้ลงทุนสถาบัน (Public Offering) โดยหุ้นกู้ที่ออกจำหน่ายมีจำนวน 3 รุ่น ได้แก่ หุ้นกู้ชุดที่ 1 อายุ 3 ปี อัตราดอกเบี้ย 4.85% ต่อปี หุ้นกู้ชุดที่ 2 อายุ 3 ปี 6 เดือน อัตราดอกเบี้ย 5.00% ต่อปี และหุ้นกู้ชุดที่ 3 อายุ 4 ปี อัตราดอกเบี้ย 5.15% ต่อปี
โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อนำมาใช้ในการชำระคืนหุ้นกู้และหนี้ระยะสั้นที่จะครบกำหนด รวมถึงใช้ในการดำเนินธุรกิจ เสนอขายระหว่างวันที่ 6-8 สิงหาคม 2567 ผ่านสถาบันการเงินชั้นนำซึ่งเป็นผู้จัดการการจัดจำหน่ายหุ้นกู้ทั้งหมด 11 แห่ง และขอเน้นย้ำให้ผู้ลงทุนระวังมิจฉาชีพที่แอบอ้างชื่อบริษัทฯ หลอกลงทุน นำเสนอผลตอบแทนที่สูงเกินจริง โดยเฉพาะช่องทางโซเซียลมีเดียต่างๆ เช่น Facebook และ แอปพลิเคชัน LINE เป็นต้น ขอให้นักลงทุนพิจารณาผลตอบแทนที่เป็นไปได้ หรือติดต่อสอบถามผู้จัดการการจัดจำหน่ายหุ้นกู้ก่อนตัดสินใจลงทุน
หุ้นกู้ที่จะออกในครั้งนี้ ได้รับการจัดอันดับความน่าเชื่อถืออยู่ที่ระดับ “BBB+” แนวโน้ม “คงที่” (stable) จากทริสเรทติ้ง จากที่มีแบ็คล็อกกว่า 46,571 ล้านบาท ที่จะทยอยรับรู้เป็นรายได้ต่อเนื่องถึงปี 2571
นายพีระพงศ์ กล่าวต่อว่า ที่ผ่านมา ผลการดำเนินงานของบริษัทขับเคลื่อนไปได้อย่างต่อเนื่อง เนื่องจากบริษัทให้ความสำคัญกับการกระจายพอร์ตการลงทุน ทั้งการกระจายการพัฒนาโครงการใหม่ในหลากหลายเซ็กเมนท์ หลากหลายทำเล การเพิ่มพอร์ตรายได้ใหม่ๆ อาทิ ธุรกิจที่สร้างรายได้ประจำสร้างกระแสเงินสดใหม่ เช่น ธุรกิจโรงแรมที่ปัจจุบันเริ่ม Operate แล้ว 11 โครงการ โดยมี Average Occupancy Rate อยู่ในระดับสูง โดยเฉพาะโรงแรมใน CBD มี Average Occupancy Rate กว่า 80% หากนับเฉพาะธุรกิจพัฒนาที่อยู่อาศัย (Residential Development) บริษัทมียอดขายรอโอนกรรมสิทธิ์ (Backlog) ณ สิ้นไตรมาส 1/2567 รวมกันมากถึง 46,571 ล้านบาท
“แบ็คล็อกดังกล่าว จะทยอยโอนกรรมสิทธิ์เพิ่มเติมในปีนี้อีกประมาณ 15,000 ล้านบาท ขณะที่อีกกว่า 31,000 ล้านบาทนั้นจะทยอยโอนกรรมสิทธิ์ต่อเนื่องไปจนถึงปี 2571 ส่งผลให้บริษัทจะมีรายได้เข้ามาอย่างสม่ำเสมอและต่อเนื่อง ขับเคลื่อนไปได้ในทุกภาวะเศรษฐกิจ ทั้งนี้ยังเปิดตลาดต่างประเทศในช่วงครึ่งปีแรก สามารถโกยยอดขายต่างชาติกว่า 2,500 ล้านบาท หลักๆ เป็นรัสเซีย ฮ่องกง ไต้หวัน ที่สนใจซื้อและลงทุนเป็นบ้านหลังที่สอง พร้อมปิดดีลขายบิ๊กล็อตคอนโดให้ “เดลต้า” มูลค่ากว่า 1,000 ล้าน รับเงินแล้วกว่า 80% ทยอยโอนกรรมสิทธิ์ใน Q2-3/2567” นายพีระพงศ์ กล่าว
ทั้งนี้ บริษัทให้ความสำคัญกับการปรับตัวอย่างรอบด้าน เพื่อสร้างทั้งความได้เปรียบและรักษาระดับผลการดำเนินงาน อาทิ การจัดโปรโมชั่นใหม่ๆ เพื่อให้ลูกค้าเข้าถึงโครงการที่อยู่อาศัยได้ง่ายขึ้น เช่น แคมเปญ “ถึงเวลาช้อน” แคมเปญลดครั้งยิ่งใหญ่ที่สุดในช่วงกลางปีนี้ การเลือกลงทุนใหม่ในทำเลที่เหมาะสม สร้างยอดขายกลับมาได้ทันที การพัฒนาแพลตฟอร์มเปิดโอกาสการเข้าถึงกลุ่มลูกค้าใหม่ๆ จากทั่วโลก การร่วมทุนกับพันธมิตร ตลอดจนการบุกตลาดที่มีโอกาสเติบโต
ติดตามช่องทางมิติหุ้นเพื่อรับข่าวสารตลาดทุนได้ตามลิงค์ด้านล่าง
Web : https://www.mitihoon.com/
Facebook : https://www.facebook.com/mitihoon
Youtube : https://www.youtube.com/@mitihoonofficial7770
Tiktok : www.tiktok.com/@mitihoon