ราคาน้ำมันดิบปรับลดลงต่ำสุดในรอบ 7 สัปดาห์ หลังความต้องการใช้น้ำมันทั่วโลกอ่อนแอ
ปัจจัยที่ส่งผลกระทบกับราคา
(-) ราคาน้ำมันดิบปรับตัวลดลง เนื่องจากความกังวลเกี่ยวกับ
อุปสงค์ทั่วโลกที่อ่อนแอ โดยเฉพาะตัวเลขเศรษฐกิจจากจีน ซึ่งเป็นผู้นำเข้าน้ำมันดิบอันดับหนึ่งของโลก คาดว่าการกลั่นน้ำมันของจีนในครึ่งหลังของปี 2567 จะลดลง 250,000 บาร์เรลต่อวัน จากความต้องใช้น้ำมันในประเทศที่ลดลง ตลาดจึงจับตาการประชุมของคณะกรรมการโปลิตบูโร ซึ่งเป็นหน่วยงานที่มีอำนาจตัดสินใจสูงสุดของจีน ที่จะจัดขึ้นในสัปดาห์นี้ โดยการประชุมนี้จะทบทวนผลการดำเนินงานทางเศรษฐกิจในช่วงครึ่งปีแรก และทิศทางนโยบายเศรษฐกิจสำหรับช่วงที่เหลือของปีนี้
(-) ตลาดจับตาการประชุมคณะกรรมการร่วมด้านการตรวจสอบระดับรัฐมนตรี (JMMC) ของกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมันและชาติพันธมิตร (OPEC+) ที่จะจัดขึ้นในวันที่ 1 ส.ค. 67 ซึ่งคาดว่าจะไม่มีการปรับเปลี่ยนนโยบายต่อแผนการผ่อนคลายการลดกำลังการผลิตที่จะเริ่มในช่วงไตรมาสที่ 4 ปี 67 เป็นต้นไป
(-) ตลาดคลายความกังวลเกี่ยวกับอุปทานน้ำมันในภูมิภาค หลังข้อตกลงหยุดยิงระหว่างอิสราเอล และฮามาสมีความคืบหน้าอย่างมาก ประกอบกับเจ้าหน้าที่อิสราเอลได้ออกมาแถลงว่าไม่ต้องการให้สงครามในตะวันออกกลางลุกลามเป็นวงกว้าง
ราคาน้ำมันเบนซิน : ราคาน้ำมันเบนซินปรับตัวลดลงมากกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ หลังโรงกลั่นน้ำมันบาลิกปาปันของบริษัท Pertamina ในประเทศอินโดนีเซีย ซึ่งมีกำลังการกลั่น 360,000 บาร์เรลต่อวัน กลับมาดำเนินการตามปกติแล้วเมื่อวันที่ 26 ก.ค. 67 หลังเสร็จสิ้นการซ่อมบำรุงจากเหตุการณ์ไฟไหม้เมื่อวันที่ 25 พ.ค. 67
ราคาน้ำมันดีเซล : ราคาน้ำมันดีเซลปรับตัวลดลงมากกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ หลังความต้องการใช้น้ำมันดีเซลในภูมิภาคมีแนวโน้มชะลอตัวลง จากฤดูมรสุมในภูมิภาค นอกจากนี้มีรายงานว่าความต้องการใช้น้ำมันดีเซลในจีนชะลอตัวลง หลังความต้องการใช้ในประเทศถูกกดดันจากตัวเลขเศรษฐกิจของจีนที่เติบโตน้อยกว่าคาดการณ์
ติดตามช่องทางมิติหุ้นเพื่อรับข่าวสารตลาดทุนได้ตามลิงค์ด้านล่าง
Web : https://www.mitihoon.com/
Facebook : https://www.facebook.com/mitihoon
Youtube : https://www.youtube.com/@mitihoonofficial7770
Tiktok : www.tiktok.com/@mitihoon