มิติหุ้น – นายนันท์มนัส วิทยศักดิ์พันธ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทไซโน โลจิสติกส์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ SINO เปิดเผยถึงผลการดำเนินงานในไตรมาส 2/2567 (เมษายน-มิถุนายน) ว่าบริษัทฯ ประสบความสำเร็จในการผลักดันผลการดำเนินงานให้เติบโตได้ต่อเนื่อง โดยทำกำไรสุทธิ 13 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 138% เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า (QoQ) ซึ่งมีปัจจัยจากความสามารถในการให้บริการขนส่งสินค้าทางทะเล (Sea Freight) ที่แข็งแกร่งจากการมี OTI License สามารถทำสัญญาการบริการกับสายการเดินเรือได้เอง รวมถึงการบริหารจัดการพื้นที่ขนส่งสินค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพและลดผลกระทบจากการขาดแคลนพื้นที่ขนส่งสินค้าทางเรือ หลังจากประเทศจีนเร่งส่งสินค้าไปยังสหรัฐอเมริกาก่อนขึ้นกำแพงภาษี อีกทั้งยังแก้ปัญหาการขาดแคลนตู้คอนเทนเนอร์ได้เป็นที่น่าพอใจและสามารถตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้เป็นอย่างดี ส่งผลให้อัตราทำกำไรขั้นต้นปรับตัวดีขึ้นเป็น 13% ซึ่งสูงกว่าไตรมาสก่อนหน้านี้
อย่างไรก็ตาม ด้วยปัจจัยดังกล่าวส่งผลให้ปริมาณการขนส่งสินค้าในไตรมาส 2/2567 ลดลงเล็กน้อย โดยมีรายได้จากการให้บริการ 735 ล้านบาท ชะลอตัวลงจากไตรมาสก่อนหน้า ส่งผลให้ภาพรวมครึ่งปีแรกของปีนี้ (มกราคม-มิถุนายน) มีรายได้จากการให้บริการรวม 1,509 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 18 ล้านบาท โดยสัดส่วนรายได้จากการให้บริการขนส่งสินค้าทางทะเล (Sea Freight) คิดเป็น 95% ของรายได้จากการให้บริการทั้งหมด ส่วนรายได้จากการให้บริการเช่าคลังสินค้าคิดเป็น 1% รายได้จากการให้บริการสนับสนุนอื่นๆ คิดเป็น 3% และรายได้จากการให้บริการขนส่งสินค้าระหว่างประเทศทางอากาศ (Air Freight) คิดเป็น 1% ของรายได้จากการให้บริการทั้งหมด
ทั้งนี้ ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ อนุมัติจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลจากงวดผลการดำเนินงานรอบ 6 เดือนแรก ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม – 30 มิถุนายน 2567 เป็นจำนวนเงิน 14,999,920 บาท โดยคิดเป็นการจ่ายปันผลในอัตราหุ้นละ 0.014423 บาทต่อหุ้น ซึ่งจะกำหนดรายชื่อผู้ถือหุ้นที่มีสิทธิรับเงินปันผล (Record Date) ในวันที่ 23 สิงหาคม 2567 และกำหนดจ่ายเงินปันผลในวันที่ 6 กันยายน 2567
ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร SINO กล่าวว่า แนวโน้มการดำเนินงานครึ่งปีหลัง บริษัทฯ คาดว่าจะเติบโตได้ดีกว่าครึ่งปีแรกที่ผ่านมา หลังแนวโน้มค่าระวางเรือยังทรงตัวในระดับสูงจากปัจจัยความเสี่ยงด้านภูมิรัฐศาสตร์ ประกอบกับในไตรมาส 3/67 เข้าสู่ช่วงไฮซีซันการขนส่งสินค้าทางทะเลที่ส่งผลเชิงบวกต่อปริมาณการขนส่งสินค้า อีกทั้งแผนดำเนินงานของ SINO ยังคงมุ่งผลักดันให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางขนส่งสินค้าทางทะเลให้แก่กลุ่มประเทศในอาเซียนที่ต้องการขนส่งสินค้าไปยังสหรัฐอเมริกา จึงมั่นใจว่าจะมีปริมาณขนส่งสินค้ารวมทั้งปีได้ 53,000 ตู้ตามแผน ส่วนกลุ่มธุรกิจให้เช่าคลังสินค้าทั้ง 2 แห่ง ปัจจุบันมีอัตราการเช่าพื้นที่เฉลี่ยเพิ่มขึ้นเป็น 70% หลังได้รับการตอบรับที่ดีจากลูกค้าที่เข้ามาใช้บริการเพิ่มขึ้น ช่วยสนับสนุนการเติบโตของ SINO ได้เป็นอย่างดี
ติดตามช่องทางมิติหุ้นเพื่อรับข่าวสารตลาดทุนได้ตามลิงค์ด้านล่าง
Web : https://www.mitihoon.com/
Facebook : https://www.facebook.com/mitihoon
Youtube : https://www.youtube.com/@mitihoonofficial7770
Tiktok : www.tiktok.com/@mitihoon