
“ในไตรมาสที่ 2 บริษัทฯ ได้รับผลตอบแทนจากการลงทุนในโรงไฟฟ้าพลังความร้อนร่วมหินกองและบริษัท หินกองเพาเวอร์โฮลดิ้ง จำกัด ซึ่งเป็นผู้จัดหาเชื้อเพลิงก๊าซธรรมชาติให้กับโรงไฟฟ้า เป็นเงินจำนวน 319 ล้านบาท อีกทั้งโรงไฟฟ้าพลังความร้อนไพตันและกิจการเดินเครื่องและบำรุงรักษาโรงไฟฟ้าไพตัน เป็นเงินจำนวน 518 ล้านบาท นอกจากนี้ โรงไฟฟ้าพลังน้ำทั้งใน สปป. ลาว อินโดนีเซีย และเวียดนาม รวมทั้งโรงไฟฟ้าในออสเตรเลีย ซึ่งมีโรงไฟฟ้าพลังงานลม เป็นส่วนใหญ่ สามารถสร้างรายได้ให้กับบริษัทฯ อย่างมีนัยสำคัญ บริษัทฯ คาดหมายว่า การดำเนินงานในครึ่งปีหลังจะยังคงการเติบโตไว้ได้อย่างต่อเนื่อง ซึ่งเมื่อเร็วๆ นี้ โรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์กาลาบังก้า ในฟิลิปปินส์ สัดส่วนกำลังผลิตตามการถือหุ้น 36.33 เมกะวัตต์ ได้เดินเครื่องเชิงพาณิชย์แล้ว โดยจะรับรู้รายได้ในไตรมาสที่ 3 เป็นต้นไป” นายนิทัศน์ กล่าว
ปัจจุบัน บริษัทฯ มีกำลังผลิตที่อยู่ระหว่างการก่อสร้างและมีกำหนดจะแล้วเสร็จในปีนี้ 3 โครงการ รวมเป็นกำลังผลิตตามสัดส่วนการลงทุน 40.03 เมกะวัตต์ ประกอบด้วย โรงไฟฟ้าอาร์ อี เอ็น โคราช กำลังการผลิต 12.48 เมกะวัตต์ โรงไฟฟ้า นวนคร ส่วนขยายระยะที่ 2 กำลังผลิต 12 เมกะวัตต์ และโรงไฟฟ้าพลังน้ำซองเจียง 1 ในเวียดนาม กำลังการผลิต 5.55 เมกะวัตต์ และโครงการระบบพลังงานแบตเตอรี่ ในออสเตรเลีย 10 เมกะวัตต์ ซึ่งจะช่วยเสริมหนุนผลประกอบการของบริษัทฯ ให้เติบโตแข็งแกร่งได้อย่างต่อเนื่อง
สำหรับฐานะการเงินของบริษัทฯ ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2567 มีสินทรัพย์รวมจำนวน 232,440 ล้านบาท หนี้สินรวมจำนวน 118,284 ล้านบาท และส่วนของผู้ถือหุ้นจำนวน 114,156 ล้านบาท โดยบริษัทฯ มีศักยภาพทางการเงินที่แข็งแกร่งสะท้อนจากอัตราส่วนหนี้สินต่อทุน 1.04 เท่า และอัตราผลตอบแทนผู้ถือหุ้นร้อยละ 4.51
ติดตามช่องทางมิติหุ้นเพื่อรับข่าวสารตลาดทุนได้ตามลิงค์ด้านล่าง
Web : https://www.mitihoon.com/
Facebook : https://www.facebook.com/mitihoon
Youtube : https://www.youtube.com/@mitihoonofficial7770
Tiktok : www.tiktok.com/@mitihoon