มิติหุ้น – TKC ประกาศผลงานไตรมาส 2/67 บุ๊คกำไรอยู่ที่ 82.10 ลบ. โต 8.83% มีรายได้รวม 528.71 ลบ. ลดลง 60.83% จากงวดเดียวกันของปีก่อน เนื่องจากในปี 2566 มีการรับรู้รายได้จากงานโครงการพัฒนาระบบนิเวศศูนย์ดิจิทัลชุมชนอย่างยั่งยืน ซึ่งมูลค่างานสูงกว่างานโครงการที่รับรู้ในปี 2567 และการรับรู้รายได้จากงานโครงการ Broadband ในพื้นที่ศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา และโครงการขยายบริการคลาวด์กลางภาครัฐ “สยาม เตียวตรานนท์” แม่ทัพใหญ่ เผยทิศทางธุรกิจครึ่งปีหลังเติบโตดีกว่าครึ่งปีแรก ปัจจุบันตุน Backlog แน่นราว 2,500 ลบ. สนับสนุนกำไรเป็นไปตามแผนที่บริษัทวางไว้เติบโตไม่น้อยกว่า 10% พร้อมเดินหน้าประมูลงานเสริมแกร่งรายได้ และลุยธุรกิจเมกะเทรนด์ ล่าสุด บอร์ดไฟเขียวซื้อหุ้นสามัญของ OTP โดย TKC และ SKY จะซื้อหุ้นสามัญ OTP จากบริษัท เพียร์ ฟอร์ ยู จำกัด (มหาชน) หรือ PEER ทั้งหมด 5,600,000 หุ้น หรือ คิดเป็นร้อยละ 70 ของจำนวนหุ้นที่ออกและชำระแล้วทั้งหมดของ OTP คาดธุรกรรมจะเสร็จสมบูรณ์ภายในไตรมาส 3/2567
นายสยาม เตียวตรานนท์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เทิร์นคีย์ คอมมูนิเคชั่น เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือ TKC กล่าวว่า ผลประกอบการบริษัทฯ ในงวดไตรมาส 2 ปี 2567 มีกำไรสุทธิอยู่ที่ 82.10 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 6.66 ล้านบาท หรือ 8.83% จากปีก่อน มีรายได้รวม 528.71 ล้านบาท ลดลง 821.15 ล้านบาท หรือ 60.83% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนที่มีรายได้ 1,349.86 ล้านบาท เนื่องจากในปี 2566 บริษัทรับรู้รายได้จากงานโครงการพัฒนาระบบนิเวศศูนย์ดิจิทัลชุมชนอย่างยั่งยืน ซึ่งมูลค่างานสูงกว่างานโครงการที่รับรู้ในปี 2567 งานโครงการให้บริการสื่อสารโทรคมนาคมผ่านเครือข่ายความเร็วสูง (Broadband) ในพื้นที่ศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา และโครงการขยายบริการคลาวด์กลางภาครัฐ
โดยรายได้หลักแบ่งเป็นรายได้จากงานโครงการ 162.23 ล้านบาท ลดลง 76% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน เนื่องจากในปี 2566 บริษัทรับรู้รายได้จากงานโครงการพัฒนาระบบนิเวศศูนย์ดิจิทัลชุมชนอย่างยั่งยืน ซึ่งมูลค่างานสูงกว่างานโครงการที่รับรู้ในปี 2567 งานโครงการให้บริการสื่อสารโทรคมนาคมผ่านเครือข่ายความเร็วสูง (Broadband) ในพื้นที่ศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา และโครงการขยายบริการคลาวด์กลางภาครัฐ
ขณะที่มีรายได้จากงานบริการวิศวกรรมและบำรุงรักษา 352.51 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 138.66 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 64.84% เทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน เนื่องจากบริษัทฯ มีการรับรู้รายได้งานโครงการขนาดใหญ่ โดยเป็นโครงการที่เริ่มดำเนินการในปี 2567 ซึ่งเป็นการรับรู้รายได้จากการให้บริการ โครงการจัดให้มีสัญญาณโทรศัพท์เคลื่อนที่และบริการอินเตอร์ความเร็วสูง โครงการพัฒนาทักษะความรู้ด้านเทคโนโลยีสารสนเทศสู่สังคมดิจิทัล และมีรายได้จากการขาย 9.78 ล้านบาท ลดลง 97.84% เทียบกับงวดเดียวกันของปี 2566 เนื่องจากในปี 2566 บริษัทมีรายได้จากการขายอุปกรณ์ในโครงการพัฒนาระบบนิเวศศูนย์ดิจิทัลชุมชนอย่างยั่งยืน
สำหรับแนวโน้มธุรกิจในช่วงครึ่งปีหลังของปี 2567 เชื่อว่ามีทิศทางการเติบโตที่ดีกว่าครึ่งปีแรกที่ผ่านมา หลังงบประมาณภาครัฐมีผลบังคับใช้ เดินหน้าสู่เป้าหมายกำไรเติบโตไม่น้อยกว่า 10% จากลูกค้าที่เป็นธุรกิจหลัก หรือ Core Business และ New Business จาก 8 กลุ่มธุรกิจของบริษัท พร้อมกันนี้ บริษัทยังคงเดินหน้ากลยุทธ์มุ่งสู่การเป็นที่ 1 ในธุรกิจดิจิทัลโซลูชัน ครอบคลุมด้านโทรคมนาคมและไอซีที ต่อยอดธุรกิจที่เป็นเมกะเทรนด์ในอนาคต เช่น ระบบ Smart Solutions โดยมุ่งเน้น Smart Hospital, Smart Farming, Smart Logistics, Cyber Security, Smart Learning และ Smart Platform ที่เป็นโอกาสสร้างการเติบโตใหม่ๆ โดยเฉพาะด้านที่เกี่ยวกับเทคโนโลยี IoT ร่วมกับการสร้างและออกแบบเน็ตเวิร์กและเซิร์ฟเวอร์มาเสริมสร้าง ประสิทธิภาพ ลดต้นทุน และควบคุมคุณภาพในธุรกิจด้านต่างๆ ซึ่งในตอนนี้บริษัทมีการเซ็นสัญญารับงานกับลูกค้าเข้ามาบ้างแล้ว
ปัจจุบัน TKC มีมูลค่างานในมือ (Backlog) อยู่ที่ราว 2,500 ล้านบาท คาดจะรับรู้รายได้ปีนี้ประมาณ 60% โดยตั้งเป้าความสามารถในการเข้าประมูลประมาณ 10,000 ล้านบาทต่อปี โดยจะเลือกเข้าร่วมประมูลโครงการที่บริษัทมีความเชี่ยวชาญ และตั้งเป้าอย่างน้อยจะมีงานเข้ามาเติมพอร์ต Backlog ประมาณ
4,000-5,000 ล้านบาท ของการเข้าร่วมประมูล
โดยในช่วงครึ่งปีหลังนี้มีงานโครงการใหญ่ๆ ที่จะลงทุนเยอะสุดในกลุ่มลูกค้าที่เป็น Operator เป็นงานซึ่งเป็นธุรกิจหลักของ TKC ยังเดินหน้าตามเป้าหมาย ส่วน New Business ที่เป็นพวก Smart ต่างๆ เช่น Smart Hospital, Smart Farming, Smart Logistics เป็นต้น ซึ่ง TKC คาดหวังจะได้งานโปรเจ็กต์ใหญ่ๆอย่าง คลาวด์ ซึ่งเป็นการยกระดับนโยบายของรัฐบาล สู่ Cloud First Policy หรือการใช้งานระบบคลาวด์เป็นหลัก ซึ่งคาดว่าจะออกมาในช่วงไตรมาส 4 ปีนี้ และปีหน้า ถือเป็นโอกาสของ TKC
“ในปี 2567 บริษัทตั้งเป้ากำไรเติบโตไม่น้อยกว่า 10% จากธุรกิจหลักด้านโทรคมนาคมและไอซีที ที่มีแนวโน้มการเติบโตอย่างต่อเนื่อง ส่วนธุรกิจด้าน Cyber Security ปีนี้น่าจะอยู่ที่ 5% จากรายได้ทั้งหมด และในปีถัดไปจะเติบโตในระดับตัวเลข 2 หลัก ไปอีก 5 ปีต่อจากนี้ โดยมองว่าในปี 2567 จะได้เห็นการเติบโตที่เพิ่มขึ้นอย่างชัดเจน โดยบริษัทมีแผนที่จะขยายสัดส่วนรายได้ประจำ (Recurring Income) ให้เพิ่มเฉลี่ยอย่างน้อยปีละ 7-10% จากปัจจุบันที่มีสัดส่วนรายได้ประจำอยู่ที่ประมาณ 35% ของพอร์ตรายได้รวม” นายสยาม กล่าว
นายสยาม กล่าวเพิ่มเติมว่า เพื่อเป็นการเสริมความแข็งแกร่งและขยายธุรกิจให้กับบริษัท ล่าสุดที่ประชุมคณะกรรมการบริษัท ได้มีมติอนุมัติการเข้าลงทุนโดยการซื้อหุ้นสามัญของ บริษัท วันทูวัน โปรเฟสชั่นแนล จำกัด (OTP) โดย TKC และบริษัท สกาย ไอซีที จำกัด (มหาชน) หรือ SKY จะซื้อหุ้นสามัญ OTP จากบริษัท เพียร์ ฟอร์ ยู จำกัด (มหาชน) หรือ PEER ทั้งหมด 5,600,000 หุ้น หรือ คิดเป็นร้อยละ 70 ของจำนวนหุ้นที่ออกและชำระแล้วทั้งหมดของ OTP โดยส่วนการเข้าถือหุ้นของ SKY ร้อยละ 45 และ TKC ถือหุ้นร้อยละ 25 ทั้งนี้ คาดว่าการดำเนินการเข้าทำธุรกรรมจะเสร็จสมบูรณ์ภายในไตรมาสที่ 3 ปี 2567
ติดตามช่องทางมิติหุ้นเพื่อรับข่าวสารตลาดทุนได้ตามลิงค์ด้านล่าง
Web : https://www.mitihoon.com/
Facebook : https://www.facebook.com/mitihoon
Youtube : https://www.youtube.com/@mitihoonofficial7770
Tiktok : www.tiktok.com/@mitihoon