การเมืองย่ำรอยเดิม SET แรลลี่….กี่โมง

398

   มิติหุ้น- การเมืองไทยไม่ทำให้นักลงทุนผิดหวัง  เพราะไม่เคยคาดหวังจะเป็นปัจจัยบวกอุ้มชูตลาดหุ้นได้ นักลงทุนแค่ภาวนาอย่ามาซ้ำเติมตลาดแค่นั้นพอ

หลังจากนี้ต้องรอฟัง “แพทองธาร ชินวัตร”นายกรัฐมนตรี คนที่ 31 แถลงนโยบาย แต่เบื้องต้นระบุว่าจะสานต่อนโยบายต่างๆ อย่างแน่นอน

ด้านบล.บล.เอเซีย พลัส มองว่าหลังจาก “แพทองธาร ชินวัตร” ขึ้นเป็นนายกรัฐมนตรีคนที่ 31 ด้วยโครงสร้างพรรคร่วมรัฐบาล ที่ไม่เปลี่ยนแปลง โดยมีพรรคเพื่อไทย เป็นพรรคหลัก จึงเชื่อว่า นโยบายต่างๆ น่าจะ ถูกขับเคลื่อนออกมาได้ในช่วงเวลาที่เหลือของปี

ไม่ว่าจะเป็นนโยบายหลักอย่าง ดิจิตอล วอลเล็ต ,กองทุน TESG-วายุภักษ์ การปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำเป็น 400 บาทต่อวัน  ENTERTAINMENT COMPLEX เป็นต้น ซึ่งจะหนุนให้ GDP GROWTH ยังเติบโตเป็น ขั้นบันได ดังที่หลายสำนักเศรษฐกิจคาดการณ์ไว้ได้

ดังนั้นระยะถัดไป SET INDEX มีโอกาสฟื้นเร่งตามตลาดหุ้นโลก จากสูญญากาศทาง การเมืองแคบและเกิดขึ้นไม่นาน จากการที่โหวตนายกฯ ซึ่งถ้าเปรียบเทียบกับเหตุการณ์ในอดีตช่วงโหวต นายกฯ 3 ครั้งที่ผ่านมา พบว่า SET INDEX รีบาวน์ขึ้นทุกครั้งในวันโหวต 0.2% -1.6% และปรับตัวขึ้นเรื่อยๆ 1 สัปดาห์บวก 1.3% -2.0%

ฝ่ายวิจัยยังได้รวบรวมกำไรบริษัทจดทะเบียนงวดล่าสุด Q2/67  ซึ่งได้ประกาศ ออกมาแล้ว 679 บริษัท มีกำไรทั้งสิ้น 2.61 แสนลบ. ดีกว่าตลาดคาดสูงถึง 12.4%  ทำให้กำไรช่วงครึ่งแรกปี 67 อยู่ระดับ 5.3 แสนลบ. ซึ่งประมาณการกำไร 2567 ของ ฝ่ายวิจัยฯอยู่ระดับ 1.12 ล้านล้านบาท จึงทำให้กำไรช่วง ครึ่งหลังปี 67  มีโอกาสโตถึง 27% HOH อยู่ระดับ 5.9 แสนลบ. เนื่องด้วยกำไร Q4/66 อยู่ระดับฐานต่ำกว่า ระดับปกติ

ภาพครึ่งปีหลังของไทยยังดูดี ทั้ง GDP GROWTH และ กำไรบริษัทจดทะเบียน เป็นแรงจูงใจต่อ FUND FLOW ต่างชาติในการซื้อสุทธิ ส่วนความกังวลนโยบาย กระตุ้นเศรษฐกิจที่จะล่าช้า ฝ่ายวิจัยฯคาดเกิดขึ้นแต่ไม่นานนัก เนื่องด้วยโครงสร้าง พรรคร่วมรัฐบาล ที่ไม่เปลี่ยนแปลง

ด้านบล.กรุงศรี ระบุว่า บจ.จำนวน 613 บริษัท รายงานกำไรสุทธิรวมที่ 2.55 แสนลบ. โต 17.6%YoY และลดลง 4.6%QoQ โดยกลุ่มที่มีกำไรเพิ่มขึ้น YoY หลัก ๆ คือ เกษตร เครื่องดื่ม อสังหาริมทรัพย์ พลังงาน ค้าปลีก และกลุ่มเทคโนโลยี ขณะที่กลุ่มที่กำไรหดตัวเมื่อเทียบYoY และ QoQ คือ ยานยนต์ รับเหมา สื่อ

โดยรวมกำไรครึ่งปีแรกออกมา 5.23 แสนลบ. คิดเป็น 47% ของคาดการณ์กำไรที่ตลาดประเมินทั้งปี ที่ 90 บาทต่อหุ้น หรือราว 1.14  ล้านล้านบาท

ภาพรวมกำไรบจ.ครึ่งหลังปี 67 ประเมินว่าจะเร่งขึ้นจากช่วงครึ่งปีแรก รับแรงหนุนจากเทรนด์ดอกเบี้ยขาลง เศรษฐกิจสหรัฐมองเป็นภาพ Soft Landing และเศรษฐกิจจีนค่อยๆ ฟื้น หนุนราคาน้ำมันดิบดูไบ ยืนระดับสมมติฐ ทั้งปี 67-68 ที่ 82 เหรียญ และ 75 เหรียญ เศรษฐกิจไทยคาดGDP Growth ล่าสุดที่ 2.4YoY

เชิงกลยุทธ์คงเป้าหมายดัชนีสิ้นปี 67 ที่ 1,540 จุด บนสมมติฐาน กำไรบจ.ที่ 90 บาท ERP เท่าค่าเฉลี่ย 3.06% ประเมินหุ้นที่คาดเคลื่อนไหวนำตลาดในระยะถัดไป จะอยู่ในกลุ่มที่ทิศทางกำไร Q3/67 ดี เร่งขึ้น QoQ และYoY หลัก ๆ คือ กลุ่มส่งออกอาหาร ชิ้นส่วนที่เป็นช่วงฤดูกาลส่งออก เน้น CPF DELTA HANA กลุ่มโรงไฟฟ้าเน้นGULF กลุ่มDomestic ที่ปรับฐานลึก และจะฟื้นตัวในครึ่งหลังปี 67 เน้นAOT CPALL CPAXT กลุ่มที่ยังอยู่ใน Upcycle ADVANC TRUE WHA  

 

 

 

ติดตามช่องทางมิติหุ้นเพื่อรับข่าวสารตลาดทุนได้ตามลิงค์ด้านล่าง

Web : https://www.mitihoon.com/

Facebook : https://www.facebook.com/mitihoon

Youtube : https://www.youtube.com/@mitihoonofficial7770

Tiktok : www.tiktok.com/