มิติหุ้น – นางสาวชมกมล พุ่มพันธุ์ม่วง ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ดับบลิวพี เอ็นเนอร์ยี่ จำกัด (มหาชน) (WP) ผู้นำการค้าก๊าซปิโตรเลียมเหลว (LPG) ภายใต้แบรนด์ “เวิลด์แก๊ส” เปิดเผยว่า แนวโน้มผลการดำเนินงานครึ่งปีหลังของปี 2567 คาดว่าจะเติบโตได้ดีจากช่วงครึ่งปีแรกที่ผ่านมา เนื่องจากภาพรวมธุรกิจก๊าซปิโตรเลียมเหลว (LPG) ยังคงขยายตัวอยู่ในทิศทางที่ดีต่อเนื่อง ตามความต้องการใช้งานที่เพิ่มขึ้นทั้งในและต่างประเทศ รวมทั้งในภาคครัวเรือนและภาคอุตสาหกรรม ส่งผลให้ยอดขายก๊าซ LPG มีปริมาณเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทำให้ปัจจุบันบริษัทฯ มีส่วนแบ่งการตลาดแบรนด์ “เวิล์ดแก๊ส” อยู่อันดับ 2 หรือคิดเป็น 20%
รวมทั้ง การเติบโตของบริษัทฯ ยังมาจากการรับรู้รายได้ในธุรกิจติดตั้งระบบผลิตพลังงานแสงอาทิตย์บนหลังคา (โซลาร์รูฟท็อป) ปัจจุบันมีการเซ็นสัญญาไปรวมทั้งสิ้น 11 เมกะวัตต์ ซึ่งจะช่วยเพิ่มสัดส่วนรายได้ประจำให้กับบริษัทฯ หนุนผลการดำเนินงานเติบโตอย่างมีเสถียรภาพในอนาคต
“ภาพรวมอุตสาหกรรมก๊าซปิโตรเลียมเหลว (LPG) จะยังคงขยายตัวอย่างต่อเนื่อง ทั้งในภาคครัวเรือนและภาคอุตสาหกรรมที่มีความต้องการใช้มากขึ้น รวมถึงราคาก๊าซ LPG ที่ปรับตัวสูงขึ้น ทำให้มั่นใจว่าผลการดำเนินงานในช่วงครึ่งปีหลัง บริษัทฯ จะยังรักษาเป้าหมายการเติบโตทั้งในส่วนของรายได้และกำไรให้อยู่ในทิศทางบวกต่อไปในทุกๆ ไตรมาส” นางสาวชมกมล กล่าว
สำหรับแผนการดำเนินงานในปี 2567 บริษัทฯ ตั้งเป้ารายได้แตะที่ระดับ 18,250 ล้านบาท โดยมาจากยอดขายก๊าซ LPG จำนวน 820,000 ตัน และมีแผนขยายจุดกระจายสินค้าภาคครัวเรือนให้ครอบคลุมทุกพื้นที่ทั่วประเทศ เพื่อให้สามารถกระจายสินค้าและเข้าถึงลูกค้าได้ครอบคลุมทุกพื้นที่มากขึ้น โดยปัจจุบันมีจุดกระจายสินค้ากว่า 175 แห่งทั่วประเทศ รวมถึงเพิ่มผลิตภัณฑ์ “แก๊สกระป๋อง” ภายใต้แบรนด์ เวิลด์แก๊ส เพื่อตอบโจทย์ผู้บริโภคในการพกพา สะดวก ปลอดภัย หาซื้อได้ง่ายด้วยการจัดจำหน่ายทั่วประเทศรองรับความต้องการของผู้บริโภค
อีกทั้ง ทางบริษัทฯ มีการวางกลยุทธ์ทางด้านการตลาดเพิ่มขึ้น รวมถึงการทำภาพยนตร์โฆษณาชุดใหม่เผยแพร่ตามสื่อต่างๆ การจัดกิจกรรมออกบูธ และจัดงานสัมมนาผู้ประกอบการด้านอาหาร เพื่อให้ผู้บริโภคสามารถเข้าถึงแบรนด์ “เวิลด์แก๊ส” ได้อย่างตรงจุด อนึ่ง ผลการดำเนินงานไตรมาสที่ 2/2567 ของบริษัทฯ มีรายได้รวม 4,549.01 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 3.35% เทียบงวดเดียวกันของปีก่อน และมีกำไรสุทธิ 36.69 ล้านบาท คิดเป็นอัตรากำไรสุทธิเพิ่มขึ้นเท่ากับ 38.18 % เพิ่มจากไตรมาสเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 26.55 ล้านบาท ปัจจัยที่ส่งผลให้รายได้และกำไรเพิ่มขึ้น มาจากบริษัทฯ สามารถบริหารต้นทุนและควบคุมค่าใช้จ่ายได้ดีขึ้น และมียอดขายก๊าซปิโตรเลียมเหลว (LPG) ที่เพิ่มขึ้น นอกจากนี้ยังได้รับปัจจัยบวกจากราคาขายก๊าซ LPG ที่ปรับตัวสูงขึ้นตามราคาตลาดโลก
ติดตามช่องทางมิติหุ้นเพื่อรับข่าวสารตลาดทุนได้ตามลิงค์ด้านล่าง
Web : https://www.mitihoon.com/
Facebook : https://www.facebook.com/mitihoon
Youtube : https://www.youtube.com/@mitihoonofficial7770
Tiktok : www.tiktok.com/@mitihoon