EA เคลียร์หนี้ระยะสั้นได้หมด เร่งจัดหาแหล่งเงินทุน พร้อมไปต่อยานยนต์ไฟฟ้า-น้ำมันเชื้อเพลิงอากาศยานยั่งยืน

413

มิติหุ้น  –  บริษัท พลังงานบริสุทธิ์ จำกัด (มหาชน) (EA) ได้มีการจัดประชุมผู้ถือหุ้นกู้ 12 รุ่น รวมวงเงินทั้งสิ้นประมาณ 24,000 ล้านบาท การประชุมกับผู้ถือหุ้นกู้ที่จัดขึ้นครั้งนี้เพื่อเป็นการขอให้ยอมรับว่ามีการเปลี่ยนแปลงเงื่อนไขของหุ้นกู้รุ่นอื่นที่เป็นข้อกำหนดสิทธิ โดยในที่ประชุมผู้ถือหุ้นกู้โหวตยินยอมให้มีการเปลี่ยนแปลงเงื่อนไข ส่งผลให้บริษัทสามารถแก้ไขปัญหาหนี้ระยะสั้นได้จบทั้งหมด พร้อมเดินหน้าดำเนินธุรกิจตามแผนที่วางไว้

โดยในรายละเอียดการประชุมผู้ถือหุ้นกู้ที่จัดขึ้นนี้เพื่อพิจารณาวาระ“การขอผ่อนผันให้ (1) การเปลี่ยนแปลงวันครบกำหนดไถ่ถอนตั๋วแลกเงิน ระยะสั้นรุ่น EA24723A และ EA24801A และ (2) การขอขยายวันครบกำหนดไถ่ถอนหุ้นกู้ EA248A และ EA249A รวมถึงการเสนอปรับเพิ่มอัตราดอกเบี้ย การให้หลักประกันและการเข้าทำสัญญาใด ๆ ที่เกี่ยวข้อง ไม่ถือเป็นเหตุผิดนัดตามข้อ 11.1 (ญ) ของข้อกำหนดสิทธิ” โดยแบ่งการประชุมเป็น 4 กลุ่ม ช่วงเช้าและบ่าย ในช่วงเช้าเป็นการประชุมผู้ถือหุ้นกู้  รุ่น EA249A EA269A EA289A มีผู้ถือหุ้นกู้ร้อยละ 97.5 ได้ลงมติ

อนุมัติเห็นด้วย และมีเพียงร้อยละ 2.5  ไม่เห็นด้วย และในช่วงบ่ายเป็นการประชุมผู้ถือหุ้นกู้ 3 กลุ่มด้วยกันดังนี้ กลุ่มที่ 1 รุ่น EA257A,  มีผู้ถือหุ้นกู้ร้อยละ 100.00 ได้ลงมติอนุมัติเห็นด้วย กลุ่มที่ 2 รุ่น EA259A, EA279A, EA299A, EA329A มีผู้ถือหุ้นกู้ร้อยละ 63.79 ได้ลงมติอนุมัติเห็นด้วย และมีเพียงร้อยละ 36.21 ไม่เห็นด้วย และกลุ่มที่ 3 EA261A, EA281A, EA301A, EA331A  มีผู้ถือหุ้นกู้ร้อยละ 61.19  ได้ลงมติอนุมัติเห็นด้วย และมีเพียงร้อยละ 38.81  ไม่เห็นด้วย การจัดประชุมครั้งนี้ถึงแม้จะไม่สามารถจัดแบบ Hybrid แต่ก็ได้ประชาสัมพันธ์ให้ผู้ถือหุ้นสามารถเข้ามาร่วมประชุมที่สถานที่จัดประชุมและสอบถามข้อกังวลได้

นายวสุ กลมเกลี้ยง ประธานเจ้าหน้าที่บริหารการเงิน (CFO) ของ EA กล่าวว่า “ขอขอบคุณผู้ถือหุ้นกู้ทุกรุ่นที่ให้ความร่วมมือและไว้วางใจลงมติอนุมติให้บริษัทเดินหน้าต่อไป ขอขอบคุณสถาบันการเงินทุกแห่งที่เกี่ยวข้อง วันนี้ EA เคลียร์ปัญหาหนี้ได้ ช่วงเวลาต่อจากนี้จะเป็นช่วงเวลาที่สำคัญในการเรียกความเชื่อมั่นของนักลงทุนกลับมา ด้วยธุรกิจของบริษัทยังคงดำเนินตามปกติ ผู้บริหารชุดใหม่พร้อมเดินเครื่องการทำงานเต็มที่และมั่นใจว่าจะขับเคลื่อนบริษัทให้เติบโตต่อไป”

“ก้าวต่อไปบริษัทกำลังเดินหน้าจัดหาแหล่งเงินทุนทั้งจากสถาบันการเงินในและต่างประเทศ รวมถึงกำลังเจรจาหา Strategic Partners ที่มีศักยภาพ เพื่อสร้างความแข็งแกร่งทางด้านการเงิน เพิ่มศักยภาพในการชำระหนี้และพัฒนาธุรกิจ ขณะเดียวกันก็ยังดำเนินการนำรายได้ในอนาคตเข้ากองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐาน (Infrastructure Fund) เสนอขายให้กับนักลงทุน คาดว่าภายในสิ้นปีนี้ก็จะมีความคืบหน้าที่ชัดเจน” นายวสุกล่าวเพิ่มเติม

“ช่วงเวลานับจากนี้เป็นช่วงเวลาของการเดินหน้าธุรกิจที่เป็นเมกะแทรนด์โลก ทั้งด้านแบตเตอรี่และยานยนต์ไฟฟ้าขนส่งเชิงพาณิชย์ที่พร้อมในการส่งมอบรถหัวลากไฟฟ้าและรถบรรทุกไฟฟ้า รวมถึงการลงทุนโครงการใหม่ได้แก่ การผลิตน้ำมันเชื้อเพลิงอากาศยานยั่งยืน  (Sustainable Aviation Fuel : SAF)เพื่อขับเคลื่อนสังคมไทยสู่สังคมที่ไร้มลพิษตามพันธกิจของบริษัท” นายวสุกล่าวทิ้งท้าย