มิติหุ้น – จิตรฤดี พนิตพล รองกรรมการผู้จัดการ กลุ่มสินค้าแฟชั่นและนาฬิกา บริษัท เซ็นทรัล มาร์เก็ตติ้ง กรุ๊ป จำกัด (CMG) ในเครือเซ็นทรัล รีเทล เผยว่า “CMG ผู้นำธุรกิจจัดจำหน่ายและบริหารสินค้าแบรนด์แฟชั่นชั้นนำระดับโลก ที่ประกอบด้วยหลากหลายแบรนด์ดัง ครอบคลุมทุกทาร์เก็ตตั้งแต่สตรีทแบรนด์ไปจนถึงลักซ์ซูรีแบรนด์ ทำให้วันนี้ CMG ขึ้นแท่นเป็นผู้นำวงการสินค้าแฟชั่นของเมืองไทย ที่มีส่วนช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจ สร้างเม็ดเงินมหาศาลให้กับประเทศ ซึ่งเมื่อเจาะเฉพาะตลาดสินค้าแฟชั่นประเภทเดนิมหรือยีนส์ในประเทศไทยแล้ว พบว่า ในปีที่ผ่านมากลุ่มสินค้ายีนส์นับว่าเป็นพอร์ตใหญ่ของกลุ่มแฟชั่นของไทยเพราะมีมูลค่าทางการตลาดสูงเกือบ 20,000 ล้านบาท ซึ่งคาดการณ์ว่าปีนี้ตลาดแฟชั่นยีนส์จะยังคงขยายตัวอย่างต่อเนื่อง ราว 5 – 10% จากปีที่แล้ว
ด้วยปัจจัยการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจและภาคการท่องเที่ยว ด้วยเหตุนี้ CMG จึงเตรียมกลยุทธ์ทางการตลาดแบบ 360 องศา ที่จะช่วยให้เราสามารถเข้าถึงลูกค้ากลุ่มเป้าหมายได้อย่างมีประสิทธิภาพ พร้อมรักษาฐานลูกค้าเก่าและเจาะกลุ่มลูกค้าใหม่ให้กว้างมากยิ่งขึ้น ผ่านการนำเสนอคอลเลกชันใหม่ๆ ที่เน้นเรื่องดีไซน์ การตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของลูกค้าในปัจจุบัน ควบคู่กับการขยายช่องทางขายทั้งหน้าร้านและพัฒนาระบบของช่องทางออนไลน์ให้มีประสิทธิภาพ โดยเฉพาะอย่างยิ่งช่องทาง Tiktok ที่เติบโตเป็นอย่างมาก พร้อมเสริมทัพด้วยแบรนด์ใหม่เพื่อตอกย้ำการเป็นผู้นำตลาด แฟชั่น รีเทลที่ไม่เคยหยุดนิ่ง ทั้งนี้ Wrangler เป็นหนึ่งแบรนด์ในเครือ CMG ที่มีศักยภาพและมีมูลค่าทางการตลาดสูงที่จะทำให้กลุ่มสินค้าแฟชั่นยีนส์ของ CMG เติบโตอย่างแข็งแกร่ง”
อำนาจ สุเมธาศร ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ กลุ่มสินค้าเดนิม และ Owned brands บริษัท เซ็นทรัล มาร์เก็ตติ้ง กรุ๊ป จำกัด (CMG) ในเครือเซ็นทรัล รีเทล กล่าวว่า “Wrangler เป็นแบรนด์ยีนส์ระดับตำนานที่มีความเชี่ยวชาญเรื่องยีนส์ตั้งแต่ปี 1947 หรือกว่า 77 ปี ถือได้ว่าเป็นหนึ่งแบรนด์ในตลาดยีนส์ ที่ Collector หา และซื้อไปสะสม Wrangler ไม่ได้นำเสนอแค่สินค้ายีนส์ แต่นำเสนอคุณภาพและความพรีเมี่ยมของสินค้าที่เป็น Limited Edition สำหรับคนเล่นยีนส์ อีกทั้งตลาดยีนส์ในประเทศไทยมีการแข่งขันด้านราคาสูง ทาง Wrangler ได้ตระหนักว่า การแข่งขันในเรื่องราคานั้นไม่สามารถทำให้แบรนด์เติบโตอย่างยั่งยืนได้ ดังนั้นแบรนด์จึงมีแนวทางในการพัฒนาสินค้าและคุณภาพ เพื่อให้ตอบสนองต่อความต้องการของลูกค้าอย่างยั่งยืน นอกจากนี้เรายังต้องการให้ลูกค้าของ Wrangler สวมใส่ยีนส์ของเราด้วยความมั่นใจและความสุขโดยมุ่งเน้นที่คุณภาพและความมีเอกลักษณ์ของสินค้าอีกด้วย”
ที่ผ่านมา Wrangler ได้นำกลยุทธทางการตลาดต่างๆ มาใช้ในการสร้าง Brand Image เพื่อให้แบรนด์เป็นที่จดจำ โดดเด่นเหนือคู่แข่ง และสามารถเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้อย่างตรงจุด ด้วยการจัดกิจกรรมพิเศษ การทำคอลเลกชันเอ็กซ์คลูซีฟ หรือการจับมือกับพาร์ทเนอร์ต่างๆ อาทิ Wrangler X Carabao ที่ร่วมกันจัดแคมเปญพิเศษเพื่อส่งเสริมการขาย ซึ่งมีลูกค้าให้ความสนใจเป็นจำนวนมาก ทำให้แบรนด์สามารถเข้าถึงลูกค้าในวงกว้างมากขึ้น รวมถึงการใช้คนดังมาเป็นแบรนด์แอมบาสเดอร์เพื่อตอกย้ำ Brand Identity ของ Wrangler
ล่าสุด เราได้นำกลยุทธ์ “Celebrity Marketing” มาเป็นกลยุทธ์ทางการตลาดเพื่อสร้างกระแสและเชื่อมต่อกับกลุ่มลูกค้าเป้าหมาย ด้วยการดึงนักแสดงชื่อดังมากความสามารถ อย่าง ‘เกรท วรินทร ปัญหกาญจน์’ มาเป็น Brand Ambassador คนล่าสุดของแบรนด์ ด้วยคาแรกเตอร์และไลฟ์สไตล์ที่สอดคล้องกับ DNA ของแบรนด์คือ ผู้ชายที่มีความเท่ ทะมัดทะแมงคล่องตัว รักการผจญภัย และเป็นผู้ที่ชื่นชอบการใส่ยีนส์ในชีวิตประจำวัน นอกจากนี้ ‘เกรท วรินทร’ ยังช่วยส่งเสริมภาพลักษณ์ของแบรนด์ให้มีความพรีเมียมมากขึ้น รวมทั้งช่วยขยายฐานลูกค้าไปยังกลุ่ม Younger Customer ได้ดีอีกด้วย”
นอกจากการเปิดตัวแบรนด์แอมบาสเดอร์คนใหม่แล้ว ครั้งนี้ Wrangler ยังเปิดตัวคอลเลกชัน Fall / Winter 2024 กับคอลเลกชัน “Legend of Wrangler New collection” ที่เตรียมวางจำหน่ายสินค้าทั้งหน้าร้านและออนไลน์ในวันที่ 1 สิงหาคม 2567 โดยคอลเลกชันนี้มาพร้อม 4 ความพิเศษ ได้แก่
- ผ้าคอตตอนจากสหรัฐอเมริกา: ใช้คอตตอนที่ดีที่สุด ซึ่งมีเส้นใยยาว แข็งแรง และระบายอากาศได้ดี โดยผ้าคอตตอน 100% จะถูกนำมาผลิตในสินค้ากลุ่มเสื้อยืด
- ผ้าญี่ปุ่นสำหรับกางเกงยีนส์รุ่น WRANGLER PREMIUM AUTHENTIC: ซึ่งเป็น Limited Edition ด้วยการนำวิธีการตัดเย็บสุดปราณีตแบบดั่งเดิมของ Wrangler ในสไตล์ Authentic Western Jeans มารวมกับการเลือกใช้ผ้าที่สั่งทอพิเศษจากประเทศญี่ปุ่น ที่มีทั้งผ้ายีนส์ริมน้ำเงิน (Blue Selvedge) และผ้าทอทางซ้าย (Left hand twill) ที่ถูกทอและย้อมคราม (indigo) อย่างพิถีพิถันตามแบบฉบับ Fabric From Japan พร้อมเลือกใช้ป้ายติดกางเกงที่ทำจากยาง Neolite ซึ่งผลิตจากยางรีไซเคิล นับเป็นผลิตภัณฑ์เชิงนวัตกรรมที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ด้วยคุณสมบัติที่นุ่ม ยืดหยุ่น กันน้ำ และดูแลรักษาง่าย จึงทำให้มีความทนทานและมีอายุการใช้งานที่ยาวนาน ทั้งยังแสดงถึงความยั่งยืน (Sustainable) อีกด้วย โดยป้ายกางเกงนี้เป็นป้ายที่ใช้กับกางเกงแบบดั่งเดิมซึ่งยังใช้มาจนถึงทุกวันนี้
- ยีนส์สีออฟไวท์รุ่น 13 MWZ: ยีนส์ทรงดั้งเดิมที่สามารถแมตช์กับเสื้อได้ทุกสี พร้อมกับเครื่องแต่งกายอื่นๆ เช่น เดนิมเชิ้ต และกางเกง Chino ผ้า Cotton Twill ที่มีให้เลือกถึง 4 สี สามารถแมตช์กับเสื้อยืดในวันสบายหรือเสื้อเชิ้ตสำหรับวันทำงาน และกางเกง Corduroy ผ้าลูกฟูกสวมใส่สบายกับ 4 สี ซึ่งกำลังเป็นเทรนด์แฟชั่นโลกในคอลเลคชันนี้ เป็นต้น
- เอกลักษณ์ระดับตำนาน: 7 ซิกเนเจอร์ (7 Icons)ที่โดดเด่น ได้แก่
- ป้ายหนัง Wrangler โลโก้เชือก ที่มีมานานกว่า 77 ปี เป็นตัวแทนความคงทนของสินค้าคุณภาพสูง
- กระดุมโลโก้ลายเชือก แสดงออกถึงความเป็น Western Jeans
- ลายปักตะเข็บรูปตัวอักษร “W” ที่กระเป๋าหลังทั้ง 2 ด้าน ที่แสดงออกถึงความเป็น Wrangler
- การเย็บตะเข็บตัดต่อด้านหลังแบบคว่ำลงเพื่อป้องกันการหลุด หล่นของสิ่งของในกระเป๋าหลัง
- หูเข็มขัด 7 หู ที่ถูกออกแบบมาเพื่อช่วยพยุงเอว และ เข็มขัดให้แน่นกระชับอยู่ทรง
- กระเป๋าใส่นาฬิกา แบบพกพา Style Western ที่มีขนาดใหญ่กว่าแบรนด์ทั่วไป มีรูปทรงโค้งมนไปตามสรีระ
- หมุดหน้าเรียบช่วยป้องกันการขีดข่วน
“ในปีนี้ Wrangler เตรียมบุกตลาดยีนส์เต็มสูบ ตั้งเป้าหมายธุรกิจเติบโต 20% ด้วยการนำคอลเลกชันใหม่และเอ็กซ์คลูซีฟคอลเลกชันมาเอาใจคนรักยีนส์ อย่าง Bluebell Collection ที่ทางแบรนด์ได้ลิขสิทธิ์ เป็นคอลเลกชันที่หายากและเป็นพรีเมียมคอลเลกชันเหมาะกับนักสะสมยีนส์ตัวจริง พร้อมเตรียมขยายช่องทางจำหน่ายที่มีมากกว่า 140 สาขาครอบคลุมทั่วทั้งประเทศ นอกจากนี้ ยังมีช่องทางจัดหน่ายสินค้าผ่านทางออนไลน์อีกหลากหลายทั้ง https://wrangler.co.th, Central.co.th, Lazada, Shopee รวมถึง wranglerthailand tiktok shop และ Line Official : @wranglerthailand ซึ่งเป็นช่องทาง Chat & Shop ให้ลูกค้าสามารถช้อปสินค้าได้อย่างสะดวกสบายและเป็นการรองรับการขยายตัวของตลาด” อำนาจ กล่าวทิ้งท้าย
ติดตามช่องทางมิติหุ้นเพื่อรับข่าวสารตลาดทุนได้ตามลิงค์ด้านล่าง
Web : https://www.mitihoon.com/
Facebook : https://www.facebook.com/mitihoon
Youtube : https://www.youtube.com/@mitihoonofficial7770
Tiktok : www.tiktok.com/@mitihoon