CGSI : Trend Spotter

22

มิติหุ้น – Trend Spotter
• ตลาดหุ้นสหรัฐ : ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปิดผสมผสาน ดัชนี DJIA ปิดแทบไม่เปลี่ยนแปลงที่ +0.09% ในขณะที่ S&P500 และ Nasdaq ปิดที่ -0.16% และ -0.3% ตามลำดับ แม้ตลาดจะได้รับปัจจัยบวก หลังรายงานตัวเลขตำแหน่งงานว่างเปิดใหม่เดือนก.ค. จาก JOLTs เมื่อวานนี้ (4 ก.ย.) ลดลงมาที่ระดับ 7.7 ล้านตำแหน่ง ต่ำกว่าที่ตลาดคาดการณ์ที่ 8.1 ล้านตำแหน่ง ส่งผลให้นักลงทุนคลายความกังวลต่อตลาดแรงงาน และ อาจเป็นปัจจัยสนับสนุนให้เฟดปรับลดอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนนี้

อย่างไรก็ตาม ตลาดได้รับแรงกดดันจากหุ้นกลุ่มพลังงานที่ปรับตัวลดลง 1.41% ตามราคาน้ำมันดิบที่ร่วงลง จากแนวโน้มอุปสงค์น้ำมันชะลอตัว หลังตัวเลขเศรษฐกิจของจีนและสหรัฐฯ อ่อนแอ รวมถึงอุปทานน้ำมันที่เพิ่มขึ้น เนื่องจากนักลงทุนคาดว่าลิเบียจะกลับมาผลิตน้ำมันตามปกติ หลังประเด็นการเมืองในประเทศอาจคลี่คลาย

สำหรับวันนี้ ติดตาม 1)ตัวเลขจ้างงานภาคเอกชนเดือนส.ค. จาก ADP 2) ดัชนี PMI ภาคการบริการ นอกจากนี้ ติดตามการประกาศตัวเลข Nonfarms Payrolls ในวันพรุ่งนี้ (6 ก.ย.)

• SET Index : เราคาดว่า SET Index จะแกว่ง sideway แดนบวก-ลบ ปรับฐานทดสอบแรงซื้อและแรงขาย ในกรอบ 1,360 +/- 10 จุด โดยเมื่อวานนี้มีการโปรดเกล้าฯ ครม. อย่างเป็นทางการ ส่งผลให้ตลาดคาดหวังต่อการแถลงนโยบายเพื่อฟื้นฟูความเชื่อมั่นด้านเศรษฐกิจ โดยเฉพาะความชัดเจนเรื่องการแจกเงินดิจิทัลในส่วนที่เหลือ และ การเปิดขายกองทุนวายุภักษ์ ที่ตลาดคาดว่าจะช่วยเสริมเสถียรภาพให้ตลาดทุนไทย

สำหรับรายละเอียดกองทุน “วายุภักษ์ 1” นั้น ผู้ลงทุนทั่วไปที่ถือครองเป็นระยะเวลา 10 ปี จะได้รับการค้ำประกันเงินทุน โดยผลตอบแทนขั้นต่ำจะอยู่ที่ระดับ 3% และ ผลตอบแทนสูงสุดจะอยู่ที่ระดับ 7-9% เรามองว่ามีแนวโน้มสูงที่กลุ่มธนาคารจะเป็นผู้ได้รับประโยชน์สูงสุดจากกองทุนนี้ เนื่องจากการบริหารจัดการเชิงรุกของกองทุน และ การรับประกันผลตอบแทน นอกจากนี้ เราเชื่อว่ากองทุนจะมุ่งเน้นไปที่บริษัทที่มีมูลค่าตามราคาตลาดขนาดใหญ่ บริษัทผูกขาดรายใหญ่ ตลอดจนบริษัทที่มีศักยภาพเติบโต

ติดตามรายงานดัชนีราคาผู้บริโภคเดือนส.ค. ของไทยในวันพรุ่งนี้ (6 ก.ย.) ที่ตลาดคาดว่าจะลดลงสู่ระดับ 0.40% yoy

• หุ้นแนะนำ
BDMS : ตลาดหุ้นยังมีความผันผวนช่วงพักฐาน เรายังคงแนะนำหุ้นกลุ่ม Defensive

BDMS มีรายได้จากผู้ป่วยชาวต่างชาติเพิ่มขึ้น 11% yoy ใน 2Q24 vs. 12% yoy ใน 1Q24 เราเชื่อว่าจำนวนผู้ป่วยชาวต่างชาติที่เพิ่มขึ้น และ ผลกำไรที่แข็งแกร่งรายไตรมาส อาจช่วยดันให้ราคาหุ้นปรับตัวสูงขึ้น

(Take profit : 29.00 / Stop loss : 27.25)

OR : เราเชื่อว่าราคาน้ำมันดิบที่ปรับตัวลงจะเป็นปัจจัยบวกต่ออุปสงค์น้ำมันในประเทศ และ เป็นแรงสนับสนุนต่อ OR เนื่องจากปริมาณการจำหน่ายที่เพิ่มขึ้น นอกจากนี้ ธุรกิจ Non-oil ของ OR มี EBITDA เพิ่มขึ้นเป็น 1,614 ล้านบาท (+1.4% yoy) ใน 2Q24

(Take profit : 15.80 / Stop loss : 15.00)

#MacroWealthResearch
#CGSInternational

ติดตามช่องทางมิติหุ้นเพื่อรับข่าวสารตลาดทุนได้ตามลิงค์ด้านล่าง

Web : https://www.mitihoon.com/
Facebook : https://www.facebook.com/mitihoon
Youtube : https://www.youtube.com/@mitihoonofficial7770
Tiktok : www.tiktok.com/@mitihoon