CGSI : Trend Spotter

33

มิติหุ้น – Trend Spotter
• สรุปภาพรวมตลาด: ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ดัชนี DJIA และ S&P500 ปิดในแดนลบในขณะที่ Nasdaq ปรับตัวเพิ่มขึ้นเล็กน้อยผันผวนหลังนักลงทุนรอตัวเลขการจ้างงานนอกภาคการเกษตรเดือนส.ค. ในคืนนี้ (6 ก.ย.) ซึ่งตลาดคาดว่าจะเพิ่มขึ้นจากเดือนก.ค. สู่ระดับ 1.64 แสนตำแหน่ง

สำหรับสินทรัพย์อื่นๆ ราคาน้ำมันดิบสหรัฐปรับตัวลดลง แม้ล่าสุด OPEC+ จะตัดสินใจเลื่อนแผนเพิ่มกำลังการผลิตน้ำมันออกไป 2 เดือน หลังราคาน้ำมันร่วงลง

ในฝั่งของตลาดหุ้นจีน ล่าสุดมีรายงานว่าจีนเตรียมพิจารณาปรับลดอัตราดอกเบี้ยสินเชื่อที่อยู่อาศัยลง 0.8% เพื่อช่วยลดภาระหนี้ในการกู้ยืมให้กับครัวเรือน ซึ่งปัจจุบันมียอดสินเชื่อค้างชำระอยู่ที่ 5.3 ล้านล้านเหรียญสหรัฐ รวมถึงบรรเทาผลกระทบในฝั่งธนาคารจากกำไรที่ลดลง เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจที่ชะลอตัว การดำเนินงานจะแบ่งออกเป็น 2 ระยะ โดยตลาดคาดว่าการปรับลดครั้งแรกจะเกิดขึ้นในไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า

• SET Index : เราคาดว่า SET Index จะเคลื่อนไหวในกรอบ 1,395 – 1,420 จุด ระวังแรงขายท้ายตลาดก่อนหยุดสุดสัปดาห์และตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตร

ตลาดได้รับปัจจัยสนับสนุนจาก
1) ความชัดเจนของกองทุนวายุภักษ์ โดยกระทรวงการคลังคาดว่าจะมีเม็ดเงินใหม่เข้ามาในตลาดราว 1.5 แสนล้านบาท และ สามารถเริ่มลงทุนในตลาดได้ประมาณเดือนต.ค.

เราประเมินว่าขนาดของกองทุนวายุภักษ์และกองทุน ESG รวมกัน จะมีผลกระทบต่อตลาดผลักดันให้ดัชนี SET พุ่งขึ้นประมาณ 5% หรือประมาณ 70 จุดใน 4Q24F

2) การปรับน้ำหนักลงทุนในตลาดโลกจาก Growth stock มาเป็น Value stock ซึ่งธุรกิจไทยส่วนใหญ่เป็นหุ้นประเภทนี้ และ

3) แรงซื้อจากกลุ่มนักลงทุนสถาบัน และ ต่างชาติที่ซื้อสุทธิหุ้นไทย 7.4 พันล้าน มากสุดในรอบ 1 ปี 9 เดือน เมื่อวานนี้ ส่งผลให้เงินบาทแข็งค่าขึ้น โดยปิดที่ระดับ 33.65 บาทต่อดอลลาร์

ฝั่งการเมือง ล่าสุด สภาผู้แทนราษฎรเมื่อวานนี้มีมติเห็นชอบร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายปี 68 ซึ่งมีการตั้งวงเงินงบประมาณ จำนวน 3.7 ล้านล้านบาท และ จะมีการส่งร่างพ.ร.บ. นี้ไปยังวุฒิสภา เพื่อพิจารณาต่อไปในวันที่ 9-10 ก.ย และ สามารถเริ่มใช้ได้ใน ต.ค. 2025F

• หุ้นแนะนำ
CRC : เราเชื่อว่าเงินบาทที่แข็งค่าขึ้น จะช่วยลดต้นทุนในการนำเข้าสินค้าแบรนด์เนมและแฟชั่นจากต่างประเทศ ส่งผลให้ CRC สามารถปรับลดราคาขายสินค้า และ มีความสามารถในการแข่งขันมากขึ้น นอกจากนี้ ยอดขายของ CRC โดยเฉพาะที่ตั้งในสถานที่ท่องเที่ยวจะมีเม็ดเงินจากนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้ามาเพิ่มขึ้น

(Take profit : 32.50 / Stop loss : 30.50)

LH : เราเชื่อว่าเงินเฟ้อไทยที่ยังคงเติบโตจะเป็นปัจจัยบวกต่อหุ้นกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ โดยเราคาดว่าธปท. น่าจะตรึงดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ 2.50% ในปี 2024 และปรับลดใน 1H25

มากไปกว่านั่นเราคาดว่า LH จะเป็นอีกหนึ่งเป้าหมายของกองทุนวายุภักษ์เนื่องจากมีอัตราผลตอบแทนที่สูง

(Take profit : 6.10 / Stop loss : 5.55)

#MacroWealthResearch
#CGSInternational

ติดตามช่องทางมิติหุ้นเพื่อรับข่าวสารตลาดทุนได้ตามลิงค์ด้านล่าง

Web : https://www.mitihoon.com/
Facebook : https://www.facebook.com/mitihoon
Youtube : https://www.youtube.com/@mitihoonofficial7770
Tiktok : www.tiktok.com/@mitihoon