ดัชนีหุ้นไทยปรับขึ้นมาอย่างรวดเร็วทะลุ 1,400 จุด หรือกว่า 120 จุด เพียง 20วัน เท่านั้น ซึ่งเสียงส่วนใหญ่นั้นมาจากความชัดเจนของปัจจัยการเมืองตั้งแต่วันที่ 16 ส.ค.67 ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นวันที่มีการประชุมสภาผู้แทนราษฎรเพื่อลงคะแนนโหวตเลือกนายกรัฐมนตรีคนที่ 31 ปรากฎว่า “อุ๊งอิ๊ง–แพทองธาร ชินวัตร” ได้คะแนนโหวตสูงสุดจึงกลายเป็นนายกรัฐมนตรีหญิงที่อายุน้อยที่สุดจากพรรคเพื่อไทย ดัชนีหุ้นไทยนับจากวันนี้ก็พากันแรลลี่ปรับขึ้นต่อเนื่องจากดัชนี่ที่ต่ำกว่า 1,300 จุด
ดูเหมือนทุกอย่างจะเป็นใจ ต่างชาติจากที่ขายๆต่อเนื่องกว่าแสนล้านตั้งแต่ต้นปีก็ปรับเป็นซื้อ ส่วนหนึ่งก็คงหลีกเลี่ยงไม่ได้ว่านโยบายรัฐบาลพรรคเพื่อไทยที่ไฟเขียวให้จัดตั้งกองทุนพยุงหุ้นผ่านกองทุนวายุภักษ์1 เริ่มให้ประชาชนทั่วไปจองนที่ 16-20 ก.ย.67 และจากนั้นจะเปิดให้นักลงทุนสถาบัน จองซื้อได้ วันที่ 18-20 ก.ย.67 และคาดจะเริ่มลงทุนได้ช่วงเดือนต.ค.67 นี้ ด้านผลตอบแทนยังมีการันตีขั้นต่ำ 3% และขั้นสูงที่ 7% โดยหลักๆจะเลือกลงทุนทั้งหุ้นและตราสาหนี้ ซึ่งหุ้นที่ลงทุนจะเน้นหุ้น Big-Cap และ Mid/Small-cap ที่มีคะแนน ESG สูง
รับผลดี 3 เด้ง
ด้าน บล.ทิสโก้ ระบุว่า หุ้นที่ได้ประโยชน์จากกองทุน TESG และ กองทุนวายุภักษ์ ได้แก่ PTT, SCB, TTB, KTB, AOT, CPALL BDMS รวมทั้งยังได้รับอานิสงส์ แรงซื้อคืนของต่างชาติยังมีแนวโน้มต่อเนื่อง แม้ว่า YTD ต่างชาติยังมียอดขายสุทธิสูงกว่า 1.2 แสนลบ.
คาดQ4/67มีเม็ดเงินเข้าลงทุนหุ้นไทยราว 1.7 แสนล้าน
เช่นเดียวกับ บทวิเคราะห์ บล.ซีจีเอส อินเตอร์เนชั่นแนล (ประเทศไทย) ระบุว่า คาดเม็ดเงินลงทุนจากกองทุนรวมวายุภักษ์และ กองทุน Thai ESG รวมกันเม็ดเงินราวๆ 1.7 แสนลบ.ในช่วง Q4/67 นี้ และจะหนุนให้ดัชนีหุ้นไทยปรับขึ้นได้ราว 5 % หรือประมาณ 70 จุด พร้อมประเมินหุ้นที่ได้รับอานิสงส์ และจัดเป็นหุ้น Top pick ได้แก่ AMATA, BBL, BCH, CBG, CPALL, CRC, KLINIQ และ PTTEP พร้อมคาดการณ์ดัชนีหุ้นไทยช่วงสิ้นปี 67 ที่ 1,420 จุด แม้ว่าตลาดอาจปรับขึ้นไปสูงกว่านี้แต่เนื่องจากความไม่แน่นอนทางการเมืองอาจส่งผลต่อ sentiment ตลาดได้
ระวังโดนฝรั่งเทขายใส่
ขณะที่ ดร.นิพนธ์ สุวรรณประสิทธิ์ กรรมการผู้จัดการ สถาบันการลงทุน QIQP บล.ไอร่า ได้แสดงความคิดเห็นของการปรับขึ้นของหุ้นรอบนี้ไว้อย่างน่าสนใจ โดยเชื่อว่าหุ้นไทยขึ้นรอบนี้เป็นไปตามหุ้นโลก ไม่ใช่จากการเมือง พร้อมกับแนะนักลงทุนระมัดระวังแรงเทขายใส่ของนักลงทุนต่างชาติที่ทยอยเข้าเก็บหุ้นไทยก่อนแล้ว เพราะว่าส่วนหนึ่งต้องยอมรับว่าดัชนีหุ้นไทยที่ขึ้นมารอบนี้พื้นฐานไม่ได้เปลี่ยนแปลง แต่ขึ้นเพราะเม็ดเงินก้อนใหญ่ซึ่งระดมทุนจากประชาชน แม้ว่า ส่วนหนึ่งจะมาจากสถาบันการเงินก็ตามแต่ต้นทางของเงินก็มาจากประชาชน ดังนั้นเชื่อมั่นว่าหุ้นจะขึ้นไปได้อย่างมากก็ที่ระดับแนวต้านสำคัญ ที่ระดับ 1,400 จุดบวกลบ เท่านั้น และก็กลับไปเหมือนเดิม ฉะนั้นหุ้นขึ้นรอบนี้ก็ต้องใช้กลยุทธ์รอออกของโดยเร็วที่สุด
ติดตามช่องทางมิติหุ้นเพื่อรับข่าวสารตลาดทุนได้ตามลิงค์ด้านล่าง
Web : https://www.mitihoon.com/
Facebook : https://www.facebook.com/mitihoon
Youtube : https://www.youtube.com/@mitihoonofficial7770
Tiktok : www.tiktok.com/@mitihoon
