CGSI : Trend Spotter

21

มิติหุ้น – Trend Spotter
• ตลาดหุ้นสหรัฐ : ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปิดบวก โดยดัชนี DJIA +0.58% S&P500 +0.75% และ Nasdaq +1% ตอบรับแนวโน้มเฟดประกาศลดอัตราดอกเบี้ยชัดเจนขึ้น โดย CME FedWatch ระบุว่าตลาดให้น้ำหนัก 57% ที่เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลง 0.25% สู่ระดับ 5.25% ในการประชุมสัปดาห์หน้า (17-18 ก.ย.)

หลังตัวเลข PPI เดือนส.ค. ขยายตัวขึ้นที่ระดับ 0.2% mom สูงกว่าตลาดคาดที่ 0.1% และ Core PPI ปรับตัวขึ้น 0.3% mom สูงกว่าตลาดคาดที่ 0.2%

ในขณะที่ จำนวนคนยื่นขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกเพิ่มขึ้น 2,000 ราย สู่ระดับ 2.3 แสนรายในสัปดาห์ที่แล้ว สูงกว่าตลาดคาดที่ 2.27 แสนราย

• ตลาดหุ้นยุโรป : ด้านตลาดหุ้นยุโรป ดัชนี STOXX600 ปิดบวกที่ 0.8% จากแรงสนับสนุนหลังธนาคารกลางยุโรป (ECB) ปรับลดอัตราดอกเบี้ยเงินฝากลง 0.25% สู่ระดับ 3.5% ขณะที่อัตราเงินเฟ้ออยู่ใกล้ระดับเป้าหมายที่ 2%

นอกจากนี้ ตลาดให้น้ำหนัก 54% ที่ ECB มีโอกาสปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงอีกครั้งในเดือนธ.ค.

ติดตามรายงานตัวเลข CPI ยูโรโซนเดือนส.ค. สัปดาห์หน้า (18 ก.ย.) ที่ตลาดคาดว่าจะขยายตัวลดลงที่ระดับ 2.2% yoy (vs. เดือนก.ค. 2.6%)

• SET Index : เราคาดว่า SET Index จะเคลื่อนไหวบริเวณ 1,410 – 1,435 จุด

สำหรับปัจจัยในประเทศที่ตลาดติดตามเกี่ยวกับผลกระทบต่อเศรษฐกิจ

1) เมื่อวานนี้ (12 ก.ย.) นายกฯ แพทองธาร ได้แถลงนโยบายต่อรัฐสภา โดยมี 10 มาตรการเร่งด่วน เพื่อแก้ปัญหาประเทศ ได้แก่ การปรับโครงสร้างหนี้ / การส่งเสริมและปกป้องผลประโยชน์ของ SME / การลดราคาพลังงานและสาธารณูปโภค / เศรษฐกิจใต้ดิน / โครงการดิจิทัลวอลเล็ต / การยกระดับการทำเกษตรทันสมัย / การส่งเสริมการท่องเที่ยว / การแก้ปัญหายาเสพติด และ อาชญากรรม / การส่งเสริมศักยภาพและจัดสวัสดิการสังคม

รวมถึงมีการกล่าวถึงนโยบายพัฒนาประเทศระยะกลางและระยะยาว และ นโยบายต่างประเทศ

2) มติวุฒิสภา เห็นชอบร่าง พ.ร.บ.งบประมาณ 2025 วาระ 3 วงเงิน 3,752,700 ล้านบาท ด้วยคะแนน 174 ต่อ 3 และ รัฐบาลจะนำร่าง พ.ร.บ. ขึ้นทูลเกล้าฯ ถวาย ในสัปดาห์หน้า (17 ก.ย.) เพื่อประกาศบังคับใช้เป็นกฎหมายต่อไป

ดังนั้น โครงการดิจิทัลวอลเล็ตเฟส 2 สำหรับประชาชนที่เหลือที่ลงทะเบียนรับสิทธิ์ จำนวน 30 กว่าล้านคน จึงมีแนวโน้มเริ่มแจกได้ตั้งแต่ 1 ต.ค. เมื่อแพลตฟอร์มดิจิตัลพร้อม

อีกประเด็นติดตามสถานการณ์น้ำท่วมจากปัญหาอุทกภัยในหน้าฝน รวมถึงอิทธิพลจากขอบพายุซูเปอร์ไต้ฝุ่นยางิ ที่ส่งผลให้เกิดน้ำท่วมสูงวิกฤตในภาคเหนือ

ด้านสทนช. คาดว่าพายุหมุนเขตร้อนจะพัดเข้าประเทศไทย 1-2 ลูก ผ่านบริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือและภาคเหนือในเดือนก.ย. และ ต.ค. และ ได้ออกมาประกาศเฝ้าระวังน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก ในช่วงวันที่ 13-18 ก.ย. จากร่องมรสุมจะเลื่อนลงมาพาดผ่านประเทศไทยตอนบน

• หุ้นแนะนำ
CRC : แม้จะเผชิญกับความท้าทายในระยะสั้น แต่แนวโน้มใน FY25F ของ CRC ยังคงเป็นไปในเชิงบวก โดยเราคาดว่ายอดขายแฟชั่นในประเทศไทยจะฟื้นตัวขึ้น สนับสนุนโดย wealth effect จากการที่ตลาดหุ้นปรับตัวขึ้นช่วงนี้ และ การที่ Central Chidlom กลับมาเปิดให้บริการเต็มรูปแบบในเดือนพ.ย. นอกจากนี้ เรามองว่าการปรับลดอัตราดอกเบี้ยอาจลดต้นทุนการกู้ยืมของ CRC และเพิ่มกำลังซื้อของผู้บริโภค รวมถึงการเคลื่อนไหวเชิงกลยุทธ์ในเวียดนาม อาจผลักดันการเติบโตของ CRC ใน FY25F

(Take profit : 32.50 / Stop loss : 31.25)

PTG : เราเชื่อว่าแนวโน้มราคาน้ำมันดิบที่ปรับตัวลดลง หลัง OPEC+ ปรับลดคาดการณ์อุปสงค์น้ำมันปีนี้และปีหน้าลง จะเป็นปัจจัยเป็นบวกต่อกลุ่มธุรกิจค้าปลีกน้ำมันเชื้อเพลิงสำเร็จรูป เนื่องจากราคาต้นทุนที่ลดลง

(Take profit : 11.60 / Stop loss : 9.40)

#MacroWealthResearch
#CGSInternational

ติดตามช่องทางมิติหุ้นเพื่อรับข่าวสารตลาดทุนได้ตามลิงค์ด้านล่าง

Web : https://www.mitihoon.com/
Facebook : https://www.facebook.com/mitihoon
Youtube : https://www.youtube.com/@mitihoonofficial7770
Tiktok : www.tiktok.com/@mitihoon