มิติหุ้น – Trend Spotter
• ตลาดหุ้นสหรัฐ : ตลาดหุ้นสหรัฐผันผวน ปิดทรงตัว โดยดัชนี DJIA พลิกกลับมาปิดในแดนบวกแทบไม่เปลี่ยนแปลงที่ 0.09% หลังจากปรับตัวลดลงในช่วงแรก ในขณะที่ S&P500 และ Nasdaq ปิดลบที่ 0.19% และ 0.36% ตามลำดับ เนื่องจากนักลงทุนชะลอการซื้อขาย หลังปรับตัวพุ่งขึ้นไปจากการปรับลดอัตราดอกเบี้ยลง 50bps ของเฟดในวันที่ 18 ก.ย. และ รายงานของ CME FedWatch ระบุว่าตลาดให้น้ำหนัก 48.9% ที่เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงอีก 50bps ในการประชุมเดือนพ.ย.
สัปดาห์นี้ติดตามตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐนำโดย
1) รายงานดัชนี PMI ภาคการผลิตและการบริการเดือนก.ย. ในวันนี้ โดยตลาดคาดว่า จะขยายตัวสู่ระดับ 48.6 และ 55.3 ตามลำดับ
2) รายงานความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนก.ย. จาก CB (24 ก.ย.) ที่ตลาดคาดว่าจะเพิ่มขึ้นเล็กน้อยที่ระดับ 103.5
3) GDP 2Q24 (26 ก.ย.) ที่ตลาดคาดว่าจะเติบโตสู่ระดับ 3% qoq และ
4) ดัชนี PCE เดือนส.ค. (27 ก.ย.) ที่ตลาดคาดว่าจะสูงขึ้นเล็กน้อยสู่ระดับ 2.6% yoy
สำหรับตัวเลขเศรษฐกิจตลาดภูมิภาคอื่นที่สำคัญสัปดาห์นี้ ได้แก่ ดัชนี PMI ภาคการผลิตและการบริการเดือนก.ย. ยูโรโซนในวันนี้ ตลาดคาดว่าจะลดลงเล็กน้อยสู่ระดับ 45.7 และ 52.3 ตามลำดับ และ ดัชนี PMI ภาคการบริการเดือนก.ย. ญี่ปุ่น (24 ก.ย.)
• SET Index : เราคาดว่า SET Index จะสัปดาห์นี้จะเคลื่อนไหวบริเวณ 1,425 – 1,465 จุด
ด้านปัจจัยในประเทศที่สำคัญสัปดาห์ที่แล้วและตลาดยังคงต้องติดตามต่อ ได้แก่
1) การประชุมบอร์ดค่าจ้างเกี่ยวกับการพิจารณาปรับค่าแรงขั้นต่ำขึ้นเป็น 400 บาท/วัน ทั่วประเทศ ถูกเลื่อนออกไป หลังการหารือครั้งที่ 2 เมื่อวันที่ 20 ก.ย. องค์ประชุมไม่ครบ 2 ใน 3 โดยตัวแทนภาครัฐทั้ง 4 หน่วยงาน (กระทรวงพาณิชย์, กรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน, ธปท. และ สภาพัฒน์) ติดภารกิจ รวมถึงตัวแทนลูกจ้างไม่มา 2 คน
นอกจากนี้ กำหนดการประชุมครั้งถัดไป (24 ก.ย.) ไม่สามารถจัดขึ้นได้ เนื่องจากตัวแทนจากธปท. เกษียณอายุราชการ อย่างไรก็ตาม ปลัดกระทรวงแรงงานคาดว่าจะได้ข้อสรุปและสามารถนำเข้าครม. ได้ในวันที่ 1 ต.ค. และ
2) “กองทุนรวมวายุภักษ์ หนึ่ง” ซึ่งเปิดจองซื้อเป็นวันสุดท้ายเมื่อ 20 ก.ย. วงเงิน 1.5 แสนล้านบาท โดยมีรายงานว่าถูกจองซื้อเต็มจำนวนแล้ว และ จะมีการประกาศผลการได้รับจัดสรรแบบ “Small Lot First” ในวันที่ 25 ก.ย.
นอกจากนี้ รายงานสำคัญที่ต้องติดตาม ได้แก่ ตัวเลขการค้าเดือนส.ค. (25 ก.ย.)
• หุ้นแนะนำ
ERW: เราเชื่อว่าธุรกิจเกี่ยวกับการท่องเที่ยวและมีรายได้ที่สำคัญจากในประเทศอย่าง ERW จะได้รับประโยชน์ หลังททท. เตรียมเสนอแผนการนำโครงการ “เราเที่ยวด้วยกัน” กลับมาดำเนินการ เพื่อกระตุ้นการท่องเที่ยว
(Take profit : 4.56 / Stop loss : 4.18)
MOSHI : เราคาดว่ากำไรสุทธิจะฟื้นตัวแข็งแกร่งใน 2H24 จากการแก้ปัญหา Supply chain เนื่องจากการฟื้นตัวของผลิตภัณฑ์ที่มีอัตรากำไรขั้นต้นสูงและสินค้าใหม่ ทั้งนี้เราเชื่อว่าการขยายตัวของรายได้มาจากการเปิดสาขาเพิ่มเติมเชิงรุก 33 สาขาใน FY24 และ 30 สาขาใน FY25
(Take profit : 48.00 / Stop loss : 44.50)
#MacroWealthResearch
#CGSInternational
ติดตามช่องทางมิติหุ้นเพื่อรับข่าวสารตลาดทุนได้ตามลิงค์ด้านล่าง
Web : https://www.mitihoon.com/
Facebook : https://www.facebook.com/mitihoon
Youtube : https://www.youtube.com/@mitihoonofficial7770
Tiktok : www.tiktok.com/@mitihoon
