หลังจาก SET ปรับตัวขึ้นมาประมาณ 2.77% YTD เป็นผลมาจากสถานะการทางการเมืองเริ่มนิ่ง ความคาดหวังเรื่องนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจ ส่งผลให้ความเชื่อมั่นนักลงทุนเริ่มกลับมา ประกอบกับกระแสเม็ดเงินการลงทุนจากกองทุนวายุภักษ์ ทำให้ดัชนีปรับตัวขึ้นจนให้ผลตอบแทนเป็นบวก
โดยปกติหุ้น IPO จะให้ผลตอบแทนได้ดีในช่วงตลาดหุ้นขาขึ้น ซึ่งหุ้น IPO หลายๆ ยังไม่ให้ผลตอบแทนดีเท่าที่ควร ในปี 67 มีหุ้นที่เข้าตลาดมาแล้ว 23 ตัว ซึ่งมีถึง 14 ตัว ที่ราคายังไม่กลับมาเหนือจอง ซึ่งจะโทษภาวะตลาดอย่างเดียวไม่ได้ ต้องดูถึงพื้นฐานของหุ้นแต่ละตัว การตั้งราคาที่สูงเกินไป อาจทำให้หุ้นนั้นปรับตัวขึ้นได้ยาก
ขณะที่หุ้น IPO ตัวใหม่ล่าสุดอย่าง SEI ที่เปิดบวกกว่า 140% จากราคา 3.10 บาท ก่อนที่จากมีแรงเทขายออกมาในช่วงบ่าย จนปัจจุบัน ณ วันที่ 26 ก.ย.67 มีราคา 6.50 บาท เพิ่มขึ้น 109.68% ซึ่งเป็นธรรมชาติของหุ้น IPO ที่จะมีการเล่นเกร็งกำไรในช่วงแรก
หากมาดูที่พื้นฐานของธุรกิจแม้จะอยู่ในธีมเมกะเทรนด์ โดยประกอบธุรกิจนำเข้าเครื่องมือทางการแพทย์จากผู้ผลิตในต่างประเทศ และไม่มีโรงงานผลิตสินค้าเป็นของตนเอง ทำให้มีความเสี่ยงในการเป็นตัวแทนจําหน่ายและยังมีความเสี่ยงจากความผันผวนอัตราแลกเปลี่ยนเงินต่างประเทศ
รวมถึงยังมีผู้เล่นรายอื่นในตลาดที่ทำธุรกิจใกล้เคียงกัน อาทิ BIZ , NAM นอกจากนี้เนื่องจากมีสัดส่วนรายได้ลูกค้าภาครัฐบาลราว 79% หากมีล่าช้าของงบประมาณรัฐ จะทำให้ลูกค้าไม่สามารถจัดสรรงบประมาณในการสั่งซื้อเครื่องมือทางการแพทย์ได้
ด้านบล.หยวนต้า (ประเทศไทย) ประเมิน PER เหมาะสมที่ 20 เท่า โดยการใช้ค่ากลางของหุ้นกลุ่มธุรกิจจำหน่ายเครื่องมือแพทย์ ที่ลักษณะธุรกิจใกล้เคียงกัน ให้มูลค่าพื้นฐานอยู่ที่ 5.50 บาท
อย่างไรก็ดีจะมีหุ้นน้องใหม่ที่จะตามเข้าตลาดมาอย่าง OKJ ซึ่งต้องมาติดตามกันต่อไปว่าจะสามารถสร้างความพึ่งพอใจให้กับนักลงทุนได้หรือไม่
ติดตามช่องทางมิติหุ้นเพื่อรับข่าวสารตลาดทุนได้ตามลิงค์ด้านล่าง
Web : https://www.mitihoon.com/
Facebook : https://www.facebook.com/mitihoon
Youtube : https://www.youtube.com/@mitihoonofficial7770
Tiktok : www.tiktok.com/@mitihoon
