CGSI : Trend Spotter

11

มิติหุ้น – Trend Spotter
• ตลาดหุ้นสหรัฐ : ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ร่วงลงมาปิดในแดนลบเกือบ 1% เนื่องมาจาก

1) แรงกดดันจากบอนด์ยีลด์ US 10 ปีที่เพิ่มสูงขึ้นกว่า 4bp สู่ระดับ 4.02% หลังรายงานตัวเลขการจ้างงานนอกภาคการเกษตรเดือนก.ย. ที่ออกมาแข็งแกร่ง ส่งผลให้ตลาดให้น้ำหนัก 86% ที่เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยเพียง 25bp ในการประชุมเดือนพ.ย. ซึ่งจะส่งผลให้ต้นทุนการกู้ยืมของบริษัทและผู้บริโภคสูงขึ้น และ

2) ความขัดแย้งในตะวันออกกลางที่มีแนวโน้มขยายวงกว้าง หากอิสราเอลโจมตีอุตสาหกรรมน้ำมันของอิหร่าน และ อาจทำให้อิหร่านตอบโต้ด้วยการปิดช่องแคบฮอร์มุซซึ่งเป็นทางออกมหาสมุทรทางเดียวของบริเวณส่วนใหญ่ของประเทศที่ส่งออกปิโตรเลียมในอ่าวเปอร์เซีย ส่งผลให้เกิดความกังวลต่ออุปทานน้ำมัน และ สนับสนุนให้ราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกพุ่งสูงขึ้น (Brent +3.69%)

จับตาการรายงานผลประกอบการ 3Q24 ของกลุ่มธนาคารรายใหญ่ในสัปดาห์นี้
รวมถึงติดตามรายงานตัวเลขอัตราเงินเฟ้อสหรัฐฯ เดือนก.ย. ในวันที่ 10 ต.ค. ที่ตลาดคาดว่าดัชนี CPI จะเติบโตลดลงที่ 2.3% yoy (vs. เดือนส.ค. 2.5%) และ Core CPI จะเติบโตทรงตัวที่ 3.2% yoy

• SET Index : เราคาดว่า SET Index อาจปรับฐานลดลงมาเล็กน้อยบริเวณ 1,435 – 1,455 จุด จากแรงกดดันตามตลาดหุ้นสหรัฐฯ และ Bond yields ที่สูงขึ้น
อย่างไรก็ตาม เราเชื่อว่าเม็ดเงินจากกองทุนวายุภักษ์จะช่วยพยุง SET ไว้ไม่ให้ปรับตัวลดลงมาลึกมาก

ด้านนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจ โดยเฉพาะภาคการท่องเที่ยว ล่าสุด การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดตัวโครงการ “Amazing Thailand Grand Tourism Year 2025” ผ่านกิจกรรม 5 Must – Do in Thailand

โดยตั้งเป้าหมายสร้างรายได้รวมที่ 3.4 ล้านล้านบาท (+7.5% yoy) และ คาดการณ์จำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่ไว้กว่า 40 ล้านคน อีกทั้งยังมุ่งหวังดึงดูดนักท่องเที่ยว 10.5 ล้านคนใน 4Q24F เพื่อบรรลุเป้าหมายนักท่องเที่ยวทั้งปีนี้ที่ 36.7 ล้านคน ซึ่ง ERW เป็น Top pick ของเราสำหรับธีม Amazing Thailand

จากนี้ ติดตามการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ในสัปดาห์หน้า (16 ต.ค.) ที่เราคาดว่าจะมีการปรับลดอัตราดอกเบี้ยลง 25bp สู่ระดับ 2.25% ภายในปีนี้

• หุ้นแนะนำ
BLA :
เราเชื่อว่าบอนด์ยีลด์สหรัฐฯ ที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น จะช่วยกระตุ้นผลตอบแทนจากการลงทุนที่สูงขึ้นในตลาดผลิตภัณฑ์ประกันชีวิตแบบสะสมทรัพย์ เนื่องจากบริษัทจะสามารถลงทุนในสินทรัพย์ที่ให้ผลตอบแทนดีขึ้น ซึ่งจะช่วยเพิ่มรายได้และผลตอบแทนให้กับผู้ถือประกันชีวิตแบบสะสมทรัพย์

อีกทั้งยังสนับสนุนให้ค่าใช้จ่ายในการบันทึกตั้งสำรองพิเศษ (LAT reserve) ของบริษัทลดลง

(Take profit : 25.00 / Stop loss : 22.75)

PTTEP :
เราเชื่อว่าราคาน้ำมันดิบที่ปรับตัวเพิ่มสูงขึ้น จากความกังวลต่อประเด็น Geopolitics ในตะวันออกกลางที่ยังมีแนวโน้มขยายวงกว้างต่อเนื่อง จะเป็นประโยชน์ต่อหุ้นกลุ่มพลังงานต้นน้ำอย่าง PTTEP เนื่องจากบริษัทสามารถขายน้ำมันและก๊าซธรรมชาติในราคาที่สูงขึ้น

(Take profit : 139.50 / Stop loss : 134.50)

#MacroWealthResearch
#CGSInternational

ติดตามช่องทางมิติหุ้นเพื่อรับข่าวสารตลาดทุนได้ตามลิงค์ด้านล่าง

Web : https://www.mitihoon.com/
Facebook : https://www.facebook.com/mitihoon
Youtube : https://www.youtube.com/@mitihoonofficial7770
Tiktok : www.tiktok.com/@mitihoon