มิติหุ้น – Trend Spotter
• ตลาดหุ้นสหรัฐ : ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ร่วงลงมาปิดในแดนลบ (ดัชนี DJIA -325 จุด S&P500 -45 จุด และ Nasdaq -187 จุด) จากแรงขายหุ้น
1) กลุ่มพลังงาน (-3%) ตามราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกที่ปรับตัวลดลง (เบรนท์ -4.14%) หลังอุปสงค์น้ำมันที่อ่อนแอในจีนและสหรัฐฯ รวมถึงมีรายงานว่าอิสราเอลจะไม่โจมตีโรงงานนิวเคลียร์และแหล่งผลิตน้ำมันของอิหร่าน ส่งผลให้กลุ่มโอเปกได้ปรับลดคาดการณ์อุปสงค์ปีนี้และปีหน้าลง และ
2) หุ้นกลุ่มเทคฯ (-1.8%) จากแรงกดดันของหุ้นกลุ่มชิปที่ร่วงลง นำโดย Nvidia (-4.7%) หลังมีรายงานว่ารัฐบาลสหรัฐฯ กำลังพิจารณาควบคุมการส่งออกชิป AI ส่งผลให้เกิดความกังวลต่ออุปสงค์ อีกทั้ง ASML Holdings (-16%) ได้ปรับลดคาดการณ์ยอดขายในปีหน้าลง
สำหรับรายงานผลประกอบการ 3Q24 เมื่อวานนี้ออกมาคละกัน โดย BofA และ Charles Schwab ผลกำไรออกมาดีกว่าที่ตลาดคาด อย่างไรก็ตาม รายได้ของ Citigroup และ คาดการณ์ผลกำไรปีหน้าของ UnitedHealth ได้ออกมาต่ำกว่าที่ตลาดคาดการณ์ไว้
ด้านตัวเลขเศรษฐกิจที่สำคัญวันนี้ ติดตามอัตราเงินเฟ้อเดือนก.ย. ของอังกฤษ ที่ตลาดคาดว่าจะเติบโตลดลงมาที่ระดับ 1.9% yoy (vs. เดือนส.ค. 2.2%)
• SET Index : เราคาดว่า SET Index จะเคลื่อนไหวผันผวนบริเวณ 1,455-1,475 จุด
ประเด็นสำคัญวันนี้ ติดตามผลการประชุมกนง. เกี่ยวกับอัตราดอกเบี้ยนโยบายของไทย
โดยเรามองว่าหากกนง. ยังคงตรึงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ 2.5% ตามที่ตลาดคาดการณ์ไว้ จะมีการปรับลดอัตราดอกเบี้ยลง 25bp ภายในปีนี้ ในการประชุมครั้งถัดไปแทน
หากลดดอกเบี้ย เราเชื่อว่าจะเป็นประโยชน์ต่อหุ้นกลุ่มค้าปลีก อาหารและเครื่องดื่ม ไฟแนนซ์ โรงไฟฟ้า และ อสังหาฯ
นอกจากนี้ ติดตามมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจอื่น หลังสถานการณ์น้ำท่วม สร้างความเสียหายไม่ต่ำกว่า 3 หมื่นล้านบาท คิดเป็น 0.16% ของ GDP โดยครม. เตรียมจัดทำซอฟต์โลน 5 หมื่นล้านบาท เพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจ และ
สำหรับภาคการท่องเที่ยว รัฐบาลรายงานว่านักท่องเที่ยวต่างชาติเข้าไทยแล้วกว่า 27 ล้านคน สร้างรายได้ 1.27 ล้านบาท และคาดว่าจะเพิ่มขึ้น เนื่องจากการฟื้นตัวของนักท่องเที่ยวกลุ่มตลาดระยะไกล และ มาตรการ Ease of traveling
• หุ้นแนะนำ
MTC :
ตลาดคาดว่าผลการประชุมกนง. ในบ่ายนี้จะคงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ 2.5% แต่อาจมีการส่งสัญญาณ ปรับลดดอดเบี่ยลง
เรามองว่าธปท. มีแนวโน้มปรับลดอัตราดอกเบี้ยลง 0.25% ภายในสิ้นปีนี้ เพื่อให้สอดคล้องกับสถานการณ์เศรษฐกิจและค่าเงินบาทแข็งในปัจจุบัน ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อหุ้นกลุ่มธุรกิจให้บริการสินเชื่อ
(Take profit : 53.75 / Stop loss : 49.75)
CRC :
เราเชื่อว่า CRC เป็นตัวเลือกที่ดีที่สุดในกลุ่มค้าปลีกสำหรับปี FY25 เพราะการปรับลดอัตราดอกเบี้ยนอกจากจะทำให้ความต้องการสินค้าฟุ่มเฟือยเพิ่มขึ้นแล้ว ยังช่วยลดดอกเบี้ยจ่ายของ CRC อย่างมีนัยสำคัญ ซึ่งจะทำให้บริษัทมีผลประกอบการแข็งแกร่ง
(Take profit : 35.00 / Stop loss : 31.75)
#MacroWealthResearch
#CGSInternational
ติดตามช่องทางมิติหุ้นเพื่อรับข่าวสารตลาดทุนได้ตามลิงค์ด้านล่าง
Web : https://www.mitihoon.com/
Facebook : https://www.facebook.com/mitihoon
Youtube : https://www.youtube.com/@mitihoonofficial7770
Tiktok : www.tiktok.com/@mitihoon