ดัชนีตลาดหุ้นไทยแรลรี่ต่อเนื่องนับตั้งแต่วันที่ 16 ส.ค.67 ซึ่งเป็นวันที่รู้ผลโหวตเลือกนายกฯคนที่ 31 “นายกฯอุ๊งอิ๊ง–แพทองธาร ชินวัตร” ขยับขึ้นไปกว่า 200 จุด จนดัชนีพุ่งขึ้นระหว่างวันทะลุ 1,500 จุด เมื่อวันศุกร์ที่ 18 ต.ค.67 ที่ผ่านมา(แม้ว่าปิดตลาดจะปิดย่อที่ 1,489.82 จุด) ปัจจัยอะไรที่สร้างความเชื่อมั่นให้นักลงทุนได้ขนาดนั้น? และคำถามถัดไปคือแล้วดัชนีหุ้นไทยยังจะปรับขึ้นได้ต่อหรือไม่ ซึ่งหลายกระแสแว่วๆมาว่ามีโอกาสปรับได้เห็น 1,600 จุดภายในสิ้นปีนี้
หากไล่เลียงเรื่องราวที่คาดว่าจะเป็นปัจจัยสนับสนุนคือ
1.สัญญาณการเมืองเริ่มคลี่คลายหลังได้นายกฯใหม่คนที่ 31 (เมื่อวันที่ 16 ส.ค.67) ที่มีนายกฯ “อุ๊งอิ๊ง–แพทองธาร ชินวัตร” จนทุกวันนี้ข่าวกระแสการเมืองก็ยังนิ่งสนิท เมื่อถูกกลบด้วยกระแสข่าวความสนใจของประชาชนเมื่อธุรกิจขายตรงที่กำลังเป็นกระแสอยู่ในขณะนี้ “ดิไอคอนกรุ๊ป” (The iCon Group)” คาดว่าอย่างน้อยๆก็ยังอยู่ในกระแสถึงสิ้นปีเป็นอย่างน้อย
2.กองทุนวายุภักษ์มูลค่า 1.5 แสนลบ.พร้อมเริ่มทยอยเข้าลงทุนหุ้นไทยอย่างต่อเนื่อง(ตั้งแต่ 1ต.ค.67) คาดว่าเพิ่งจะลงทุนเพียง 25% ของพอร์ตลงทุนทั้งหมดสายป่านยังอีกยาวไกล ซึ่งในระหว่างนี้ก็มีเรื่องให้ชวนสงสัยว่าทำไมถึงมีการเปลี่ยนมือผู้ถือหุ้นใหญ่ของบลจ.ที่บริหาร “กองทุนวายุภักษ์” นั่นก็คือ MFC และมีกองทุนยักษ์ใหญ่ระดับโลกเข้าถือหุ้นใหญ่ “OPUS CHARTERED ISSUANCES S.A.” และก็เป็นช่วงเวลาสำคัญเสียด้วย
3.ปรากฎการณ์ที่สร้างความเซอร์ไพรส์อย่างมากและถือว่าหักปากกาเซียนด้านเศรษฐกิจและนักวิเคราะห์อย่างถ้วนหน้าเหมือนฉีกตำราเรียน กนง.ลดดอกเบี้ย 0.25% (เมื่อวันที่ 16 ต.ค.67) ซึ่งมติเสียงก็ออกมาที่ 5: 2 ไม่รู้ว่ายังมีใครใหญ่กว่าผู้ว่าแบงก์ชาติสามารถสั่งซ้ายหันขวาหันให้ลดดอกเบี้ยได้
ทำให้เริ่มมีกระแสข่าวว่ากลุ่มทุนฝรั่งหัวดำที่ทยอยเข้ามาลงทุนในตลาดหุ้นไทยอีกแรงจะดันหุ้นขึ้นไปถึง 1,800 จุด เพื่อไม่ให้เสียหน้าหรืออะไรก็ไม่ทราบ ก็คงจะเป็นเรื่องที่ดีถ้ามันเป็นเรื่องสมเหตุสมผล แต่ใดใดๆก็ตาม Sentiment ในตลาดหุ้นไทยก็ถือว่าเริ่มดีขึ้น เห็นได้จากหุ้นขนาดใหญ่ต่างก็ทยอยปรับตัวขึ้นต่อเนื่อง ทั้ง GULF DELTA ADVANC INTUCH PTT บางตัวราคาพุ่ง 40-50% และบรรยากาศหุ้นน้องใหม่ไอพีโอก็เริ่มดีวันดีคืน
ด้าน “ศราวุธ เตโชชวลิต” ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.อาร์เอชบี (ประเทศไทย) ระบุว่า คาดว่า SET ปลายปีน่าจะอยู่ราว 1,560 จุด คิดจากเป้าหมายของราคาหุ้นใน 10 อันดับแรก แต่ SET จะมี upside มากขึ้น ถ้ากลุ่มพลังงานที่ weight ด้วยหุ้น PTT, PTTEP ฟื้นตัว โดยมีแรงขับเคลื่อนจากการเจรจาพื้นที่ทับซ้อนระหว่างไทย-กัมพูชาที่คาดว่าน่าจะมีการเจรจาภายในปีนี้ ซึ่งจะสามารถปลดล็อคแหล่งพลังงานใหม่ให้กับ PTTEP
พร้อมกันนี้ยังเผยว่า 10 อันดับหุ้นของตลาดหุ้นไทยที่ขนาดใหญ่และยังมี Upside ดังนี้
DELTA มูลค่ามาร์เก็ตแคป 1.57 ล้านล้านบาท เป้าหมาย 140 บาท
PTT มูลค่ามาร์เก็ตแคป 9.6 แสนล้านบาท เป้าหมาย 40 บาท
AOT มูลค่ามาร์เก็ตแคป 9.03 แสนล้านบาท เป้าหมาย 71 บาท
ADVANC มูลค่ามาร์เก็ตแคป 8.83 แสนล้านบาท เป้าหมาย 300 บาท
GULF มูลค่ามาร์เก็ตแคป 8.15 แสนล้านบาท เป้าหมาย 80 บาท
CPALL มูลค่ามาร์เก็ตแคป 5.90 แสนล้านบาท เป้าหมาย 74 บาท
PTTEP มูลค่ามาร์เก็ตแคป 5.12 แสนล้านบาท เป้าหมาย 150 บาท
BDMS มูลค่ามาร์เก็ตแคป 4.64 แสนล้านบาท เป้าหมาย 33 บาท
TRUE มูลค่ามาร์เก็ตแคป 4.18 แสนล้านบาท เป้าหมาย 13 บาท
SCB มูลค่ามาร์เก็ตแคป 3.73 แสนล้านบาท เป้าหมาย 125 บาท
INTUCH มูลค่ามาร์เก็ตแคป 3.62 แสนล้านบาท เป้าหมาย 130 บาท (อันดับที่ 12)
ติดตามช่องทางมิติหุ้นเพื่อรับข่าวสารตลาดทุนได้ตามลิงค์ด้านล่าง
Web : https://www.mitihoon.com/
Facebook : https://www.facebook.com/mitihoon
Youtube : https://www.youtube.com/@mitihoonofficial7770
Tiktok : www.tiktok.com/@mitihoon
