LIB และ GLOBLEX ชี้เป้า ATP30 ให้ราคาเหมาะสมปี 67-68 อยู่ที่ 1.16–1.40 บาท

13

มิติหุ้น  –  บริษัทหลักทรัพย์ ลิเบอเรเตอร์ จำกัด ระบุในบทวิเคราะห์ว่า ATP30 มีพัฒนาการที่ดี น่าประทับใจ ดังนี้ (1) กองรถบัส รถตู้ที่ให้บริการ เพิ่มขึ้นจาก 139 คัน ลูกค้า 24 ราย สู่ 620 คัน ลูกค้า 60 ราย (2) ขยายพื้นที่ให้บริการไปยัง ปราจีนบุรี อยุธยา สระบุรี จากเดิมมีเพียง ชลบุรี ระยอง (3) นวัตกรรม GPS และความปลอดภัยที่ ATP30 ริเริ่ม กลายเป็นมาตรฐานของประเทศไปแล้ว และ ATP30 ได้ พัฒนาใหม่อีก 2-3 แบบ ซึ่งได้รับการตอบรับที่ดี (4) ริเริ่มให้บริการรถบัสไฟฟ้าแล้ว 1.5 ปี พัฒนาการที่ดีมาก ปัจจุบันกำลัง พัฒนา EV Management System ร่วมกับพันธมิตรทางธุรกิจ (5) Toyota Tsusho ร่วมถือหุ้น 10% ตั้งแต่ปี 2021 ช่วยเรื่องต้นทุนจัดหารถ, แหล่งเงิน ราคาถูกลงอีกราว 2% และให้เทคโนโลยีใหม่ๆ

นอกจากนี้ กลุ่มลูกค้าเดิมยังคงขยายสัญญาต่อเนื่อง ส่วนลูกค้าใหม่ทยอยเพิ่มเช่นกัน โดยอุตสาหกรรมเมกกะเทรนด์, สินค้าไฮเอนด์, ชิ้นส่วนยานยนต์ Replacement market ยังโตดี โดยกลุ่มลูกค้าจีนเป็นโอกาสใหม่ที่น่าสนใจ ส่วนกลุ่มปิโตรเคมี สวัสดิการรับส่งพนักงานยังปกติ ปัจจุบันมีงานในมือ 1.5 พันล้านบาท คิดเป็น 4.6 เท่าของรายได้ในช่วงครึ่งปีแรก 2567

ขณะเดียวกัน ช่วงลงทุนหนัก (capex cycle) ผ่านไปแล้ว รถ 44% ผ่อนหมดแล้ว ทำให้อัตรากำไรสุทธิกำลังกลับเป็นขาขึ้นจากจุดต่ำสุด 4% ในปี 2566 คาดจะฟื้นต่อจาก 6% ในช่วงครึ่งปีแรก 2567 สู่ 7-8% ปีหน้า ซึ่งเมื่อรวมกับการเพิ่มรถอีก 46 คันระหว่างปี คาดว่าปีหน้ารายได้จะเติบโต 10-15% ทำให้ LIB คาดกำไรจะทะลุ 50 ล้านบาท เป็นสถิติใหม่ของบริษัท ซึ่งด้วยกระแสเงินสดอิสระจะเริ่มพลิกมาบวกมากขึ้นหลังผ่านลงทุนใหญ่ไปแล้ว เตรียมเพิ่มขนาดเงินจ่ายปันผลอย่างมีนัยสำคัญในปี 2569

โดย LIB มองว่า ATP30 ผ่านช่วงที่ยากที่สุดทั้งวิกฤติ COVID-19 และ การลงทุนขยาย fleet จนอยู่ในจุดที่ optimum แล้ว ขณะที่ราคาน้ำมันที่ไม่ผันผวนบนสัญญาบริการอิงราคาน้ำมันแบบ float ราว 80% ของทั้งหมด และสำหรับเงินปันผลที่ตั้งเป้ายกระดับอย่างมีนัยสำคัญ จากโครงสร้างการจ่ายแบบเดิมคาดจะได้ Dividend yield ราว 4% ในปี  2569 อย่างไรก็ดี ระหว่างนี้ความคาดหวังถึงกำไรทำสถิติใหม่ในปี 2568 คาดว่าราคาหุ้นจะเคลื่อนไหวในเชิงบวกและมีราคาเหมาะสมเบื้องต้นในปีหน้า 1.40 บาท/ หุ้น อิง Trailing P/E 16.8x ในปัจจุบัน

GLOBLEX เชียร์ “ซื้อ” ATP30 ราคาเป้าหมายปี 2568 อยู่ที่ 1.16 บาท

บริษัทหลักทรัพย์ โกลเบล็ก จำกัด ระบุแนวโน้มไตรมาส 3/2567 คาดกำไรเติบโต จากฐานรายได้เพิ่มขึ้น และอัตรากำไรปรับดีขึ้น ฝ่ายวิจัยคาดว่ารายได้จากการให้บริการในไตรมาส 3/2567 มีโอกาสเติบโตต่อเนื่อง จากการเริ่มบริการลูกค้าใหม่ตั้งแต่ปลายปี 2566 และการปรับค่าบริการให้สอดคล้องกับราคาน้ำมันดีเซล ขณะที่การนำรถที่ปรับปรุงสภาพกลับมาให้บริการเกือบ 90% และจำนวนรถที่ตัดค่าเสื่อมราคาครบแล้ว สนับสนุนให้อัตรากำไรขั้นต้นมีแนวโน้มปรับดีขึ้นทุกไตรมาส

ทั้งนี้ คาดรายได้จากการให้บริการเท่ากับ 180 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 2% เมื่อเทียบกับช่วงไตรมาส 2/2567 หรือ เพิ่มขึ้น 7% เมื่อเทียบกับปีก่อน และ คาดกำไรสุทธิในไตรมาส 3/2567 ราว 12.2 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 10% เมื่อเทียบกับช่วงไตรมาส 2/2567 หรือเพิ่มขึ้น 35% เมื่อเทียบกับปีก่อน ขณะที่กำไรงวดครึ่งปีแรก 2567 เท่ากับ 21.5 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 110% เมื่อเทียบกับปีก่อน อีกทั้งยังประมาณการรายได้ในปี 2567 ตามเดิมที่ 707 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 6% เมื่อเทียบกับปีก่อน และกำไรสุทธิ 43 ล้านบาท ซึ่งยังเห็นการเติบโต 49% เมื่อเทียบกับปีก่อน ประมาณการกำไรงวด 9 เดือนปี 2567 คิดเป็น 50% ของประมาณกำไรทั้งปี

สำหรับปี 2568 ประมาณการรายได้ราว 736 ล้านบาท +4% และคาดกำไรสุทธิเติบโตราว 8% เป็น 42.7 ล้านบาท คิดเป็นอัตราการเติบโตเฉลี่ย (CAGR) ของกำไรสุทธิระหว่างปี 2565 – 2568 ราว 17% ต่อปี จากปัจจุบันบริษัทให้บริการลูกค้าจำนวน 68 ราย มีจำนวนรถโดยสารรวม 745 คัน และ มีรายได้ส่วนที่ยังไม่ได้รับรู้จำนวน 1,500 ล้านบาท ซึ่งในช่วงครึ่งปีหลังของปีนี้บริษัทมีลูกค้าใหม่ เพิ่มขึ้น 4 รายและได้ดำเนินการเตรียมรถโดยสารใหม่จำนวน 22 คันเพื่อเตรียมให้บริการ

ฝ่ายวิจัยมีมุมมองบวกต่อศักยภาพในการเติบโตของรายได้จากการให้บริการรถรับส่งพนักงานในพื้นที่ EEC ครอบคลุมจังหวัดชลบุรี ฉะเชิงเทรา และระยอง ซึ่งจะได้รับประโยชน์จากมาตรการ EEC Free Visa ในการประเมินราคาเหมาะสมสำหรับปี 2568 ซึ่งอิง Prospect PER ที่ระดับ 17 เท่าซึ่งสอดคล้องกับ CAGR โดยประมาณกำไรต่อหุ้นในปี 2568 ได้เท่ากับ 0.069 บาท คำนวณราคาเหมาะสมสำหรับปี 2567 ได้เท่ากับ 1.16 บาท ซึ่งยังมีอัพไซต์จากราคาปิดล่าสุดอีกราว 28% จึงคงคำแนะนำ “ซื้อ”

นายปิยะ เตชากูล กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอทีพี 30 จำกัด (มหาชน) (ATP30) ผู้ดำเนินธุรกิจให้บริการรถรับส่งพนักงานจากแหล่งที่พักอาศัยในเขตชุมชนไปยังโรงงานอุตสาหกรรม หรือสถานประกอบการ โดยเฉพาะรอบเขตนิคมอุตสาหกรรมในภาคตะวันออก และเขตอุตสาหกรรมในภาคกลาง เปิดเผยว่า ทิศทางธุรกิจครึ่งปีหลัง 2567 แนวโน้มเติบโตต่อเนื่อง จากการเพิ่มจำนวนรถให้บริการกับลูกค้ารายเดิม และมีลูกค้ารายใหม่เพิ่มขึ้นต่อเนื่อง อีกทั้งบริษัทมีการบริหารจัดการต้นทุนที่ดี ทั้งในด้านการบริหารจัดการการเดินรถ ต้นทุนพลังงาน และต้นทุนทางการเงิน ซึ่งจะส่งผลให้ความสามารถในการทำกำไรปรับตัวดีขึ้นเช่นกัน

ติดตามช่องทางมิติหุ้นเพื่อรับข่าวสารตลาดทุนได้ตามลิงค์ด้านล่าง

Web : https://www.mitihoon.com/
Facebook : https://www.facebook.com/mitihoon
Youtube : https://www.youtube.com/@mitihoonofficial7770
Tiktok : www.tiktok.com/@mitihoon