มิติหุ้น – มูจิ ประเทศไทย (MUJI) เดินหน้ากลยุทธ์การขยายสาขาอย่างต่อเนื่อง เปิดตัวคอนเซ็ปต์สโตร์สาขาล่าสุด “มูจิ วัน แบงค็อก” (MUJI ONE BANGKOK) บนทำเลศูนย์กลางธุรกิจ ไลฟ์สไตล์และการท่องเที่ยวระดับเมกะโปรเจคท์แห่งใหม่ของกรุงเทพฯ นับเป็นสาขาที่มีพื้นทึ่มากที่สุดในประเทศไทยกว่า 3,040 ตารางเมตร มอบประสบการณ์ช้อปปิ้ง ที่ไม่แตกต่างจากสาขาของมูจิในประเทศญี่ปุ่น ชูความครบครันและหลากหลายของสินค้าสำหรับใช้ในชีวิตประจำวันของ MUJI ครอบคลุมทุกหมวดหมู่ของการใช้ชีวิต มากกว่า 5,000 รายการ คุณภาพมาตรฐานระดับญี่ปุ่น ในราคาที่จับต้องได้ ปักธงเป็นสาขาหลักของมูจิในประเทศไทยที่จะใช้เปิดตัว และจำหน่ายสินค้าคอลเลคชั่นพิเศษ รวมถึงใช้จัดกิจกรรมทางการตลาดหลากหลายรูปแบบ ตั้งเป้าเป็น Must-Visit Destination ที่ลูกค้าชาวไทย และนักท่องเที่ยวต่างชาติ ปักหมุดในเช็คลิสต์เมื่อมาเยือน “วัน แบงค็อก”
นายอกิฮิโร่ คาโมการิ กรรมการผู้จัดการ บริษัท มูจิ รีเทล (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า “การเปิดตัว “มูจิ วัน แบงค็อก” เกิดขึ้นด้วยความมุ่งมั่นของบริษัทที่ต้องการยกระดับรูปแบบร้านค้าให้เป็นไลฟ์สไตล์สโตร์ที่เป็นมากกว่าประสบการณ์การจับจ่ายใช้สอยแต่ยังเป็นสถานที่ที่ลูกค้าสามารถเข้ามาใช้ชีวิตประจำวัน ได้อย่างครบครันในทุกมิติ ควบคู่กับการเดินหน้ากลยุทธ์ในการขยายสาขาไปยังทั่วทุกภูมิภาค รวมทั้งสิ้นเป็น 38 สาขาสำหรับประเทศไทยในปัจจุบัน โดยในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา เราได้รุกเปิดสาขาใหม่กว่า 14 แห่ง แบ่งออกเป็น 4 สาขาในปี 2565 และ 3 สาขาในปี 2566 และในปีนี้มีการเปิดตัวสาขาใหม่ไปแล้วถึง 7 สาขา โดยหากแบ่งสัดส่วนการเปิดตัวสาขาใหม่ทั้งหมดตามพื้นที่ในระยะเวลา 3 ปีที่ผ่านมา สามารถแบ่งออกเป็นสาขาในกรุงเทพมหานคร และปริมณฑล 7 สาขา และในต่างจังหวัดอีก 7 สาขา ทำให้ปัจจุบันเรามีร้านมูจิสโตร์ครอบคลุมทุกภูมิภาคของประเทศไทย ตามเป้าหมายในการเป็นแบรนด์สินค้าที่ใช้ในชีวิตประจำวันของคนไทยทุกคน ”
“ด้วยทำเล และความมุ่งมั่นของโครงการ “วัน แบงค็อก” ที่ต้องการเป็นศูนย์กลางธุรกิจ ไลฟ์สไตล์และการท่องเที่ยวระดับเมกะโปรเจคท์แห่งใหม่ของกรุงเทพฯ ซึ่งจะเป็นเดสทิเนชั่นใหม่ที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวเข้ามาสู่โครงการอย่างมหาศาล รวมถึงพื้นที่ของคอนเซ็ปต์สโตร์ที่กว้างขวางกว่า 3,040 ตารางเมตร ซึ่งถือว่าเป็นสาขาที่ใหญ่ที่สุดของไทยในปัจจุบัน ทำให้ “มูจิ วัน แบงค็อก” มีพื้นที่ในการแสดงสินค้าที่หลากหลายครบทุกประเภทผลิตภัณฑ์ไม่แตกต่างจากสาขาหลักในประเทศญี่ปุ่น ภายในสโตร์แบ่งออกเป็นโซนต่าง ๆ ที่ตอบโจทย์ความต้องการที่หลากหลายของลูกค้า อาทิ
ทุกสิ่งที่คุณต้องการใช้งานในชีวิตประจำวัน ครบจบที่นี่
- โซนเสื้อผ้าเครื่องแต่งกาย (Garments) สินค้ายอดนิยมของมูจิที่มีสัดส่วนยอดขายรวมกว่า 50% ของบริษัท รวบรวมเสื้อผ้าเครื่องแต่งกายที่หลากหลายและครบครันทั้งผู้ชาย ผู้หญิง และเด็ก มาไว้ มากที่สุด ประเดิมการเปิดตัวของสาขาด้วยการดิสเพลย์คอลเลคชั่น ฤดูใบไม้ร่วง-ฤดูหนาว 2024 นำเสนอเสื้อผ้าและอุปกรณ์กันหนาวจากวัสดุหลากประเภทครบทุกแบบในคอลเลคชั่น รวมถึง MUJI LABO (มูจิ ลาโบ) ไลน์สินค้าพิเศษจากมูจิ ที่พัฒนาขึ้นภายใต้แนวคิด “งานฝีมือสุดประณีตผสานการออกแบบที่สร้างสรรค์” ทำหน้าที่เป็นมากกว่าเครื่องแต่งกาย แต่ยังสะท้อนทั้งแนวคิด ไลฟ์สไตล์ และรสนิยมของผู้สวมใส่ ผ่านงานดีไซน์ที่พิถีพิถัน โดยคอลเลคชั่น MUJI Labo Autumn / Winter 2024 ชูคุณสมบัติเด่นจากวัสดุธรรมชาติ พร้อมดีไซน์ที่สวยคลาสสิกจากงานฝีมือสุดประณีต อาทิ เสื้อโค้ทและเสื้อเสวตเตอร์ผ้าวูลแคชเมียร์ เสื้อโค้ทยาวขนเป็ด เสื้อเชิ้ต เสื้อเบลาส์ และไอเทมสุดพิเศษอื่นๆ อีกมากมาย
- โซนเครื่องใช้ในบ้านและเฟอร์นิเจอร์ตกแต่งบ้าน ที่มียอดขายรวมกว่า 47% พิเศษกว่าสาขาอื่นๆ ในประเทศไทยด้วยการออกแบบโชว์รูมในรูปแบบบ้านตัวอย่างในสไตล์มูจิ รวบรวมสินค้าจำเป็นในทุกโซนของบ้าน ทั้งเฟอร์นิเจอร์ เครื่องใช้ไฟฟ้า ของตกแต่งบ้าน อุปกรณ์ทำความสะอาด และจัดระเบียบบ้านที่ครบครัน พร้อมนำเสนอสินค้าใหม่ๆ อาทิ Air Sofa ที่สามารถพับเก็บได้ เฟอร์นิเจอร์โครงสร้างท่อเหล็ก (Steel Pipe Furniture) คอลเลคชั่นชุดเครื่องนอนหลากหลายวัสดุทั้งผ้าจากเส้นใยจากถั่วเหลือง ผ้าสักหลาด และวัสดุอื่นๆ อีกมากมาย โดยไม่ทิ้งสินค้าหลักขายดีอย่างหมอนอิงแบบนุ่มหลากวัสดุ หลายสไตล์ คอลเลคชั่นเครื่องนอนสัมผัสเย็น (Cool Touch) คอลเลคชั่นสินค้าจัดระเบียบและเก็บของ น้ำหอมสำหรับบ้าน และสินค้าสำหรับการเดินทางและอื่นๆ อีกมากมาย
- โซน Health & Beauty ผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพและความงาม ทั้งผลิตภัณฑ์ดูแลผิวหน้า ผิวกาย และเส้นผม รวมไปถึงอุปกรณ์แต่งหน้า เครื่องสำอาง และเครื่องหอมอะโรม่าหลากหลายกลิ่น ที่โดดเด่นในเรื่องของส่วนผสมที่สกัดจากธรรมชาติ และปราศจากสารเคมี
- โซนขนมและอาหารสำเร็จรูป ครั้งแรกของการเปิดตัวโซนอาหารท้องถิ่นที่ผลิตในประเทศไทย ผ่านการคัดสรรและเพิ่มมูลค่าในสไตล์มูจิ โดยปราศจากสารกันบูดและถนอมอาหาร อาทิขนมกุ้งกรอบ 6 รสชาติ รวมถึงผลไม้ และถั่วลิสงเคลือบช็อคโกแลต หอมอร่อยด้วยช็อคโกแลตแท้ 60% ช่วยชูรสชาติดั้งเดิมของผลไม้ไทยเช่นมะม่วง กล้วยเป็นต้น นอกจากนี้ยังคัดสรรขนมขบเคี้ยวกว่าหลายร้อยรายการที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ในแบบญี่ปุ่นแท้ๆ นอกจากนี้ยังนำเสนอมื้ออาหารพร้อมรับประทานที่นำเข้าจากหลากหลายแหล่งในญี่ปุ่น อาทิราเมงจากหลายภูมิภาคที่สะท้อนเอกลักษณ์ที่แตกต่างกันออกไป ให้คุณได้สัมผัสความแตกต่างของรสชาติในแต่ละพื้นที่ เหมือนยกวัฒนธรรมญี่ปุ่นแท้ๆ มาไว้ที่นี่
นอกจากนี้ยังมีโซนอุปกรณ์เครื่องเขียนและสำนักงานหนึ่งในประเภทสินค้ายอดนิยมของมูจิและโซนอุปกรณ์สำหรับการเดินทาง รวมถึงสินค้าอื่นๆ อีกมากมาย”
สินค้าและบริการใหม่สุดเอ็กซ์คลูซีฟที่นี่ที่เดียว
“ด้วยจุดมุ่งหมายที่ต้องการให้ “มูจิ วัน แบงค็อก” เป็นสาขาหลักของมูจิในประเทศไทย จึงมีการเปิดตัวสเปซ “Open MUJI” เป็นครั้งแรกในประเทศไทยเพื่อใช้เป็นพื้นที่เปิดตัวและจำหน่ายสินค้าคอลเลคชั่นใหม่ คอลเลคชั่นพิเศษ รวมถึงใช้จัดแสดงนิทรรศการ กิจกรรมเวิร์กช้อป และกิจกรรมทางการตลาดหลากหลายรูปแบบ โดยมีวัตถุประสงค์ให้พื้นที่นี้ สะท้อนแนวคิดของมูจิในการเชื่อมต่อกับลูกค้า สังคมและชุมชน
ทั้งยังนำเสนอรูปแบบของการช้อปปิ้งที่แปลกใหม่ โดยดึงเอาข้อดีหลายๆ ด้านของแนวคิดการออกแบบในสไตล์ญี่ปุ่นมาผสานเข้ากับ วัฒนธรรม และความชื่นชอบในแบบของคนไทย จนเกิดเป็นส่วนผสมที่ลงตัวของสินค้า บริการ และประสบการณ์ใหม่ๆ ที่ถูกคิดและออกแบบมาเพื่อให้ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์หลากหลายรูปแบบอาทิ โซน Grab & Go พื้นที่สะดวกซื้อ ซึ่งเปิดบริการตั้งแต่ 7.00 น. นำเสนอสินค้าประเภทอาหาร เครื่องดื่ม กาแฟ เบเกอรี่ ทั้งแบบกึ่งสำเร็จรูป และแบบทำสดใหม่พร้อมรับประทาน โซน Green& Outdoor Goods สินค้าต้นไม้หลากหลายประเภท ของประดับตกแต่งสวน และเฟอร์นิเจอร์แบบกลางแจ้ง โซน PET Products เอาใจคนรักสัตว์ด้วยสินค้า
สำหรับสัตว์เลี้ยงที่เปี่ยมด้วยคุณภาพ และออกแบบมาอย่างพิถีพิถันเช่น ชามอาหาร และเบาะสัตว์เลี้ยง รวมถึงโซน Services ต่างๆ ที่เอ็กซ์คลูซีฟเฉพาะ “มูจิ วัน แบงค็อก” ที่เดียว เช่นบริการปักผ้า และสกรีนที่สามารถนำสินค้าของมูจิ มาปักหรือสกรีนตัวอักษร และลวดลายการ์ตูนที่มีให้เลือกกว่า 200 ลาย รวมถึงลายพิเศษที่ออกแบบขึ้นโดยเฉพาะสำหรับสาขา “มูจิ วัน แบงค็อก” จากฝีมือการสร้างสรรค์ของนักวาดภาพประกอบรุ่นใหม่ชาวไทยอย่าง ReenP, Atelier Pakawan และ Fahsuwaree นอกจากนี้ลูกค้าสามารถนำลายที่ตัวเองออกแบบหรือชื่นชอบ มาใช้บริการปัก หรือพิมพ์ลายสกรีนได้ที่สาขานี้เป็นสาขาแรกในกรุงเทพมหานครฯ หลังจากเปิดตัวบริการนี้เป็นครั้งแรกในไทยที่มูจิ เซ็นทรัล เชียงใหม่ แอร์พอร์ต เมื่อปลายปี 2566 ที่ผ่านมา”
ริเริ่มสร้างสรรค์เพื่อสนับสนุนชุมชนและความยั่งยืน
“นอกจากนี้มูจิ ประเทศไทยยังคงให้ความสำคัญในเรื่องความยั่งยืน ผ่านโซนต่างๆ ที่ตอบโจทย์ทั้งเรื่องการดูแลสิ่งแวดล้อม และการเป็นส่วนหนึ่งของชุมชน (Local Community Collaboration) ได้แก่ Community Market ตลาดนัดมูจิ เพื่อให้ร้านค้าท้องถิ่นสามารถเข้ามาจำหน่ายสินค้าท้องถิ่นหลากหลาย โดยจะมีการจัดกิจกรรมตั้งแต่วันเปิดคอนเซ็ปต์สโตร์จนถึงวันที่ 1 ธ.ค. นี้ Refill Station ที่ MUJI วางจำหน่ายสินค้าจากแบรนด์ Normal Refill ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดแบบรีฟิล ที่ผลิตขึ้นจากส่วนผสมหลักจากธรรมชาติอย่าง ผลมะคำดีควาย เก็บเกี่ยวด้วยคนในท้องถิ่น สร้างรายได้กลับสู่ชุมชน ReMUJI การเพิ่มมูลค่าให้กับสินค้าด้วยการนำเสื้อผ้า
ใหม่ที่ไม่เคยผ่านการใช้งานในคอลเลคชั่นเก่าของมูจิ มาผ่านกระบวนการย้อมครามเพื่อนำกลับมาขายใหม่ Local Products ที่มีจำหน่ายแบบเอ็กซ์คลูซีฟเฉพาะสาขา “มูจิ วัน แบงค็อก” นำเสนอผลิตภัณฑ์ซึ่งมูจิ ประเทศไทยที่ร่วมพัฒนาสินค้ากับผู้ประกอบการแบรนด์เซรามิกท้องถิ่นจากจังหวัดเชียงใหม่ได้แก่ InClay Studio และ Charm-learn Studio โดยเชื่อมั่นว่าจากประสบการณ์ทั้งหมดที่ทางแบรนด์สร้างสรรค์และคิดมาอย่างพิถีพิถันจะช่วยส่งเสริมให้ “มูจิ วัน แบงค็อก” เป็นอีกหนึ่งหมุดหมายที่ลูกค้าชาวไทย และนักท่องเที่ยวต่างชาติไม่พลาดที่จะมาเยี่ยมเยือนเมื่อเข้ามาใช้ไลฟ์สไตล์ หรือท่องเที่ยวในโครงการ “วัน แบงค็อก” นายอกิฮิโร่เสริม
นางสาวอริญา พันธุมโกมล ผู้จัดการฝ่ายการตลาด บริษัท มูจิ รีเทล ประเทศไทย จำกัด กล่าวว่า “มูจิ ประเทศไทย มุ่งการสร้างการรับรู้เกี่ยวกับการเปิดตัวคอนเซ็ปต์สโตร์ “มูจิ วัน แบงค็อก” สู่กลุ่มเป้าหมาย ในวงกว้าง โดยใช้ช่องทางและวิธีการสื่อสารหลากหลายรูปแบบทั้งออฟไลน์ และออนไลน์ รวมถึงมีการใช้สื่อนอกบ้าน (Out of home) ทั้งยังมีการใช้อินฟลูเอนเซอร์และเซเลบริตี้ชื่อดังอย่าง อาเล็ก–ธีรเดช เมธาวรายุทธ และโบว์–เมลดา สุศรี มาร่วมงานเปิดตัวสาขาอย่างเป็นทางการเพื่อถ่ายทอดประสบการณ์การช้อปปิ้งรูปแบบใหม่ของสาขา “มูจิ วัน แบงค็อก” นอกจากนี้ในช่วงเปิดสาขาใหม่ บริษัท ยังได้จัดกิจกรรมส่งเสริมการตลาดอย่างต่อเนื่องไปจนถึงสิ้นปี เพื่อ
กระตุ้นยอดขายเอาใจแฟนๆ ของมูจิที่มาหาซื้อของขวัญ สร้างความคึกคักให้กับเทศกาลแห่งการเฉลิมฉลอง ด้วยข้อเสนอพิเศษสำหรับการซื้อสินค้ายอดนิยมหลายรายการ และการมอบของสมนาคุณพิเศษ Limited Jute Bag ลายพิเศษ MUJI One Bangkok เมื่อซื้อสินค้ามูจิครบ 2,000 บาท* นอกจากนี้ยังมีสิทธิ์ร่วมลุ้นรับตั๋วเครื่องบินไปกลับกรุงเทพฯ-โตเกียว จาก All Nippon Airlines รวมถึงกระเป๋าเดินทาง MUJI และไอเทมอื่นๆ อีกมากมาย ระหว่างวันที่ 1-10 พ.ย. นี้ ไม่เพียงเท่านั้นสำหรับลูกค้าใหม่ที่แอดไลน์ (LINE) MUJI Thailand รับ E-Cash Coupon ส่วนลด 300 บาท* สำหรับซื้อสินค้าขั้นต่ำ 3,000 บาท* ตั้งแต่วันที่ 1-31 พ.ย.นี้ อีกด้วย ”
นอกจากนี้เรายังมีเครื่องกาชาปองสุดพิเศษต้อนรับการเปิดตัวสาขา “มูจิ วัน แบงค็อก” ให้ลูกค้าสามารถร่วมสนุกกับการสะสมสินค้ายอดนิยมของมูจิจำลองในขนาดจิ๋ว ที่ถือเป็นไอเทมลิมิเต็ดที่สามารถซื้อเป็นของขวัญและของฝากในช่วงเปิดตัวสาขาใหม่อย่างเป็นทางการ”
ติดตามช่องทางมิติหุ้นเพื่อรับข่าวสารตลาดทุนได้ตามลิงค์ด้านล่าง
Web : https://www.mitihoon.com/
Facebook : https://www.facebook.com/mitihoon
Youtube : https://www.youtube.com/@mitihoonofficial7770
Tiktok : www.tiktok.com/@mitihoon