TEGH มาตามนัด! โชว์ 9 เดือนยอดขายยางแท่งพุ่งแตะ 153,819 ตัน ทุบสถิติใหม่ กำไรสุทธิ 383.63 ลบ.เพิ่มขึ้น 162% YoY- จับตาโค้งหลังทะยานต่อเนื่อง บุ๊กรายได้ขายไบโอแก๊สให้ GGC พร้อมอัพกำลังผลิตน้ำมันปาล์ม

51

มิติหุ้น  –  นางสาวสินีนุช โกกนุทาภรณ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไทยอีสเทิร์น กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) (TEGH) ผู้ผลิตและจำหน่ายยางธรรมชาติ และน้ำมันปาล์มดิบรายใหญ่ในภาคตะวันออก และผู้นำด้านการผลิตพลังงานทดแทนและรับบริหารจัดการกากอินทรีย์แบบครบวงจร ที่นำพลังงานสะอาดมาใช้ในกระบวนการผลิต เปิดเผยว่า  ผลการดำเนินงานของกลุ่มบริษัทฯในงวด 9 เดือน สิ้นสุดวันที่ 30 กันยายน 2567 มีรายได้จากการขายสินค้าและการให้บริการ 11,554.14 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 26% เทียบงวดเดียวกันของปีก่อน โดยสัดส่วนรายได้ของแต่ละกลุ่มธุรกิจแบ่งเป็นรายได้จากธุรกิจผลิตและจำหน่ายยางธรรมชาติอยู่ที่ 86% ธุรกิจผลิตและจำหน่ายน้ำมันปาล์มดิบ 13% ธุรกิจพลังงานทดแทนและบริหารจัดการกากอินทรีย์ 1%

สำหรับแนวโน้มผลการดำเนินงานในไตรมาส 4/67 คาดว่าจะเติบโตอย่างแข็งแกร่ง ตอกย้ำการเข้าสู่โหมด  Sustainability to Profitability จากยอดขายยางแท่งมาตรฐาน EUDR ที่เพิ่มมากขึ้น โดยประเมินว่ายอดขายยางแท่งในปี 2567 จะเติบโตได้ระดับไม่ต่ำกว่า 10% เทียบปีที่ผ่านมา คาดว่าจะสามารถสร้างสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์

อีกทั้ง TEGH จะเริ่มรับรู้รายได้การขายก๊าซชีวภาพ (ไบโอแก๊ส) จากการที่บริษัท ไทยอีสเทิร์น ไบโอ พาวเวอร์ จำกัด (TEBP) ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของ TEGH ขายให้บริษัท โกลบอลกรีนเคมิคอล จำกัด (มหาชน) (GGC) ปริมาณ 40,000-57,000 ลูกบาศก์เมตรต่อวัน ส่งตรงทางท่อถึงตัวโรงงาน GGC ในจังหวัดชลบุรี มูลค่า 1 พันล้านบาท ผูกสัญญา 7 ปี ซึ่งจะเริ่มรับรู้ในไตรมาส 4/67

นอกจากนี้ บริษัทฯเตรียมเดินเครื่องผลิตเชิงพาณิชย์ (COD) ผลิตก๊าซชีวภาพโซน 3 เฟสที่ 2 ในครึ่งหลังของปี 2568 ซึ่งจะทำให้สามารถรับกากอินทรีย์เพิ่มขึ้นอีกวันละ 900 ตัน และผลิตก๊าซชีวภาพได้เพิ่มขึ้นอีกวันละ 90,000 ลูกบาศก์เมตร ซึ่งมีลูกค้าหลายรายที่ให้ความสนใจเข้ามาเจรจา

กรรมการผู้จัดการ TEGH กล่าวอีกว่า สำหรับธุรกิจน้ำมันปาล์มดิบ โครงการติดตั้งหม้อต้มไอน้ำเสร็จเรียบร้อยแล้ว และหม้อนึ่งต่อเนื่อง (Sterilizer) พร้อมทดสอบระบบในปลายไตรมาส 4/67 และบริษัทฯ อยู่ระหว่างการขอการรับรองมาตรฐานคาร์บอนและความยั่งยืนระหว่างประเทศ (International Sustainability and Carbon Certification: ISCC) รวมถึงอยู่ระหว่างการศึกษาผลิตภัณฑ์เกี่ยวเนื่องจากอุตสาหกรรมน้ำมันปาล์มดิบ เช่น Skincare เพื่อเป็นการเพิ่มมูลค่าของผลิตภัณฑ์และผลพลอยได้จากกระบวนการผลิต สร้างการเติบโตที่แข็งแกร่งและยั่งยืนในอนาคต อีกทั้งบริษัทฯยังคงมุ่งมั่นที่จะเป็นองค์กรที่สร้างความยั่งยืนให้เกิดขึ้นตลอดห่วงโซ่คุณค่า (Sustainable Value Chain) ภายใต้การดำเนินธุรกิจด้วยความรับผิดชอบต่อสังคม ชุมชน และสิ่งแวดล้อม คำนึงถึงผลกระทบต่อผู้มีส่วนได้เสียทุกภาคส่วน สอดรับกับวิสัยทัศน์ “พันธมิตรทางธุรกิจระดับโลก ที่สร้างห่วงโซ่คุณค่าที่ยั่งยืน”

ติดตามช่องทางมิติหุ้นเพื่อรับข่าวสารตลาดทุนได้ตามลิงค์ด้านล่าง

Web : https://www.mitihoon.com/
Facebook : https://www.facebook.com/mitihoon
Youtube : https://www.youtube.com/@mitihoonofficial7770
Tiktok : www.tiktok.com/@mitihoon