CHAO ประกาศงบ Q3/67 กำไรพุ่งกว่า 62% รับตลาดส่งออกพีค จีนโตเด่น แย้ม Q4 เดินหน้าบุกตลาดในประเทศ สินค้าใหม่หนุนยอดขายปลายปี

33

มิติหุ้น  –  บมจ. เจ้าสัว ฟู้ดส์ อินดัสทรี (CHAO) เปิดงบ Q3/67 กวาดรายได้จากการขาย 454 ลบ. เพิ่มขึ้น 32.4% (QoQ) และเพิ่มขึ้น 20.3% (YoY) ทำกำไรสุทธิ 53.7 ลบ. พุ่งกว่า 62% (QoQ) จากการเติบโตของตลาดต่างประเทศ โดยเฉพาะจีน รวมทั้ง บุกขยายไปยังประเทศกลุ่มใหม่ต่อเนื่อง ปัจจุบันมีครอบคลุม 21 ประเทศทั่วโลก  ด้านตลาดในประเทศมีการจัดกิจกรรมทางการตลาดและสินค้าใหม่ทยอยเปิดตัวครบ 15 SKUs นำเสนอผ่านช่องทางการจำหน่ายที่แข็งแกร่ง ล่าสุดได้ปรับโครงสร้างการขายผ่านช่องทางร้านค้าปลีกดั้งเดิมแบบใหม่แล้วเสร็จในช่วงปลาย Q2 หนุนโค้งสุดท้ายของปี ตลาดในประเทศเด่น ส่วนปีหน้าท็อปฟอร์มกว่า

นางสาวณภัทร โมรินทร์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เจ้าสัว ฟู้ดส์ อินดัสทรี จำกัด (มหาชน) หรือ CHAO หนึ่งในผู้นำธุรกิจผลิตและจำหน่ายขนมขบเคี้ยวและผลิตภัณฑ์แปรรูปจากเนื้อสัตว์ ภายใต้แบรนด์ “เจ้าสัว” และแบรนด์ “โฮลซัม (Wholesome)” เปิดเผยว่า ภาพรวมผลการดำเนินงานไตรมาส 3/67 กลุ่มบริษัทฯ มีรายได้จากการขาย 454.0 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 32.4% จากไตรมาส 2/67 (QoQ) และเพิ่มขึ้น 20.3% จากไตรมาสเดียวกันของปีที่ผ่านมา (YoY) เนื่องจากการเติบโตของตลาดต่างประเทศ โดยเฉพาะที่จีน ขณะที่ตลาดในประเทศได้มีการขยายผลิตภัณฑ์ เปิดตัวสินค้าใหม่วางจำหน่ายผ่านช่องทางออฟไลน์และออนไลน์ ควบคู่การจัดกิจกรรมการตลาดและแคมเปญการขาย รวมทั้ง ปัจจัยบวกจากการทยอยปรับโครงสร้างการขายผ่านช่องทางร้านค้าปลีกดั้งเดิมแบบใหม่เรียบร้อยแล้ว เริ่มส่งสัญญาณบวกเข้ามาต่อเนื่อง

ด้านกำไรสุทธิในไตรมาสที่ 3/67 อยู่ที่ 53.7 ล้านบาท คิดเป็น 11.8% ของรายได้จากการขาย และปรับเพิ่มขึ้น 62.0% จากไตรมาส 2/67 (QoQ) สาเหตุมาจากสัดส่วนการส่งออกเพิ่มสูงขึ้น ประกอบกับเริ่มเกิดการประหยัดต่อขนาด (economy of scale) จากค่าใช้จ่ายในการขยายตัวแทนกระจายสินค้าผ่านร้านค้าปลีกดั้งเดิม (Traditional Trade Distributor) ที่ทยอยเปิดครบตามแผนทั้งหมดแล้วตั้งแต่ปลายไตรมาส 2/67

ในด้านผลการดำเนินงานงวด 9 เดือนแรกปีนี้ มีรายได้จากการขายอยู่ที่ 1,133.2 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 7.6% จากช่วงเดียวกันปีก่อน และมีกำไรขั้นต้น 423.6 ล้านบาท คิดเป็น 37.4% ของรายได้จากการขาย กำไรสุทธิ 113.4 ล้านบาท คิดเป็น 10% ของรายได้จากการขาย และกำไรปรับลดลงเล็กน้อยที่ 3.5% จากช่วงเดียวกันปีก่อน

อย่างไรก็ดี ภาพรวมการขยายตลาดถือว่าเดินตามแผน โดยในไตรมาส 3 ปีนี้ กลุ่มบริษัทฯ มีรายได้มาจากในประเทศสัดส่วน 65% และต่างประเทศสัดส่วน 35% โดยตลาดต่างประเทศรายได้เติบโตถึง 94.6% (QoQ) และเพิ่มขึ้น 22.4% (YoY) จากประเทศหลักที่กลุ่มบริษัทฯ มุ่งเน้นในการทำตลาด โดยเฉพาะประเทศจีน ผ่านการกระจายสินค้าที่มีช่องทางแข็งแกร่งที่ Sam’s Club และในไตรมาส 3 บริษัทได้ขยายช่องทางการจัดจำหน่ายไปยังห้าง เหอหม่า (Hema) Supermarket ชื่อดังของ Alibaba และได้มีการแต่งตั้งดิสทริบิวเตอร์ชาวจีนเพิ่มเติม 1 ราย เข้ามาร่วมบุกตลาด ปูพรมสินค้ากระจายเข้าถึงผู้บริโภคได้ครอบคลุมยิ่งขึ้น รวมทั้ง กลยุทธ์การใช้อินฟลูเอนเซอร์ในช่องทางออนไลน์  และการนำเสนอสินค้าใหม่อย่างต่อเนื่อง เพื่อเพิ่มความหลากหลายของสินค้า ประกอบกับมีการสร้างการรับรู้ของแบรนด์ผ่านทางช่องทางออนไลน์และอินฟลูเอนเซอร์ชาวจีน แม้กลุ่มสินค้าหนังปลาในประเทศจีน ยังไม่สามารถวางจำหน่ายได้ตามแผน ส่งผลให้ยอดขายหนังปลาในจีนซะลอตัวไปในระยะ 3 – 9 เดือน ซึ่งปัจจุบันมีการนำเสนอสินค้าหนังปลารสชาติใหม่แล้ว อยู่ระหว่างการพิจารณาของลูกค้า คาดว่ายอดขายจะกลับเข้ามาในปีหน้า

สำหรับตลาดในประเทศสหรัฐอเมริกา สินค้าของกลุ่มบริษัทฯ ยังคงตอบรับกับกระแสนิยมของการบริโภคสินค้าที่มีประโยชน์ ยอดขายเติบโตขึ้นได้เล็กน้อยจากปีก่อน เนื่องจากสินค้าที่วางจำหน่ายในปัจจุบันเป็นสินค้า OEM ทำให้กลุ่มบริษัทฯ มีข้อจำกัดในการบริหารจัดการโปรโมชั่น รวมถึงกิจกรรมทางการตลาด อย่างไรก็ตาม บริษัทฯ อยู่ระหว่างพูดคุยกับพาร์ทเนอร์ในการคัดสรรสินค้า 7 – 10 รายการ เพื่อเสนอเข้าไปใน Asian Supermarket และตลาด Mainstream คาดเห็นความชัดเจนในไตรมาส 4 ปีนี้ และส่งผลบวกในปีหน้า นอกจากนี้ ความคืบหน้าของบริษัท CHAOSUA FOODS USA Corporation บริษัทร่วมทุนในสหรัฐอเมริการะหว่าง CHAO กับ AS World USA LLC (AS World) ปัจจุบันเตรียมความคืบหน้าออกงานแสดงสินค้าและขยายตลาดในปี 2568 เต็มกำลังมากขึ้น นอกจากนี้ ปัจจัยบวกมาจากกลุ่มลูกค้าที่ทยอยเปิดในประเทศใหม่ๆ ที่สามารถสร้างการเติบโตของยอดขายได้อย่างต่อเนื่อง  อาทิ ประเทศอินโดนีเซีย ดูไบ ฟิลิปปินส์ คำสั่งซื้อแรกส่งออกไปเรียบร้อยแล้ว และเริ่มมีคำสั่งซื้อใหม่เข้ามาต่อเนื่อง อีกทั้ง เริ่มขยายไปที่ ซาอุดีอาระเบีย มาเลเซีย สิงคโปร์ เวียดนาม แคนาดา และไต้หวัน เริ่มส่งออกสินค้าในเดือนกันยายน และตุลาคมเรียบร้อยแล้ว

ในส่วนของตลาดในประเทศ ไตรมาส 3/67 มีรายได้เพิ่มขึ้น 13% QoQ และเพิ่มขึ้น 19.2% YoY ปัจจัยบวกมาจากกิจกรรมทางการตลาดและสินค้าใหม่ที่เริ่มทยอยเข้าสู่ตลาด การทยอยเพิ่มพื้นที่พิเศษเพื่อวางจำหน่ายผลิตภัณฑ์ รวมถึงได้รับแรงบวกมาจากกลุ่มตัวแทนจำหน่ายช่องทางร้านค้าปลีกดั้งเดิม ที่ได้มีการทยอยปรับโครงสร้างการขายผ่านช่องทางร้านค้าปลีกดั้งเดิมแบบใหม่เรียบร้อยแล้วตั้งแต่ช่วงเดือนเมษายน 67 ที่ผ่านมา

อย่างไรก็ดี ประเมินแนวโน้มไตรมาส 4/67 คาดจะเติบโตได้ดีในทุกช่องทาง ทั้งร้านค้าปลีกและค้าส่งสมัยใหม่ กลุ่มช่องทางออนไลน์ และกลุ่มร้านค้าปลีกดั้งเดิมที่สามารถกระจายสินค้าลงในพื้นที่ได้ครอบคลุมและเติบโตมากขึ้น ควบคู่ทำการตลาดและกิจกรรมส่งเสริมการขาย พร้อมกับบุกช่องทางออนไลน์ผ่านแคมเปญต่างๆ นอกจากนี้ สินค้าใหม่ที่วางจำหน่ายราว 15 SKUs จะเข้ามาตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคมากขึ้น โดยเฉพาะสินค้ากลุ่มผลิตภัณฑ์ข้าวตัง และหมูแท่ง โดยมีแบรนด์แอมบาสเดอร์และอินฟลูเอนเซอร์ร่วมทำกิจกรรมต่างๆ เพื่อกระตุ้นยอดขายในประเทศให้คึกคัก และคาดจะดีต่อเนื่องไปจนถึงปีหน้า ตลาดต่างประเทศ บริษัทได้ลูกค้ารายใหม่ๆ เพิ่มเติมในครึ่งปีหลังจำนวน 11 รายใน 8 ประเทศ ซึ่งหลายเจ้ามีคำสั่งซื้อซ้ำมา สนับสนุนให้ปัจจุบัน บริษัทฯ มีเครือข่ายพาร์ทเนอร์กระจายอยู่ครอบคลุม 21 ประเทศทั่วโลก เป็นฐานรายได้ใหม่ที่จะเข้ามาสนับสนุนโอกาสในปี 68

“บริษัทฯ ประเมินปี 67 เป็นปีที่เจ้าสัวเดินหน้าบุกตลาดขนมขบเคี้ยวทั้งในประเทศ และในตลาดโลก เพื่อตอกย้ำ “เจ้าสัว” เจ้าตลาดขนมขบเคี้ยวไทยในกลุ่ม Better for you Snack และการเติบโตยังเป็นในลักษณะค่อยเป็นค่อยไป เนื่องจาก ผลลัพธ์จากการขยายตลาดส่วนใหญ่จะเริ่มเห็นชัดในปีหน้า จึงตั้งเป้าภาพรวมปี 68 คาดรายได้เติบโต 20% จากปีก่อน และตั้งเป้านำเสนอสินค้าใหม่ราว 20 SKUs ที่จะทยอยออกตั้งแต่ต้นปี ทั้งข้าวอบกรอบ และหมูแท่ง ควบคู่กับการออกงานแสดงสินค้าในต่างประเทศกว่า 10 งาน หนุนตลาดต่างประเทศและเร่งสร้างฐานลูกค้าใหม่ในอนาคต ” นางสาวณภัทร กล่าวทิ้งท้าย

ติดตามช่องทางมิติหุ้นเพื่อรับข่าวสารตลาดทุนได้ตามลิงค์ด้านล่าง

Web : https://www.mitihoon.com/
Facebook : https://www.facebook.com/mitihoon
Youtube : https://www.youtube.com/@mitihoonofficial7770
Tiktok : www.tiktok.com/@mitihoon