CGSI : Trend Spotter

43

มิติหุ้น – Trend Spotter
• ตลาดหุ้นสหรัฐ : ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ร่วงลงในวันศุกร์ (15 พ.ย.) หลังตลาดรับรู้ปัจจัยบวกจากชัยชนะของทรัมป์ในการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ไปพอสมควรแล้ว และ ตลาดเปลี่ยนไปกังวลต่อการดำเนินงานรวมถึงการจัดตั้งคณะรัฐมนตรีของทรัมป์แทน ที่ล่าสุด เตรียมเสนอชื่อ Robert F. Kennedy Jr. ซึ่งมีแนวคิดต่อต้านการฉีดวัคซีน เป็นรมว. สาธารณสุขสหรัฐ ส่งผลให้เกิดแรงขายหุ้นกลุ่มเภสัชกรรม (Amgen -4.2%, Moderna -7.3%)

นอกจากนี้ มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจแบบชาตินิยมของทรัมป์ ที่ตลาดกังวลว่าอาจทำให้เกิดภาวะเงินเฟ้อ รวมถึงความคิดเห็นของนายพาวว์เวล ประธาน Fed ที่ระบุว่า Fed ไม่รีบร้อนที่จะลดดอกเบี้ยลง เนื่องจากเศรษฐกิจสหรัฐฯ ยังคงเติบโต ส่งผลให้นักลงทุนเกิดความกังวลต่อการชะลอปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายของ Fed

โดยล่าสุด CME FedWatch ระบุว่า ตลาดให้น้ำหนักเพิ่มขึ้นที่ 42% ว่า Fed จะยังคงตรึงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ระดับ 4.75% ในการประชุมเดือนธ.ค.

แนวโน้มที่ Fed จะชะลอการลดอัตราดอกเบี้ย ส่งผลให้ราคาทองคำสัปดาห์ที่แล้วปรับตัวร่วงลงมากสุดในรอบ 3 ปี จากแรงกดดันของดอลลาร์ที่ยังคงแข็งค่า และ ราคาน้ำมันปิดลบกว่า 2% เนื่องจากหากมีการลดดอกเบี้ยจะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจและสนับสนุนอุปสงค์น้ำมันให้เพิ่มขึ้น

จากนี้ ติดตามรายงานตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ เพิ่มเติม เพื่อหาทิศทางที่ชัดเจนขึ้นเกี่ยวกับอัตราดอกเบี้ยนโยบายของ Fed ได้แก่ ดัชนีภาคการผลิตเดือนพ.ย. จากธนาคารกลางรัฐฟิลาเดลเฟีย และ ยอดขายบ้านมือสองเดือนต.ค. (21 พ.ย.) และ ดัชนี PMI ภาคการผลิตและการบริการ เดือนพ.ย. (22 พ.ย.)

สำหรับตลาดภูมิภาคอื่น ติดตาม 1) รายงานตัวเลขอัตราเงินเฟ้อเดือนต.ค. ของยูโรโซน (19 พ.ย.) และ อังกฤษ (20 พ.ย.) และ 2) การกำหนดอัตราดอกเบี้ย LPR เดือนพ.ย. ของจีน (20 พ.ย.)

• SET Index : เราคาดว่า SET Index สัปดาห์นี้ จะเคลื่อนไหวบริเวณ 1,430-1,450 จุด

ปัจจัยสำคัญที่จะส่งผลต่อทิศทางฟันด์โฟลด์ที่ต้องติดตามสัปดาห์นี้ ได้แก่ รายงานตัวเลข GDP 3Q24 ของไทยวันนี้ หลังตลาดหุ้นไทยถูกกดดันจากการอ่อนค่าของเงินบาทในช่วงที่ผ่านมา

นอกจากนี้ ติดตามการประชุมครม. ในวันพรุ่งนี้ (19 พ.ย.) เกี่ยวกับความชัดเจนของมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจอื่นเพิ่มเติม อาทิ ดิจิทัลวอลเล็ตเฟส 2 และ ประเด็นการเมืองในประเทศกรณีศาลรัฐธรรมนูญจะมีคำสั่งรับหรือไม่รับ คำร้องยุบพรรคเพื่อไทยในวันที่ 22 พ.ย.

• หุ้นแนะนำ
SPRC : SPRC อาจเพิ่มปริมาณน้ำมันดิบที่นำเข้ากลั่นของ CDU ใน 4Q24 (vs. 157kbd ใน 3Q24) เพราะ crack spread ของน้ำมันดีเซลและน้ำมันเบนซินเพิ่มขึ้น เราคาดว่าค่าการกลั่น ตลาดของ SPRC จะเพิ่มขึ้นเป็น 4.8 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล ในเดือนต.ค. และ 5.5 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล MTD ในเดือนพ.ย. 2024 (vs. 4.2 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรลใน 3Q24)
(Take profit : 7.10 / Stop loss : 5.30)

MTC : เราคาดว่าบริษัทจะมี EPS เติบโตแข็งแกร่งในปี FY24-26 และมีคุณภาพสินทรัพย์ดีขึ้น ซึ่งจะส่งผลให้อัตราการสำรองหนี้สูญลดลง นอกจากนี้ เรามองว่า P/BV ในปี 2025 ยังไม่สูงเกินไปเมื่อพิจารณาจาก ROE ที่คาดจะเพิ่มขึ้นในปี FY24-26
(Take profit : 52.25 / Stop loss : 46.25)

#MacroWealthResearch
#CGSInternational

ติดตามช่องทางมิติหุ้นเพื่อรับข่าวสารตลาดทุนได้ตามลิงค์ด้านล่าง

Web : https://www.mitihoon.com/
Facebook : https://www.facebook.com/mitihoon
Youtube : https://www.youtube.com/@mitihoonofficial7770
Tiktok : www.tiktok.com/@mitihoon