มิติหุ้น – Trend Spotter
เราคาดว่า SET Index จะพักฐานราว 10 จุดจากประเด็นหุ้น DELTA โดย ตลาดหลักทรัพย์ฯ (ตลท.) ประกาศให้ DELTA ติดแคชบาลานซ์ระดับ 1 เริ่มตั้งแต่ 21 พ.ย.67 ถึง 11 ธ.ค.67 โดย หากอิงจากสถิติจากเกณฑ์การติดแคชบาลานซ์ ราคาหุ้น DELTA จะปรับตัวลดลงโดยเฉลี่ยในวันต่อมาราว 10.1% จากการคำณวณของเรา
ปัจจัยดังกล่าวส่งผลให้วันนี้เรามองกรอบดัชนี 1,445-1,455 จุด และ ยังคงมุมมองว่า SET จะสามารถยืนเหนือ 1,450 จุดได้ หากหลุด 1,450 จุด มองเป็นจังหวะในการเข้าสะสมหุ้นไทยเพิ่มเติม จากปัจจัยหนุนในประเทศ ทั้งการกระตุ้นเศรษฐกิจ หลังการประชุมบอร์ดเศรษฐกิจ เมื่อวันที่ 19 พ.ย. มีมติ 1) อนุมัติโครงการแจกเงิน 10,000 บาท เฟส 2 สำหรับผู้มีอายุ 60 ปีขึ้นไป วงเงินประมาณ 4 หมื่นล้านบาท ก่อนวันที่ 29 ม.ค. 2025 2) การให้ความสำคัญกับการแก้ไขปัญหาหนี้ครัวเรือนให้เบ็ดเสร็จอย่างเป็นรูปธรรม ทั้งสินเชื่อบ้าน สินเชื่อรถ และ SME และ 3) เห็นชอบการแจกเงินไร่ละ 1,000 บาท เพื่อช่วยบรรเทาภาระหนี้ของเกษตรกร รวมถึง ภาพรวมเศรษฐกิจใน 3Q24 (+3% yoy) ที่ออกมาดีกว่าคาด โดย เรายังมองว่าเศรษฐกิจใน 4Q24 มีโอกาสขยายตัว 4% yoy เป็นอย่างน้อยจากการแจกเงินรอบแรกและไฮซีซั่นของการท่องเที่ยว
สำหรับตัวเลขและประเด็นทางเศรษฐกิจในประเทศหลังอัยการสูงสุด ไม่รับดำเนินการ คดีทักษิณ – เพื่อไทยล้มล้างการปกครอง จับตาวันศุกร์นี้ 22 พ.ย.2567 กรณีศาลรัฐธรรมนูญ จะพิจารณารับ-ไม่รับคำร้อง ทักษิณ ชินวัตร ล้มล้างการปกครองฯ โดย เราคาดว่าศาลรัฐธรรมนูญน่าจะตัดสินว่าพรรคเพื่อไทยและนายกฯ แพทองธาร ไม่มีความผิด
สำหรับปัจจัยต่างประเทศ สถานการณ์ความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์คลายตัวลงหลัง นาย วลาดิเมียร์ ปูตินกล่าวว่าพร้อมพูดคุยและหารือกับ นาย โดนัลด์ ทรัมป์ เกี่ยวกับการยุติสงครามรัสเซีย-ยูเครน ส่งผลให้ราคาน้ำมันดิบและสินทรัพย์ปลอดภัยอย่างทองคำย่อตัวหลังปรับขึ้นแรงและอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯปรับตัวสูงขึ้น
• หุ้นแนะนำ
CPALL : CPALL มีกำไรจากการดำเนินงานปกติ 6.2 พันล้านบาท (+44% yoy, +1% qoq) ใน 3Q24 หรือสูงกว่าประมาณการของเรา 4% และสูงกว่า Bloomberg consensus 9% โดยมีปัจจัยหนุนจากอัตรากำไรขั้นต้น (GPM) ที่สูงกว่าคาดของธุรกิจร้านสะดวกซื้อและกำไรที่แข็งแกร่งกว่าคาดของ CPAXT โดย ร้าน 7-Eleven ในประเทศไทยมีอัตราการเติบโตของยอดขายสาขาเดิม (SSSG) ที่ +3.3% ใน 3Q24 หนุนโดย ยอดซื้อต่อบิลที่เพิ่มขึ้น 2.4% yoy และจำนวนลูกค้าที่เข้ามาในร้านเพิ่มขึ้น 0.5% yoy
เราคาดว่ากำไรสุทธิใน 4Q24 จะยังมีอัตราการเติบโตแข็งแกร่ง yoy แม้จะต่ำกว่าใน 3Q24 เล็กน้อย หลังผลดีจากค่าไฟฟ้าที่ลดลงค่อยๆ หมดไป
(Take profit : 64.75 / Stop loss : 62.00)
AMATA : AMATA มีกำไรสุทธิเติบโตสูงถึง 231% qoq และ 93% yoy เป็น 765.1 ล้านบาทใน 3Q24 เพราะยอดโอนกรรมสิทธิ์ที่ดินฟื้นตัวแข็งแกร่ง และ SG&A, ดอกเบี้ยจ่ายและส่วนของผู้ถือหุ้นส่วนน้อยต่ำกว่าคาด และ เราคาดว่ายอดขายที่ดินใหม่และยอดโอนกรรมสิทธิ์ที่ดินจะเพิ่มเป็น 2,500 ไร่และ 1,285 ไร่ในปี 2024
AMATA มียอด backlog สูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 1.94 หมื่นล้านบาท ณ สิ้น 3Q24 ซึ่งแบ่งเป็น backlog ใน ไทย 1.76 หมื่นล้านบาทและในเวียดนามอีก 1.8 พันล้านบาท โดย backlog ในไทยจะทยอยรับรู้เป็นรายได้ใน 4Q24-2025 ส่วน backlog ในเวียดนามจะรับรู้เป็นรายได้ในปี 2026 เราจึงคาดว่า 4Q24 จะเป็นไตรมาสที่ AMATA ทำกำไรสุทธิสูงสุดในปีนี
(Take profit : 29.25 / Stop loss : 27.50)
#MacroWealthResearch
#CGSInternational
ติดตามช่องทางมิติหุ้นเพื่อรับข่าวสารตลาดทุนได้ตามลิงค์ด้านล่าง
Web : https://www.mitihoon.com/
Facebook : https://www.facebook.com/mitihoon
Youtube : https://www.youtube.com/@mitihoonofficial7770
Tiktok : www.tiktok.com/@mitihoon