Karmart เผยเส้นทางความสำเร็จ 15 ปี เปิดโรดแมพลุยธุรกิจปั้นแบรนด์สู่ระดับโลกพร้อมขยายอาณาจักรความงามมูลค่า 10,000 ล้าน ย้ำวิสัยทัศน์ “Unique Beauty Solutions”ชูกลยุทธ์ “Influencer Marketing” เดินเกมพัฒนาผลิตภัณฑ์ตอบโจทย์ความงามที่หลากหลายตั้งเป้ายอดขาย 4,500 ล้านบาท ในปี 68

97
มิติหุ้น –  บริษัท คาร์มาร์ท จำกัด (มหาชน) หรือ KAMART ฉลองครบรอบ 15 ปีแห่งความสำเร็จ จากธุรกิจครอบครัว สู่การนำเข้าเครื่องสำอางจากเกาหลีใต้ Karmart ได้พัฒนาแบรนด์ชั้นนำในเครือ เช่น Cathy Doll และ Baby Bright ซึ่งกลายเป็นผลิตภัณฑ์ยอดนิยมที่ครองใจผู้บริโภคทั้งในประเทศและตลาดต่างประเทศ อาณาจักรแห่งนี้ไม่ได้เติบโตเพียงแค่ยอดขาย แต่ยังขยายฐานผู้บริโภคด้วยความเข้าใจในเทรนด์และพฤติกรรมของลูกค้า จนสามารถก้าวขึ้นเป็นแบรนด์ผู้นำด้านความงามระดับประเทศที่พร้อมขยายตัวสู่เวทีโลก ล่าสุดประกาศเปิดแผนธุรกิจและผลิตภัณฑ์ใหม่ที่จะสร้างปรากฏการณ์ในตลาดความงามระดับโกลบอล ภายใต้วิสัยทัศน์ “Unique Beauty Solutions” ที่เน้นการตอบโจทย์ความงามที่หลากหลายเพื่อครอบคลุมทุกกลุ่มเป้าหมาย ขับเคลื่อนด้วยกลยุทธ์ “Influencer Marketing” คีย์ซัคเซสของแบรนด์ในการพัฒนาผลิตภัณฑ์และสร้างสรรค์แคมเปญการตลาดที่เข้าถึงความต้องการของกลุ่มเป้าหมาย พร้อมมุ่งสู่การเป็น Top of mind แบรนด์อันดับต้นๆ บิวตี้ที่ครองใจผู้บริโภคชาวไทย และก้าวสู่การขยายอาณาจักรความงามมูลค่า 10,000 ล้านบาท

คุณชลธิดา สถาวรวิจิตร รองกรรมการผู้จัดการสายงานการตลาด บริษัท คาร์มาร์ท จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “ตลอดระยะเวลา 15 ปี ที่ผ่านมา Karmart ได้เดินทางจากจุดเริ่มต้นเล็กๆ ในฐานะธุรกิจครอบครัว สู่อาณาจักรความงามที่เป็นที่ยอมรับในระดับประเทศและกำลังก้าวไกลในตลาดโลก ความสำเร็จของเราไม่ได้เกิดขึ้นเพียงเพราะการนำเสนอผลิตภัณฑ์ที่หลากหลายและสร้างสรรค์ แต่เกิดจากการทำความเข้าใจความต้องการของผู้บริโภคอย่างลึกซึ้ง พร้อมกับการปรับตัวในตลาดที่เปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา Karmart มีความภาคภูมิใจในฐานะผู้บุกเบิกหลายเทรนด์ในตลาดเครื่องสำอางไทย ที่ครองใจผู้บริโภคทั้งในและต่างประเทศ รวมถึงการพัฒนาพันธมิตรกับ Influencers และการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ที่สะท้อนความเชื่อของเราในเรื่อง ‘Unique Beauty Solutions’ ซึ่งมุ่งเน้นความงามที่เข้าถึงได้ในทุกมิติ”

สำหรับภาพรวมการดำเนินธุรกิจในปี 2567 นี้ พบว่าเติบโตดีได้ตามเป้าหมายที่คาดการณ์ไว้ โดยบริษัทฯ วางเป้าหมายรายได้ตลอดปีนี้ไว้ที่ประมาณ 3,600 ล้านบาท คิดเป็นอัตราการเติบโตเกือบ 45% จากปีที่ผ่านมามีรายได้ 2,500 ล้านบาท ซึ่งปัจจัยหลักมาจากการที่เพิ่มแบรนด์สินค้าใหม่เข้ามาอย่างต่อเนื่อง ขณะที่แบรนด์เดิมที่ทำตลาดอยู่นั้นก็เติบโตมากขึ้นทุกแบรนด์ ทุกช่องทาง และทุกกลุ่ม โดยเฉพาะในกลุ่มเมคอัพที่เติบโตได้ดี
อย่างไรก็ดี บริษัทฯ มองว่าอุตสาหกรรมความงามจะเติบโตได้อีกมาก ด้วยภาพรวมตลาดเครื่องสำอางในประเทศไทยมีมูลค่ากว่า 2.6 แสนล้านบาทในปีที่ผ่านมา (2566) และคาดว่าจะเติบโตเฉลี่ย 6-8% ต่อปีในช่วง 5 ปีข้างหน้า โดยปัจจัยขับเคลื่อนหลักคือความต้องการของผู้บริโภคที่เพิ่มขึ้นในกลุ่มผลิตภัณฑ์สกินแคร์และเมกอัพ ซึ่งคิดเป็นสัดส่วนถึง 70% ของตลาดรวม จากข้อมูลพบว่า ผู้บริโภคชาวไทยกว่า 67% มีพฤติกรรมทดลองผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ เป็นประจำ และ 45% นิยมเลือกซื้อสินค้าเพราะได้รับการแนะนำจาก Influencers หรือรีวิวออนไลน์ เทรนด์นี้สะท้อนให้เห็นถึงความสำคัญของการตลาดดิจิทัลและการสร้างความสัมพันธ์กับผู้บริโภคผ่านช่องทางที่พวกเขาเชื่อถือ”

“ปัจจุบัน Karmart ครองส่วนแบ่งการตลาดในกลุ่มเครื่องสำอางระดับกลางถึงพรีเมียมกว่า 15% โดยแบรนด์ Cathy Doll และ Baby Bright ติดอันดับ Top 5 แบรนด์ที่ผู้บริโภคนึกถึงเมื่อเลือกซื้อสินค้าเมกอัพและสกินแคร์ ในมุมมองของเรา แนวโน้มตลาดความงามในประเทศไทยจะมุ่งไปสู่ความงามเฉพาะบุคคล (Personalized Beauty) และผลิตภัณฑ์ที่มุ่งเน้นคุณค่าเชิงนวัตกรรม เช่น เวชสำอางที่มีส่วนผสมจากธรรมชาติและสินค้า Clean Beauty ที่กำลังเติบโตสูง โดยเฉพาะในกลุ่มผู้บริโภคอายุ 20-35 ปี ซึ่งคิดเป็น 60% ของกลุ่มเป้าหมายหลักในตลาดนี้ การเติบโตของตลาดนี้ไม่ใช่เพียงโอกาส แต่คือความท้าทายที่ต้องตอบสนองด้วยผลิตภัณฑ์ที่แตกต่างและการสื่อสารที่เข้าถึงจิตใจผู้บริโภค”

“แนวทางการดำเนินธุรกิจของบริษัทฯ นับจากนี้ จะให้ความสำคัญกับการพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่ตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคยุคใหม่อย่างแท้จริง ผ่านกลยุทธ์ที่เน้น ‘Unique Beauty Solutions’ ซึ่งผสานนวัตกรรมและการสร้างประสบการณ์เฉพาะบุคคล เพื่อเพิ่มมูลค่าให้กับแบรนด์ และสร้างความแตกต่างในตลาดที่มีการแข่งขันสูงนอกเหนือจากตลาดในประเทศที่เราวางแผนรุกธุรกิจในทุกรูปแบบ ทั้งการเพิ่มพอร์ตสินค้าใหม่ การร่วมมือกับพันธมิตร และการขยายช่องทางการขายสู่ดิจิทัลเต็มรูปแบบ เราเล็งเห็นโอกาสในตลาดต่างประเทศที่เติบโตอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะในภูมิภาคเอเชียและตลาดเกิดใหม่อย่างตะวันออกกลางและยุโรป ซึ่งมีความต้องการผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพและตอบสนองเทรนด์ Clean Beauty และ Personalization มากขึ้น”

“ในปี 2568 บริษัทฯ ตั้งเป้าการเติบโตยอดขายเป็น 4,500 ล้านบาท โดยในส่วนของตลาดต่างประเทศ เรามุ่งพัฒนาผลิตภัณฑ์ Exclusive Product เพื่อเจาะกลุ่มลูกค้าในแต่ละประเทศ และขยายเครือข่ายการจัดจำหน่ายผ่านพันธมิตรที่มีศักยภาพ ซึ่ง Karmart มั่นใจว่ากลยุทธ์ ‘Unique Beauty Solutions’ ของเราจะช่วยเสริมความแข็งแกร่งให้แบรนด์ในประเทศและขยายสู่ตลาดโลกได้ตามเป้า เราเชื่อว่าความสำเร็จในระดับสากลจะเสริมสร้างภาพลักษณ์ของแบรนด์ไทยให้ก้าวสู่เวทีโลกอย่างยั่งยืน” คุณชลธิดา กล่าว

ติดตามช่องทางมิติหุ้นเพื่อรับข่าวสารตลาดทุนได้ตามลิงค์ด้านล่าง

Web : https://www.mitihoon.com/
Facebook : https://www.facebook.com/mitihoon
Youtube : https://www.youtube.com/@mitihoonofficial7770
Tiktok : www.tiktok.com/@mitihoon