ลดเป้าผลิตรถยนต์ลงอีก 2 แสนคัน เดือนตุลาคม 2567 ผลิตรถยนต์ 118,842 คัน ลดลงร้อยละ 25.13 ขาย 37,691 คัน ลดลงร้อยละ 36.06 ส่งออก 84,334 คัน ลดลงร้อยละ 20.23 ผลิตรถยนต์ไฟฟ้า 688 คัน เพิ่มขึ้นร้อยละ 34,300 ขายรถยนต์ไฟฟ้า (BEV) 3,717 คัน ลดลงร้อยละ 49.73

72

มิติหุ้น – นายสุรพงษ์ ไพสิฐพัฒนพงษ์ ที่ปรึกษาประธานกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์และโฆษกกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยจำนวนการผลิต ยอดขายภายในประเทศ และการส่งออกรถยนต์และรถจักรยานยนต์ของประเทศ ในเดือนตุลาคม 2567 ดังต่อไปนี้

การผลิต จำนวนรถยนต์ทั้งหมดที่ผลิตได้ในเดือนตุลาคม 2567 มีทั้งสิ้น 118,842 คัน ลดลงจากเดือนตุลาคม 2566 ร้อยละ 25.13 และลดลงจากเดือนกันยายน 2567 ร้อยละ 2.81 เพราะผลิตเพื่อส่งออกลดลงร้อยละ 7.00 และผลิตเพื่อขายในประเทศลดลงร้อยละ 51.70 จำนวนรถยนต์ที่ผลิตได้ในเดือนมกราคม – ตุลาคม 2567 มีจำนวนทั้งสิ้น 1,246,868 คัน ลดลงจากเดือนมกราคม – ตุลาคม 2566 ร้อยละ 19.28 รถยนต์นั่ง เดือนตุลาคม 2567 ผลิตได้ 47,481 คัน ลดลงจากเดือนตุลาคม 2566 ร้อยละ 17.07 โดยแบ่งเป็น
• รถยนต์นั่ง Internal Combustion Engine มีจำนวน 32,607 คัน ลดลงจากเดือนตุลาคม 2566 ร้อยละ 22.49
• รถยนต์นั่ง Battery Electric Vehicle มีจำนวน 688 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนตุลาคม 2566 ร้อยละ 34,300
• รถยนต์นั่ง Plug-in Hybrid Electric Vehicle มีจำนวน 500 คัน ลดลงจากเดือนตุลาคม 2566 ร้อยละ 8.76
• รถยนต์นั่ง Hybrid Electric Vehicle มีจำนวน 13,686 คัน ลดลงจากเดือนตุลาคม 2566 ร้อยละ 6.48

ยอดผลิตของรถยนต์นั่ง ตั้งแต่เดือนมกราคม – ตุลาคม 2567 มีจำนวน 474,200 คัน เท่ากับร้อยละ 38.03 ของยอดการผลิตทั้งหมด ลดลงจากเดือนมกราคม – ตุลาคม 2566 ร้อยละ 11.91 โดยแบ่งเป็น
• รถยนต์นั่ง Internal Combustion Engine มีจำนวน 301,931 คัน ลดลงจากเดือนมกราคม – ตุลาคม 2566 ร้อยละ 27.41
• รถยนต์นั่ง Battery Electric Vehicle มีจำนวน 8,026 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนมกราคม – ตุลาคม 2566 ร้อยละ 5,215.23
• รถยนต์นั่ง Plug-in Hybrid Electric Vehicle มีจำนวน 5,067 คัน ลดลงจากเดือนมกราคม – ตุลาคม 2566 ร้อยละ 36.85
• รถยนต์นั่ง Hybrid Electric Vehicle มีจำนวน 159,176 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนมกราคม – ตุลาคม 2566 ร้อยละ 39.38

รถยนต์โดยสารขนาดต่ำกว่า 10 ตัน และมากกว่า 10 ตัน ขึ้นไป ในเดือนตุลาคม 2567 ไม่มีการผลิต รวมเดือนมกราคม – ตุลาคม 2567 ผลิตได้ 10 คัน ลดลงจากปีที่แล้วร้อยละ 90.74 รถยนต์บรรทุก เดือนตุลาคม 2567 ผลิตได้ทั้งหมด 71,361 คัน ลดลงจากเดือนตุลาคม 2566 ร้อยละ 29.67 และตั้งแต่เดือนมกราคม – ตุลาคม 2567 ผลิตได้ทั้งสิ้น 772,658 คัน ลดลงจากเดือนมกราคม – ตุลาคม 2566 ร้อยละ 23.22 รถกระบะขนาด 1 ตัน เดือนตุลาคม 2567 ผลิตได้ทั้งหมด 70,514 คัน ลดลงจากเดือนตุลาคม 2566 ร้อยละ 27.83 และตั้งแต่เดือนมกราคม – ตุลาคม 2567 ผลิตได้ทั้งสิ้น 757,709 คัน เท่ากับร้อยละ 60.77 ของยอดการผลิตทั้งหมด ลดลงจากเดือนมกราคม – ตุลาคม 2566 ร้อยละ 22.33 โดยแบ่งเป็น

• รถกระบะบรรทุก 120,468 คัน ลดลงจากเดือนมกราคม – ตุลาคม 2566 ร้อยละ 30.03
• รถกระบะดับเบิลแค็บ 500,462 คัน ลดลงจากเดือนมกราคม – ตุลาคม 2566 ร้อยละ 21.84
• รถกระบะ PPV 136,779 คัน ลดลงจากเดือนมกราคม – ตุลาคม 2566 ร้อยละ 16.11

รถบรรทุกขนาดต่ำกว่า 5 ตัน – มากกว่า 10 ตัน เดือนตุลาคม 2567 ผลิตได้ 847 คัน ลดลงจากเดือนตุลาคม 2566 ร้อยละ 77.52 รวมเดือนมกราคม – ตุลาคม 2567 ผลิตได้ 14,949 คัน ลดลงจากเดือนมกราคม – ตุลาคม 2566 ร้อยละ 51.38

ผลิตเพื่อส่งออก เดือนตุลาคม 2567 ผลิตได้ 87,741 คัน เท่ากับร้อยละ 73.83 ของยอดการผลิตทั้งหมด ลดลงจากเดือนตุลาคม 2566 ร้อยละ 7.00 ส่วนเดือนมกราคม – ตุลาคม 2567 ผลิตเพื่อส่งออกได้ 861,916 คัน เท่ากับร้อยละ 69.13 ของยอดการผลิตทั้งหมด ลดลงจากปี 2566 ระยะเวลาเดียวกันร้อยละ 4.69
รถยนต์นั่ง เดือนตุลาคม 2567 ผลิตเพื่อการส่งออก 27,187 คัน ลดลงจากเดือนตุลาคม 2566 ร้อยละ 4.99 และตั้งแต่เดือนมกราคม – ตุลาคม 2567 ผลิตเพื่อส่งออกได้ทั้งสิ้น 256,817 คัน เท่ากับร้อยละ 54.16 ของยอดผลิตรถยนต์นั่ง ซึ่งเพิ่มขึ้นจากเดือนมกราคม – ตุลาคม 2566 ร้อยละ 3.72 รถกระบะขนาด 1 ตัน เดือนตุลาคม 2567 มียอดการผลิตเพื่อการส่งออก 60,554 คัน ลดลงจากเดือนตุลาคม 2566 ร้อยละ 7.87 และตั้งแต่เดือนมกราคม – ตุลาคม 2567 ผลิตเพื่อส่งออกได้ทั้งสิ้น 605,099 คัน เท่ากับร้อยละ 79.86 ของยอดการผลิตรถกระบะ ลดลงจากเดือนมกราคม – ตุลาคม 2566 ร้อยละ 7.86 โดยแบ่งเป็น

• รถกระบะบรรทุก 51,244 คัน ลดลงจากเดือนมกราคม-ตุลาคม 2566 ร้อยละ 22.67
• รถกระบะดับเบิลแค็บ 443,787 คัน ลดลงจากเดือนมกราคม-ตุลาคม 2566 ร้อยละ 10.88
• รถกระบะ PPV 110,068 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนมกราคม-ตุลาคม 2566 ร้อยละ 19

ผลิตเพื่อจำหน่ายในประเทศ เดือนตุลาคม 2567 ผลิตได้ 31,101 คัน เท่ากับร้อยละ 26.17 ของยอดการผลิตทั้งหมด ลดลงจากเดือนตุลาคม 2566 ร้อยละ 51.70 และเดือนมกราคม – ตุลาคม 2567 ผลิตได้ 384,952 คัน เท่ากับร้อยละ 30.87 ของยอดการผลิตทั้งหมด ลดลงจากเดือนมกราคม – ตุลาคม 2566 ร้อยละ 39.89
รถยนต์นั่ง เดือนตุลาคม 2567 ผลิตเพื่อจำหน่ายในประเทศ 20,294 คัน ลดลงจากเดือนตุลาคม 2566 ร้อยละ 29.14 แต่ตั้งแต่เดือนมกราคม – ตุลาคม 2566 ผลิตได้ 217,383 คัน เท่ากับร้อยละ 45.84 ของยอดการผลิตรถยนต์นั่ง โดยเมื่อเปรียบเทียบกับเดือนมกราคม – ตุลาคม 2566 ลดลงร้อยละ 25.22 รถกระบะขนาด 1 ตัน เดือนตุลาคม 2567 มียอดการผลิตเพื่อจำหน่ายในประเทศ 9,960 คัน ลดลงจากเดือนตุลาคม 2566 ร้อยละ 68.85 และตั้งแต่เดือนมกราคม – ตุลาคม 2567 ผลิตได้ทั้งสิ้น 152,610 คัน เท่ากับร้อยละ 20.14 ของยอดการผลิตรถกระบะ และลดลงจากเดือนมกราคม – ตุลาคม 2566 ร้อยละ 52.14 ซึ่งแบ่งเป็น

• รถกระบะบรรทุก 69,224 คัน ลดลงจากเดือนมกราคม-ตุลาคม 2566 ร้อยละ 34.64
• รถกระบะดับเบิลแค็บ 56,675 คัน ลดลงจากเดือนมกราคม-ตุลาคม 2566 ร้อยละ 60.20
• รถกระบะ PPV 26,711 คัน ลดลงจากเดือนมกราคม-ตุลาคม 2566 ร้อยละ 62.13
รถยนต์โดยสารขนาดต่ำกว่า 10 ตัน และมากกว่า 10 ตัน ขึ้นไป ในเดือนตุลาคม 2567 ไม่มีการผลิต รวมเดือนมกราคม – ตุลาคม 2567 ผลิตได้ 10 คัน ลดลงจากปีที่แล้วร้อยละ 90.74 รถบรรทุก เดือนตุลาคม 2567 ผลิตได้ 847 คัน ลดลงจากเดือนตุลาคม 2566 ร้อยละ 77.52 และตั้งแต่เดือนมกราคม – ตุลาคม 2567 ผลิตได้ทั้งสิ้น 14,949 คัน ลดลงจากเดือนมกราคม – ตุลาคม 2566 ร้อยละ 51.83

รถจักรยานยนต์ เดือนตุลาคม 2567 ผลิตรถจักรยานยนต์ได้ทั้งสิ้น 294,395 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนตุลาคม 2566 ร้อยละ 70.52 แยกเป็นรถจักรยานยนต์สำเร็จรูป (CBU) 149,010 คัน เพิ่มขึ้นจากปี 2566 ร้อยละ 6.35 และชิ้นส่วนประกอบรถจักรยานยนต์ (CKD) 145,385 คัน เพิ่มขึ้นจากปี 2566 ร้อยละ 346.93 ยอดการผลิตรถจักรยานยนต์เดือนมกราคม – ตุลาคม 2567 มีจำนวนทั้งสิ้น 2,030,213 คัน ลดลงจากปี 2566 ร้อยละ 1.49 โดยแยกเป็นรถจักรยานยนต์สำเร็จรูป (CBU) 1,585,364 คัน ลดลงจากปี 2566 ร้อยละ 10.84 แต่ชิ้นส่วนประกอบรถจักรยานยนต์ (CKD) 444,849 คัน เพิ่มขึ้นจากปี 2566 ร้อยละ 57.34

ยอดขายรถยนต์ภายในประเทศของเดือนตุลาคม 2567 มีจำนวนทั้งสิ้น 37,691 คัน ลดลงจากเดือนกันยายน 2567 ร้อยละ 36.08 ต่ำสุดในรอบ 54 เดือนนับตั้งแต่ยกเลิกล๊อคดาวน์จากการระบาดโรคหวัด 19 เดือนพฤษภาคม 2563 จากการเข้มงวดในการให้กู้ซื้อรถยนต์ของสถาบันการเงินเป็นหลัก ส่งผลให้จำนวนบัญชีผู้กู้ซื้อรถยนต์ในไตรมาสสามมี 6,365,571 บัญชีลดลงจากไตรมาสสอง 75,377 บัญชีเท่ากับร้อยละ 1.2 และลดลงจากไตรมาสสามปี 2566 จำนวน 199,655 บัญชีหรือร้อยละ 3.0 จำนวนเงินหนี้รถยนต์ไตรมาสสาม 2,465,204 ล้านบาท ลดลงจากไตรมาสสองร้อยละ 2.8 และลดลงร้อยละ 5.8 จากไตรมาสสามปี 2566 รถบรรทุกลดลงจากเศรษฐกิจของประเทศที่ยังอ่อนแอเติบโตในอัตราต่ำและหนี้ครัวเรือนสูง ดัชนีภาคอุตสาหกรรมขยายตัวต่ำที่ร้อยละ 0.1 ในไตรมาสสาม
รถยนต์นั่งและรถยนต์นั่งตรวจการณ์ มีจำนวน 21,814 คัน เท่ากับร้อยละ 57.67 ของยอดขายทั้งหมด ลดลงจากเดือนเดียวกันในปีที่แล้วร้อยละ 33.21
• รถยนต์นั่งและรถยนต์นั่งตรวจการณ์สันดาปภายใน (ICE) 11,562 คัน เท่ากับร้อยละ 30.68 ของยอดขายทั้งหมด ลดลงจากเดือนเดียวกันปีที่แล้วที่ร้อยละ 27.80

• รถยนต์นั่งและรถยนต์นั่งตรวจการณ์ไฟฟ้า (BEV) 3,717 คัน เท่ากับร้อยละ 9.86 ของยอดขายทั้งหมด ลดลงจากเดือนเดียวกันปีที่แล้วที่ร้อยละ 49.73
• รถยนต์นั่งและรถยนต์นั่งตรวจการณ์ไฟฟ้าผสมแบบเสียบปลั๊ก (PHEV) 227 คัน เท่ากับร้อยละ 0.60 ของยอดขายทั้งหมด เพิ่มขึ้นจากเดือนเดียวกันปีที่แล้วร้อยละ 187.34
• รถยนต์นั่งและรถยนต์นั่งตรวจการณ์ไฟฟ้าผสม (HEV) 6,308 คัน เท่ากับร้อยละ 16.74 ของยอดขายทั้งหมด ลดลงจากเดือนเดียวกันปีที่แล้วร้อยละ 31.23
รถกระบะมีจำนวน 10,896 คัน ลดลงจากเดือนเดียวกันในปีที่แล้วร้อยละ 41.65 รถ PPV มีจำนวน 2,451 คัน ลดลงจากเดือนเดียวกันในปีที่แล้วร้อยละ 43.33 รถบรรทุก 5 – 10 ตัน มีจำนวน 1,270 คัน ลดลงจากเดือนเดียวกันในปีที่แล้วร้อยละ 33.02 และรถประเภทอื่นๆ มีจำนวน 1,260 คัน ลดลงจากเดือนเดียวกันในปีที่แล้ว 10.57
ส่วนรถจักรยานยนต์ มียอดขาย 140,113 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนกันยายน 2566 ร้อยละ 18.86 และเพิ่มขึ้นจากเดือนตุลาคม 2566 ร้อยละ 3.80

ตั้งแต่เดือนมกราคม – ตุลาคม 2567 รถยนต์มียอดขาย 476,350 คัน ลดลงจากปี 2566 ในระยะเวลาเดียวกันร้อยละ 26.24 แยกเป็น รถยนต์นั่งและรถยนต์นั่งตรวจการณ์ มีจำนวน 284,304 คันเท่ากับร้อยละ 59.84 ของยอดขายทั้งหมด ลดลงจากเดือนเดียวกันในปีที่แล้วร้อยละ 12.22
• รถยนต์นั่งและรถยนต์นั่งตรวจการณ์สันดาปภายใน (ICE) 129,440 คัน เท่ากับร้อยละ 27.17 ของยอดขายทั้งหมด ลดลงจากเดือนเดียวกันปีที่แล้วที่ร้อยละ 36.65
• รถยนต์นั่งแหละรถยนต์นั่งตรวจการณ์ไฟฟ้า (BEV) 55,936 คัน เท่ากับร้อยละ 11.74 ของยอดขายทั้งหมด ลดลงจากเดือนเดียวกันปีที่แล้วที่ร้อยละ 0.33
• รถยนต์นั่งและรถยนต์นั่งตรวจการณ์ไฟฟ้าผสมแบบเสียบปลั๊ก (PHEV) 1,880 คัน เท่ากับร้อยละ 0.39 ของยอดขายทั้งหมด ลดลงจากเดือนเดียวกันปีที่แล้วร้อยละ 8.17
• รถยนต์นั่งและรถยนต์นั่งตรวจการณ์ไฟฟ้าผสม (HEV) 97,048 คัน เท่ากับร้อยละ 20.37 ของยอดขายรถยนต์นั่งและรถยนต์นั่งตรวจการณ์ เพิ่มขึ้นจากเดือนเดียวกันปีที่แล้วร้อยละ 39.56 รถกระบะมีจำนวน 137,456 คัน ลดลงจากเดือนเดียวกันในปีที่แล้วร้อยละ 39.54 รถ PPV มีจำนวน 29,395 คัน ลดลงจากเดือนเดียวกันในปีที่แล้วร้อยละ 42.98 รถบรรทุก 5 – 10 ตัน มีจำนวน 13,582 คัน ลดลงจากเดือนเดียวกันในปีที่แล้วร้อยละ 38.83 และรถประเภทอื่นๆ มีจำนวน 11,613 คัน ลดลงจากเดือนช่วงกันในปีที่แล้ว 10.87

ส่วนรถจักรยานยนต์ มียอดขาย 1,421,824 คัน ลดลงจากเดือนมกราคม – ตุลาคม 2566 ร้อยละ 10.09 แบ่งเป็นรถจักรยานยนต์ ICE จำนวน 1,421,624 คัน ลดลงจากช่วงเวลาเดียวกันร้อยละ 10.04 รถจักรยานยนต์ BEV จำนวน 200 คัน ลดลงจากช่วงเวลาเดียวกันร้อยละ 9.09

การส่งออก รถยนต์สำเร็จรูป เดือนตุลาคม 2567 ส่งออกได้ 84,334 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนที่แล้วร้อยละ 5.08 แต่ลดลงจากเดือนตุลาคม 2566 ร้อยละ 20.23 ส่งออกลดลงเพราะฐานสูงในเดือนเดียวกันของปี 2566 ที่ส่งออกถึง 105,726 คัน ส่งผลให้ส่งออกลดลงทุกตลาด ที่ต้องจับตาเป็นพิเศษคือตลาดออสเตรเลีย ตะวันออกกลางและยุโรปที่สงครามอิสราเอลกับฮามาสขยายมากขึ้น อาจจะส่งผลกระทบการส่งออกไปยังตลาดดังกล่าวน้อยลง อีกความขัดแย้งที่ต้องติดตามแบบไม่กระพริบตาที่จะกระทบเศรษฐกิจโลกคือสงครามยูเครนกับรัสเซียที่อาจขยายไปประเทศอื่นซึ่งกระทบการส่งออกรถยนต์และสินค้าอื่นๆ แบ่งเป็น
• รถกระบะ 45,922 คัน มีสัดส่วนร้อยละ 54.45 ของการส่งออกทั้งหมด ลดลงจากปี 2566 ร้อยละ 26.67
• รถยนต์นั่ง ICE 21,831 คัน มีสัดส่วนร้อยละ 25.89 ของการส่งออกทั้งหมด ลดลงจากปี 2

ติดตามช่องทางมิติหุ้นเพื่อรับข่าวสารตลาดทุนได้ตามลิงค์ด้านล่าง

Web : https://www.mitihoon.com/
Facebook : https://www.facebook.com/mitihoon
Youtube : https://www.youtube.com/@mitihoonofficial7770
Tiktok : www.tiktok.com/@mitihoon