TERRABKK สยายปีกธุรกิจ จับมือพาร์ตเนอร์ระดับโลก ต่อยอดธุรกิจ-เพิ่มศักยภาพการลงทุนธุรกิจอสังหาฯในไทย เผยอินไซต์และทิศทางอสังหาฯปี 68 คอนโดฯ ยืนหนึ่ง ชี้เทรนด์ Mixed-Use มาแรง

15

มิติหุ้น  –  นางสาว สุมิตรา วงภักดี กรรมการผู้จัดการ บริษัท เทอร์ร่า มีเดีย แอนด์ คอนซัลติ้ง จำกัด กล่าวถึง ทิศทางของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ในปี 2568 ว่า ภาพรวมตลาดคอนโดฯ หลังวิกฤติโควิด -19 นับตั้งแต่ช่วงปี 2564 จนถึงปัจจุบัน เริ่มฟื้นตัวและมีทิศทางที่ดีขึ้น โดยเฉพาะในกลุ่ม Mass Segment ที่มียอดขาย (Absorption Rate) เติบโตขึ้นต่อเนื่อง โดยเฉพาะโครงการคอนโดฯแนว Mixed-Use ที่มีสิ่งอำนวยความสะดวกที่ตอบโจทย์มากกว่าการอยู่อาศัย แต่ตอบโจทย์การใช้ชีวิตแบบรอบด้าน ขณะที่ทาวน์โฮมในเซกมนต์ Economy ซึ่งครองส่วนแบ่งตลาดมากที่สุด เผชิญกับภาวะชะลอตัว ทั้งในด้านปริมาณการเปิดตัวโครงการใหม่และ

อัตราการขายที่ลดลงอย่างต่อเนื่อง สวนทางกับตลาด Mass และ Premium ที่มีแนวโน้มการเติบโตอย่างเห็นได้ชัด ส่วนตลาดบ้านเดี่ยวระดับ Economy อยู่ในช่วงชะลอจากสภาวะเศรษฐกิจ ทั้งจํานวนโครงการใหม่และอัตราการขายที่ลดลง สอดคล้องกับทิศทางตลาดบ้านเดี่ยว Premium และ Luxury ยอดขายเริ่มคงที่ แต่ปริมาณ Supply ยังคงขยายตัว มีการเปิดตัวโครงการใหม่อย่างต่อเนื่อง ขณะที่ตลาดที่อยู่อาศัยระดับ Luxury ยังคงเติบโตต่อเนื่อง โดยในช่วง 11 เดือนของปี 2567 มีการเปิดตัวโครงการใหม่ 34 โครงการ 998 ยูนิต มีถึง 4 โครงการที่มีขนาดมากกว่า 100 ล้านบาท จํานวน 27 ยูนิต ส่วนยอดขาย เฉลี่ยอยู่ที่ 1ยูนิต/เดือน/โครงการ สำหรับทําเลบ้านหรูที่เป็นที่นิยม มียอดขาย สูงสุด ได้แก่ บางแค-ศาลายา-ราชพฤกษ์,เกษตรนวมินทร์-รามอินทรา และ สมุทรปราการ-บางนา-ลาดกระบัง

            ส่วนทำเลคอนโดฯที่มีอัตราการขาย ในช่วง 9 เดือนของปี 2567 ที่น่าจับตามอง ส่วนใหญ่จะเป็นโซนกรุงเทพฯ รอบนอกโซนฝั่งตะวันออกและโซนเหนือ เนื่องจากมีรถไฟฟ้า BTSและMRT เข้าถึง ใกล้มหาวิทยาลัยและแหล่งงานนิคมอุตสาหกรรม ขณะที่ทําเลทาวน์โฮมที่น่าจับตามอง กระจายอยู่บริเวณกรุงเทพฯ รอบนอก โซนที่มีอัตราการขายสูงที่สุดได้แก่ รามอินทรา-มีนบุรี รองลงมาคือบางแค-เพชรเกษม, บางนา-บางบ่อ, พุทธมณฑล-ศาลายาและ รังสิต-ปทุมธานี ส่วนทําเลบ้านเดี่ยวและบ้านแฝดที่เป็นนิยม อยู่ในโซนกรุงเทพฯฝั่งตะวันตกเป็นส่วนใหญ่ โซนที่มีอัตราการขายสูงสุด ได้แก่ บางใหญ่-บางบัวทอง, สุขสวัสดิ์-ประชาอุทิศ และ เพชรเกษม-บางบอน รองลงมาคือโซนรามอินทรา-วงแหวน-จตุรโชติ และโซนสมุทรปราการ-บางนา

            จากภาพรวมของตลาดอสังหาฯ ที่ยังไม่ได้กลับมาฟื้นตัวเต็มที่นี้เอง ยังสะท้อนผ่านสัดส่วนรายได้และอัตรากำไรของบริษัทอสังหาริมทรัพย์ 35 แห่งที่อยู่ในตลาดหลักทรัพย์ โดยจะพบว่า สัดส่วนรายได้รวมจนถึงไตรมาส 3 ของปี 2567 อยู่ที่ 222,879 ล้านบาท ลดลงจากปีที่แล้ว ซึ่งอยู่ที่ 331,144 ล้านบาท กำไรสุทธิต่อรายได้อยู่ที่ 20,794 ล้านบาท คิดเป็น 9.3% ลดลงจากปีที่แล้ว ซึ่งอยู่ที่ 38,516 ล้านบาท คิดเป็น 11.6%  ส่วนภาพรวมตลาดต่างอสังหาฯ ในต่างจังหวัด ภูเก็ตยังคงครองแชมป์จังหวัดที่มีการเติบโตสูงสุด

            นางสาวสุมิตรา ยังกล่าวด้วยว่า เทรนด์การพัฒนาโครงการอสังหาฯที่จะมาแรงจากนี้ คือ การพัฒนาโครงการแบบ Mixed-Use ทั้งในแนวราบและแนวดิ่ง โดย 3 องค์ประกอบหลักของการเป็น Mixed-Use คือต้องตอบโจทย์ทั้งการอยู่อาศัย การทำงานและความบันเทิง เพื่อให้ผู้อยู่อาศัยสามารถใช้ชีวิตได้จริง และ ยังสามารถสร้าง Recuring Income ให้ดีเวลลอปเปอร์ และเพิ่มมูลค่าให้โครงการในอนาคต

            นอกจากจะเผยอินไซต์และภาพรวมของตลาดอสังหาฯ ที่สนใจ นางสาวสุมิตรา ยังเผยถึงอีกก้าวสำคัญของ TERRABKK ในการต่อยอดธุรกิจจากประสบการณ์และความเชี่ยวชาญ ด้วยการเปิดตัวบริการใหม่ นั่นคือ Investment, Partnership, and Agency Services บริการให้คำปรึกษาด้านการลงทุนและการสร้างความร่วมมือในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ และให้บริการตัวแทนดูแลและบริหารพื้นที่เช่าอาคารสำนักงาน พื้นที่ค้าปลีก และคอมมูนิตี้มอลล์ หลังจากปีที่ผ่านมาได้มีโอกาสจับมือกับนักลงทุนชาวญี่ปุ่น และในปีนี้ เตรียมเดินหน้าจับมือกับพาร์ตเนอร์จากสิงคโปร์

            “สิ่งที่นักลงทุนต่างชาติมองหา คือ ต้องการผู้ประกอบการที่มีประสบการณ์ในวงการอสังหาฯ ที่สำคัญ คือ มีทั้งที่ดินและแผนพัฒนาในมือ โดยเปิดกว้างการร่วมมือในลักษณะ การร่วมทุน (Joint Venture) เน้นที่กรุงเทพฯ และภูเก็ต จากประสบการณ์ที่ผ่านมา นักลงทุนชาวญี่ปุ่นจะคุ้นเคยกับทำเลรถไฟฟ้า สุขุมวิทขยายไปถึงบางนา ขณะที่ถ้าเป็นนักลงทุนจากฝั่งสิงคโปร์ จะสนใจธุรกิจโรงแรมและอสังหาฯเพื่อการพาณิชย์ ซึ่งด้วยจุดแข็งของ TerraBKK คือ เป็นบริษัทคนไทยที่สามารถเข้าถึงดีเวลลอปเปอร์ในระดับกลางและเล็ก พร้อมให้อินไซต์ที่มีความเป็น Localized จึงพร้อมเป็นตัวกลางในการสนับสนุนความร่วมมือระหว่างนักลงทุนกับผู้ประกอบการไทยได้เป็นอย่างดี”

            ทั้งนี้ นับตั้งแต่ TERRABKK ก่อตั้งในปี 2556 เริ่มต้นจากการมองเห็นช่องว่างในตลาด และต้องการสนับสนุนให้ทุกคนมีบ้านเมื่อพร้อม และ มีบ้านเป็นสินทรัพย์ที่สร้างมูลค่าเพิ่มในอนาคต จึงได้มีการขยายบริการต่างๆ  โดยเริ่มจากการเป็น TERRABKK เว็บไซต์ที่เป็นพื้นที่ประกาศขายบ้านและคอนโดมือสองทั่วประเทศไทย ต่อมาได้ขยายไปสู่การเปิดตัวเฟซบุ๊คแฟนเพจ เพื่อนำเสนอข่าวสารต่างๆ ในวงการอสังหา โดยฉีกกรอบจากผู้ให้บริการรายอื่นที่เน้นการรีวิวโครงการ ด้วยการเจาะลึกเรื่องทำเล เพราะหนึ่งในหัวใจสำคัญของอสังหาฯ จากจุดแข็งดังกล่าว TERRABKK จึงต่อยอดมาสู่ Terra Consulting & Research บริการให้คำปรึกษาในการวางแผนพัฒนาโครงการ การสร้างแบรนด์ และวางกลยุทธ์ให้กับธุรกิจอสังหาฯ จากผู้เชี่ยวชาญในแต่ละแขนงและทีมงาน ที่มีประสบการณ์มากกว่า 20 ปี มาสู่ Terra Byte – Application วิเคราะห์ข้อมูลอสังหาฯทั่วกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ในรูปแบบ Interactive Chart สำหรับผู้บริหารโครงการอสังหาริมทรัพย์ และ TerraHint งานสัมมนาที่หยิบยกประเด็นน่าสนใจทั้งด้านอสังหาฯและเศรษฐกิจเพื่อกระตุกความคิดแบบ Forward Thinker

            “เป้าหมายในอนาคต สำหรับ TERRABKK คือ การต่อยอดจุดแข็งของบริษัทไทยที่มีบริการที่ใกล้เคียงกับบริษัทต่างชาติ ในอนาคตจะมีการขยายเซอร์วิชต่างๆเพื่อ สร้างอีโคซิสเต็มที่สมบูรณ์” นางสาวสุมิตรา กล่าวทิ้งท้าย

            อย่างไรก็ตาม TERRABKK ยังได้ตอกย้ำภาพลักษณ์การเป็นสื่อและที่ปรึกษาธุรกิจอสังหาฯชั้นนำของไทย ด้วยการจัดงาน TERRAHINT Brand Series 2024 งานสัมมนาใหญ่ที่เว็บไซต์ TerraBKK.com จัดขึ้นเป็นประจำทุกปี ต่อเนื่องเป็นปีที่ 7 โดยในปีนี้ จัดขึ้นที่ LIDO CONNECT สยามสแควร์ ภายใต้คอนเซ็ปต์ “Luxury is a necessity in the sustainability era. #ชีวิตติดแกลม เจาะกลยุทธ์การพัฒนาแบรนด์สู่ความลักชูรี่ตอบโจทย์ยุคแห่งความยั่งยืน” เพื่อเปิดมุมมองใหม่ด้านการสร้างแบรนด์ของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ให้ขึ้นสู่ความลักซ์ชัวรี และตอบโจทย์ยุคแห่งความยั่งยืน พร้อมประกาศรางวัล The Most Powerful Brand in Real Estate 2024 รางวัลแบรนด์อสังหาฯ ทรงพลังสูงสุดประจำปี 2024 รวมทั้งสิ้น 7 รางวัลให้แก่แบรนด์อสังหาฯที่มีความโดดเด่นประจำปีนี้ ได้แก่

  • รางวัล Zenith of Luxury Award – สำหรับแบรนด์ที่เป็นมาตรฐานแห่งความหรูหราและความไว้วางใจ ผู้ที่ได้รับรางวัล : บริษัท แสนสิริ จํากัด (มหาชน)
  • รางวัลGolden Value Award – สำหรับแบรนด์ที่ตอบโจทย์ทั้งคุณภาพและความคุ้มค่าในราคาที่เข้าถึงได้ ผู้ที่ได้รับรางวัล : บริษัท ศุภาลัย จํากัด (มหาชน)
  • รางวัลHappiness Hero Award – สำหรับแบรนด์ที่สร้างความสุขให้แก่ลูกค้าด้วยบริการหลังการขายอันยอดเยี่ยม ผู้ที่ได้รับรางวัล : บริษัท เอสซี แอสเสท คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน)
  • รางวัลQuality Master Award – รางวัลการันตีคุณภาพมาตรฐานสูงสุด ผู้ที่ได้รับรางวัล : บริษัท แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ จํากัด (มหาชน)
  • รางวัลMarvel Award – รางวัลแก่บริษัทผู้ท้าชิงที่มีภาพลักษณ์โดดเด่นเทียบเท่าแบรนด์เจ้าตลาด ผู้ที่ได้รับรางวัล : บริษัท ซี.พี.แลนด์ จำกัด (มหาชน)
  • รางวัลRising Star Award – สำหรับแบรนด์ดาวรุ่งที่มีคะแนนและภาพลักษณ์โดดเด่นอย่างก้าวกระโดด ในกลุ่มแบรนด์เจ้าตลาด ผู้ที่ได้รับรางวัล : บริษัท เอพี (ไทยแลนด์) จำกัด (มหาชน)
  • รางวัลThe Most Powerful Brand in Real Estate 2024 – รางวัลแบรนด์อสังหาฯทรงพลังสูงสุดประจำปี 2024 จากคะแนนทั้ง 7 ด้าน ผู้ที่ได้รับรางวัล : บริษัท แสนสิริ จํากัด (มหาชน)

ติดตามช่องทางมิติหุ้นเพื่อรับข่าวสารตลาดทุนได้ตามลิงค์ด้านล่าง

Web : https://www.mitihoon.com/
Facebook : https://www.facebook.com/mitihoon
Youtube : https://www.youtube.com/@mitihoonofficial7770
Tiktok : www.tiktok.com/@mitihoon