“เซอร์คูล่า เอ็นเนอร์ยี (CE)” ลุยรับซื้อน้ำมันพืชใช้แล้ว ขับเคลื่อนธุรกิจส่งออกน้ำมันไบโอดีเซลจากของเสีย ตอบรับเทรนด์พลังงานสีเขียว

8

มิติหุ้น  –  “เซอร์คูล่า เอ็นเนอร์ยี (CE)” บริษัทลูก “บมจ.ละแมน้ำมันปาล์ม (LM)” เดินหน้าธุรกิจผลิตน้ำมันไบโอดีเซลจากของเสียและน้ำมันพืชใช้แล้ว ป้อนเรือขนส่งสินค้าทั่วโลก เผยความแข็งแกร่งในช่วงกว่า 2 ปีที่ผ่านมา (2565 – ปัจจุบัน) CE ส่งออกน้ำมันไบโอดีเซลไปแล้วกว่า 20 ชิปเม้นท์ หนุนรายได้เติบโตก้าวกระโดดปัจจุบันเดินหน้าเปิดรับซื้อน้ำมันพืชใช้แล้วจากผู้ประกอบการ และประชาชน เสริมแกร่งธุรกิจในอนาคต และเป็นอีกหนึ่งฟันเฟืองที่ขับเคลื่อนสู่ยุคพลังงานสะอาดอย่างสมบูรณ์ (Carbon Net Zero)

นายจิรัฏฐ์ ไตรตระกูลชัย กรรมการผู้จัดการ บริษัท เซอร์คูล่า เอ็นเนอร์ยี จำกัด (CE) ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของ บริษัท ละแมน้ำมันปาล์ม จำกัด (มหาชน) (LM) ผู้ประกอบธุรกิจจำหน่ายน้ำมันปาล์มดิบ (CPO) และผลิตภัณฑ์ผลพลอยได้สำหรับอุตสาหกรรมการผลิตน้ำมันเพื่อการบริโภคและอุตสาหกรรมการผลิตน้ำมันไบโอดีเซล (Biodiesel) เปิดเผยถึง ภาพรวมธุรกิจไบโอดีเซลมีแนวโน้มการเติบโตที่ดี เนื่องจากความต้องการพลังงานทดแทนจากปาล์มน้ำมันสู่เชื้อเพลิงชีวภาพในตลาดโลกมีดีมานด์ที่เพิ่มขึ้น สอดรับกับหลายประเทศทั่วโลกต่างประกาศเป้าหมายมุ่งสู่ความเป็นกลางทางคาร์บอน (Carbon Neutrality) และการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (Net Zero Emissions) เพื่อเป็นส่วนหนึ่งในการหยุดยั้งภัยอันตรายของมวลมนุษยชาติ

ทั้งนี้ บริษัท เซอร์คูล่า เอ็นเนอร์ยี จำกัด (CE) ก่อตั้งขึ้นในปี 2563 เนื่องจากเล็งเห็นดีมานด์ในตลาดโลก จึงเดินหน้าเข้ามารุกธุรกิจผลิตและจำหน่ายน้ำมันไบโอดีเซลจากน้ำมันปาล์มดิบ (CPO) และน้ำมันพืชใช้แล้ว (UCOME) และผลิตภัณฑ์ผลพลอยได้ทุกชนิดที่เกิดจากกระบวนการผลิต รวมถึงซื้อมาขายไปน้ำมันไบโอดีเซล ทั้งนี้ บริษัทจะมุ่งเน้นการผลิตไบโอดีเซลจากของเสียและน้ำมันพืชใช้แล้วเป็นหลัก ต่อยอดจุดแข็งจากบริษัทแม่ LM มีความเชี่ยวชาญในธุรกิจซื้อขายน้ำมันปาล์มดิบ(Trading) มากว่า 13 ปี ปัจจุบันโรงงานของ CE ตั้งอยู่ที่อำเภอคลองหลวง จังหวัดปทุมธานี ได้รับการรับรองด้านคาร์บอน และการพัฒนาอย่างยั่งยืนระหว่างประเทศ International Sustainability and Carbon Certification หรือ ISCC) จาก Trans Certification International Sdn. Bhd. ซึ่งเป็นระบบการรับรองระหว่างประเทศที่ครอบคลุมวัตถุดิบตั้งต้นและพลังงานทดแทนจากชีวภาพทุกประเภทสำหรับภาคพลังงาน อาหาร อาหารสัตว์ และเคมี รวมทั้ง ผ่านการรับรองมาตรฐานสากลต่างๆ อีกทั้ง เดินหน้าเปิดรับซื้อน้ำมันพืชใช้แล้วจากผู้ประกอบการ และประชาชน เพื่อเสริมแกร่งธุรกิจในอนาคต

ในช่วงระหว่างปี 2564 – 2565 บริษัทย่อยได้มีการผลิตและจำหน่ายน้ำมันไบโอดีเซลที่ผลิตจากน้ำมันปาล์มดิบเกรด A (CPO A)และน้ำมันไบโอดีเซลที่ผลิตจากน้ำมันพืชใช้แล้วที่บริษัทย่อยเริ่มผลิตตั้งแต่เดือนมิถุนายน 2565 ในช่วงกว่า 2 ปีที่ผ่านมา บริษัทฯ ส่งออกน้ำมันไบโอดีเซลไปแล้วกว่า 20 ชิปเม้นต์ ได้รับความเชื่อมั่นจากลูกค้าซึ่งจะเป็นกลุ่มที่ตระหนักถึงภาวะสิ่งแวดล้อม มุ่งเน้นพลังงานสีเขียวเป็นหลัก ประกอบด้วย ประเทศสิงคโปร์ อิตาลี สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ เบลเยี่ยม มาเลเซีย และเนเธอร์แลนด์ เป็นต้น โดยลูกค้าอยู่ในกลุ่มธุรกิจพลังงานและสาธารณูปโภคซึ่งจะเป็นกลุ่มลูกค้าที่จะนำน้ำมันไบโอดีเซลจากบริษัทไปผสม รวมทั้ง กลุ่มธุรกิจตัวกลาง (Trader) ซึ่งจะเป็นกลุ่มลูกค้าที่เป็นผู้จัดหาและรวบรวมน้ำมันไบโอดีเซล เพื่อส่งต่อไปยังธุรกิจตัวกลาง (Trader) หรือบริษัทที่นำไบโอดีเซลไปใช้งาน (End user) สนับสนุนให้ CE มีผลการดำเนินงานเติบโตอย่างก้าวกระโดด อีกทั้ง ในอนาคตกลุ่มลูกค้าของบริษัทย่อยจะเป็นกลุ่มลูกค้าที่ตระหนักถึงภาวะสิ่งแวดล้อม มุ่งเน้นพลังงานสีเขียวเป็นหลัก ตอบสนองต่อความต้องการของลูกค้า วิสัยทัศน์ (Vision) พลังงานสะอาดเป็นที่ยอมรับในระดับสากล และยกระดับทำให้สังคมน่าอยู่มากขึ้น

ติดตามช่องทางมิติหุ้นเพื่อรับข่าวสารตลาดทุนได้ตามลิงค์ด้านล่าง

Web : https://www.mitihoon.com/
Facebook : https://www.facebook.com/mitihoon
Youtube : https://www.youtube.com/@mitihoonofficial7770
Tiktok : www.tiktok.com/@mitihoon