CGSI : Trend Spotter

39

มิติหุ้น – Trend Spotter
เราคาดว่า SET Index จะแกว่งในกรอบ 1,440-1,460 จุด หลังตอบรับปัจจัยบวกสนับสนุนในประเทศทั้งการเยือนประเทศไทยของ Jensen Huang, ความคืบหน้าการแจกเงินดิจิทัลเฟสสอง และ แผนการปฎิรูปภาษีของไทยซึ่งตลาดมองว่าจะช่วยสนับสนุนเม็ดเงินให้ไหลเข้าตลาดทุนมากขึ้น

สำหรับตัวเลขเศรษฐกิจไทยล่าสุด เมื่อวันพุธที่ผ่านมา กระทรวงพาณิชย์ รายงานอัตราเงินเฟ้อทั่วไปเดือน พ.ย. 2024 เพิ่มขึ้น 1% yoy ขณะที่เงินเฟ้อพื้นฐานเพิ่มขึ้น 0.8% yoy โดย ตัวเลขเงินเฟ้อ 11 เดือน ของปี 2024 ขยายตัว 0.3% YTD และ เราคงการคาดการณ์การเติบโตของเงินเฟ้อปี 2024 ไว้ที่ 0.5% yoy, คาดการณ์การเติบโตของเงินเฟ้อปี 2025 ไว้ที่ 1.5% yoy และ มองตัวเลขเงินเฟ้อไทยที่ออกมาเป็นกลางต่อบรรยากาศการลงทุน
มองไปข้างหน้า สำหรับตัวเลขเงินเฟ้อเดือน ธ.ค. 2024 เราคาดว่าจะได้รับผลกระทบจากฐานต่ำจากดัชนีราคาผู้บริโภคเดือนธันวาคม 2023 และ ปี 2025 การขึ้นค่าจ้างขั้นต่ำจะช่วยสนับสนุนให้เงินเฟ้อของเราอยู่ที่ 1.5% yoy หรือ ตรงกับเป้าหมายค่ากลางเงินเฟ้อของธนาคารแห่งประเทศไทยที่ 1-3% yoy

สำหรับดอกเบี้ยนโยบาย เราคาดว่าธนาคารแห่งประเทศไทยจะคงอัตราดอกเบี้ยที่ 2.25% ในสองสัปดาห์หน้าหรือการประชุมรอบสุดท้ายของปี 2024 และ ลดดอกเบี้ย 25bp หรือ ลดดอกเบี้ย 1 ครั้ง มาที่ 2.00% ในปี 2025

ปัจจัยกดดันกลับมาเป็นปัจจัยต่างประเทศอีกครั้ง จาก สถานการณ์ในเกาหลี โดย พรรคฝ่ายค้านเกาหลีใต้ยื่นญัตติไต่สวนถอดถอดประธานาธิบดี หลังประกาศกฎอัยการศึก กระทบ จิตวิทยาการลงทุนในตลาดหุ้นภูมิภาค อย่างไรก็ดี หากดูสัดส่วนการค้าและการท่องเที่ยวของประเทศไทยและเกาหลีใต้นั้นยังไม่ได้สูงมากนัก ผลกระทบต่อการท่องเที่ยวไทยใน 4Q24 จึงจำกัดและเรายังคงประมาณการณ์ตัวเลขนักท่องเที่ยวปีนี้ที่ 35 ล้านคน และ ปี 2025 ที่ 38 ล้านคน

สำหรับสินทรัพย์สำคัญอื่นๆ ได้แก่ ราคาน้ำมันดิบ หลัง OPEC+ เลื่อนการเริ่มต้นเพิ่มการผลิตน้ำมันใหม่ออกไปเป็นเวลา 3 เดือน โดยแทนที่จะเพิ่มการผลิต 180,000 bpdเป็นเดือนเม.ย.เนื่องจากตลาดน้ำมันกำลังเผชิญกับอุปทานส่วนเกิน และ ราคา Bitcoin ทะลุ 100,000 US$

ติดตามเงินรายงานตัวเลขการจ้างงานสหรัฐฯ หรือ การจ้างงานนอกภาคเกษตรกร (Non-farm payrolls) (NFP) (คืนวันศุกร์) โดย ตลาดคาด +218k ตำแหน่ง / ค่าแรงต่อชม.ที่ 0.3% mom และ อัตราการว่างงานของสหรัฐฯที่ 4.1%

หุ้นแนะนำ
STECON :
STECON คาดจะสามารถคว้างานก่อสร้างมูลค่า 4 หมื่นล้านบาทใน 4Q24 ซึ่งจะส่งผลให้ยอด backlog ของบริษัทเพิ่มขึ้นเป็น 1 แสนล้านบาทในสิ้นปี 2024
ผู้บริหารได้เน้นย้ำถึงเป้าหมายใหม่ของ STECON ในปี FY30 โดยบริษัทตั้งเป้าทำรายได้รวม 4.5 หมื่นล้านบาทในปี FY30 หรือเพิ่มขึ้นจากประมาณ 3 หมื่นล้านบาทในปี FY24 ซึ่งจะเท่ากับอัตราการเติบโตเฉลี่ย 7% CAGR
(Take profit : 8.55 / Stop loss : 8.20)

SCB :
เราปรับประมาณการ EPS ในปี FY24-26 ขึ้น 1.8-10.8% เนื่องจากอัตราส่วนค่าใช้จ่ายต่อรายได้ลดลง และเราคาดว่าส่วนต่างอัตราดอกเบี้ย (NIM) ของ SCB จะเพิ่มขึ้น 5-21bp เป็น 3.98-4.03% เราปรับสมมติฐานอัตราการสำรองหนี้สูญลงมาอยู่ที่ 178- 188bp ในปี FY24-26
หากอิงตามประมาณการใหม่ ธนาคารจะมี ROE เพิ่มขึ้นจาก 8.9% ในปี FY24 เป็น 9.4-9.9% ในปี FY25-26 ขณะที่เรายังคาดว่า SCB จะมีอัตราการจ่ายเงินปันผล สูงที่ 80% ในปี FY24-26
(Take profit : 119.00 / Stop loss : 116.00)

#MacroWealthResearch
#CGSInternational

ติดตามช่องทางมิติหุ้นเพื่อรับข่าวสารตลาดทุนได้ตามลิงค์ด้านล่าง

Web : https://www.mitihoon.com/
Facebook : https://www.facebook.com/mitihoon
Youtube : https://www.youtube.com/@mitihoonofficial7770
Tiktok : www.tiktok.com/@mitihoon