มิติหุ้น – ตลาดหุ้น Dow Jones เมื่อคืนปิดลบ 154 จุด (-0.35%) รับแรงกดดันจากหุ้น Technology โดยนักลงทุนอยู่ระหว่างรอดูเงินเฟ้อสหรัฐฯ ด้านราคาน้ำมันดิบ BRT ปิดบวก 0.07% ค่อนข้างทรงตัวแต่ได้แรงหนุนจากความหวังที่ว่าอุปสงค์น้ำมันในจีนจะปรับตัวสูงขึ้น
เมื่อคืนที่ผ่านมาจีนได้รายงานการส่งออกประจำเดือน พ.ย. พบว่าขยายตัว 6.7%YoY แย่กว่านักวิเคราะห์ประเมินไว้ที่ 8.7%YoY และยังคงเกินดุลการค้าราว 692 ล้านหยวน สะท้อนว่าส่วนมากแล้วประเทศจีนยังคงส่งออกมากกว่านำเข้าเป็นปัจจัยที่สหรัฐฯกำลังจับตาดูอยู่ ส่วนสหรัฐฯมิได้มีตัวเลขเศรษฐกิจที่สำคัญ โดยคืนนี้จะมีตัวเลขที่สำคัญ อาทิ เงินเฟ้อ (CPI) Bloomberg Consensus คาดการณ์ไว้ที่ 2.7%YoY , 0.3%MoM ส่วนเงินเฟ้อพื้นฐาน (Core CPI) คาดการณ์ที่ 3.3%YoY , 0.3%MoM ซึ่งยังคงเร่งตัวขึ้นจากเดือนก่อนโดยเฉพาะเงินเฟ้อทั่วไปเพราะเดือนก่อนหน้าอยู่ที่ 2.6%YoY จากนี้แนะรอติดตามนโยบายของ Trump หากตัดสินใจขึ้นภาษีนำเข้าจากประเทศอื่นๆจะยิ่งสร้างแรงกดดันต่อเงินเฟ้อรวมไปถึงมีผลต่อการดำเนินนโยบายดอกเบี้ยของ FED สำหรับการเคลื่อนไหวของสินทรัพย์ต่างๆพบว่าอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯจากที่เคยปรับลงเริ่มกลับมาฟื้นตัว พร้อมกับการแข็งค่าของ Dollar Index สะท้อนถึงมุมมองที่เข้มงวดมากขึ้นเกี่ยวกับนโยบายการเงินจากความคิดนักลงทุน สอดคล้องกับข้อมูลจาก CME FED Watch ที่แม้จะประเมินว่าดอกเบี้ย FED จะปรับลง 0.25% ในการประชุมเดือน ธ.ค. แต่ปี 25 ทั้งปีคาดว่าจะลดดอกเบี้ยเพียง 2 ครั้งเท่านั้น น้อยกว่าประมาณการ FED จากประชุมเดือน ก.ย. ที่ประเมินไว้ 4 ครั้ง ปัจจัยเช่นนี้จะสร้างแรงกดดันต่อตลาดหุ้นโดยเฉพาะฝั่ง EM ดังนั้นเงินบาทที่แข็งค่าในช่วงนี้อาจเป็นปัจจัยระยะสั้นและกลับมาอ่อนค่าในช่วงถัดไปก็เป็นได้ แต่จะเป็นบวกกับกลุ่มส่งออก (ITC TU) วันนี้ประเมิน SET INDEX เคลื่อนไหวในกรอบ 1440 – 1455 ยังคงคาดหวังแรงหนุนจากสถาบันในประเทศต่อเนื่องหลังจากวันจันทร์ที่ผ่านมาซื้อสุทธิ 1.2 พันล้านบาทรวมแล้วช่วง 6 วันทำการที่ผ่านมาซื้อสะสม 1.07 หมื่นล้านบาทและเชื่อว่าจะซื้อต่อเนื่องตามเม็ดเงินลดหย่อนภาษีพร้อมกับการเข้าซื้อจากวายุภักษ์ หนุนให้ SET ยังน่าจะค่อยๆปรับขึ้นได้ เมื่อพิจารณาเศรษฐกิจไทยแล้ว Bloomberg Consensus ประเมินว่าจะขยายตัว 3.7%YoY ในช่วง 4Q24 เร่งขึ้นจาก 3Q24 ที่ 3%YoY ในเชิงกลยุทธ์การลงทุนยังแนะเก็งกำไรในกลุ่มท่องเที่ยว (AOT CENTEL MINT) ปัจจัยหนุนฤดูกาล กลุ่มค้าปลีก (BJC CRC CPALL) ศูนย์การค้า (CPN) ธนาคารพาณิชย์ (BBL KBANK KTB SCB)
CPN (ซื้อ / ราคาเป้าหมาย 87.00 บาท)
CPN มีกำไรสุทธิงวด 3Q24 ที่ 4,126 ล้านบาทดีกว่าที่เราคาดไว้ 5% โดยทรงตัวจากปีจากผลดีของกำไรขั้นต้นที่ปรับตัวดีขึ้นหลังจากรายได้จากยอดขายสาขาเดิมเพิ่มขึ้นได้กว่า 7% แต่ลดลง 9%QoQ มีปัจจัยลบจากผลขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยนเข้ามากว่า 340 ล้านบาท และยอดโอนอสังหาริมทรัพย์ลดลง สำหรับแนวโน้มช่วง 4Q24 เรายังมีมุมมองเดิมที่คาดว่าในแง่รายได้จะกลับมาเติบโตได้อีกครั้ง
CRC (ซื้อ / ราคาเป้าหมาย 40.00 บาท)
รายงานกำไรสุทธิ 3Q24 ที่ 2.1 พันล้านบาท (+86%YoY) หลังตัดรายการพิเศษจะมีกำไรปกติที่ 1.6 พันล้านบาท (+24%YoY, +1%QoQ) ดีกว่าที่เราและ BB consensus คาด 17% ทำให้กำไร 9M24 คิดเป็น 68% ของประมาณการกำไรปี2024 กำไร 3Q24 ที่โต YoY มาจากรายได้จากการส่งเสริมการขายที่เพิ่มขึ้น การควบคุมค่าใช้จ่ายที่ดี บวกกับอัตราภาษีจ่ายที่ลดลง แม้ว่าการเติบโตของยอดขายสาขาเดิม (SSSG) ที่ -3%YoY (ไทย -2%, เวียดนาม -6%, อิตาลี -4%) ขณะที่แนวโน้มช่วง QTD ของ 4Q24 มีทิศทางการฟื้นตัวและพลิกกลับมาเป็นบวกได้ในช่วง 10 วันของเดือนพ.ย. 2024
ติดตามช่องทางมิติหุ้นเพื่อรับข่าวสารตลาดทุนได้ตามลิงค์ด้านล่าง
Web : https://www.mitihoon.com/
Facebook : https://www.facebook.com/mitihoon
Youtube : https://www.youtube.com/@mitihoonofficial7770
Tiktok : www.tiktok.com/@mitihoon