มิติหุ้น – นายสมบูรณ์ วศินชัชวาล ประธานเจ้าหน้าที่บริหารด้านการเงิน และรักษาการประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มอสังหาริมทรัพย์เพื่อการอยู่อาศัย บริษัท เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า การพัฒนาธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ให้มีความยั่งยืน ตามแนวคิด ESG โดยมีส่วนร่วมในการใส่ใจดูแลสังคมและสิ่งแวดล้อม เป็นสิ่งที่บริษัทฯ มุ่งขับเคลื่อนมาโดยตลอด เพื่อสร้างการอยู่อาศัยที่มีคุณภาพให้สังคมในปัจจุบัน และสามารถส่งต่อรุ่นต่อไปได้อย่างยั่งยืน ด้วยการนำนวัตกรรมที่อยู่อาศัยเข้ามามีส่วนร่วมในโครงการต่าง ๆ อย่างต่อเนื่อง ครอบคลุมทั้งการยกระดับการอยู่อาศัยของลูกบ้าน การดูแลชุมชนและสังคม รวมถึงการร่วมบริหารจัดการสิ่งแวดล้อมอย่างรับผิดชอบ
“โดยในปี 2567 บริษัทฯ ตั้งเป้าหมายที่จะติดตั้งโซลาร์ รูฟ ในโครงการบ้านเดี่ยวระดับพรีเมียมของทุกโครงการใหม่ รวมถึงบ้านตัวอย่าง สำนักงานขาย คลับเฮ้าส์ และพี้นที่ส่วนกลางของโครงการ เพื่อส่งเสริมการใช้พลังงานหมุนเวียนให้ได้ 299 ยูนิต หรือคิดเป็นกำลังการผลิต 1,500 กิโลวัตต์ ซึ่งปัจจุบันสามารถติดตั้งไปแล้ว 247 ยูนิต มีกำลังการผลิตไฟประมาณ 1,222 กิโลวัตต์ หรือคิดเป็น 81% จากเป้าหมาย โดยหากใช้กำลังการผลิตได้ตลอดทั้งปีจะสามารถช่วยลดก๊าซเรือนกระจกทางอ้อมจากไฟฟ้าที่ซื้อมา (Indirect Emissions) ได้ถึง 1,112 ตันคาร์บอนไดออกไซด์ต่อปี
ขณะเดียวกัน การเลือกใช้วัสดุที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมยังเป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่ทางบริษัทฯ ได้ให้ความสำคัญและผลักดันให้เกิดขึ้นจริงในห่วงโซ่คุณค่า โดยเริ่มตั้งแต่การเลือกใช้วัสดุก่อสร้างหลัก เช่น การเลือกใช้ปูนซีเมนต์ไฮดรอลิกที่มีการเพิ่มส่วนผสมทดแทนโดยที่ยังคงคุณภาพและคุณสมบัติตามมาตรฐานอุตสาหกรรม การเลือกใช้สีจากผู้ผลิตที่พัฒนาการลดก๊าซเรือนกระจกในระดับผลิตภัณฑ์ ซึ่งปัจจุบันบริษัทฯ สามารถช่วยลดก๊าซเรือนกระจกจากการเลือกใช้วัสดุที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมได้ถึง 2,012 ตันคาร์บอนไดออกไซด์ต่อปี อีกทั้งบริษัทฯ ยังมีแผนที่จะสร้างความร่วมมือและผลักดันการใช้วัสดุก่อสร้างอื่นๆ ให้มีการคำนวณหรือรับรองคาร์บอนฟุตพริ้นท์ในระดับผลิตภัณฑ์ เช่น อิฐมวลเบา เหล็ก ผนัง Precast และกระเบื้องหลังคา เพื่อช่วยลดก๊าซเรือนกระจก และสอดคล้องกับเป้าหมายในการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกให้ได้ถึง 42% ภายในปี 2573
นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังได้มุ่งมั่นในการออกแบบบ้านประหยัดพลังงาน เพื่อช่วยให้ลูกบ้านสามารถลดค่าใช้จ่าย และร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการรักษาสิ่งแวดล้อม โดยนำเอามาตรฐานการออกแบบบ้านประหยัดพลังงานของการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) มาปรับใช้ในหลากหลายโครงการ ไม่ว่าจะเป็น การติดตั้งระบบ SOLAR ROOFTOP การเพิ่มฉนวนป้องกันความร้อนทางหลังคา การเพิ่มสัดส่วนช่องลมและช่องแสง การเลือกใช้วัสดุผนังที่นำความร้อนต่ำ การใช้ระบบไฟฟ้าส่องสว่างที่มีประสิทธิภาพสูง การเลือกใช้เครื่องใช้ไฟฟ้าที่มีสมรรถนะที่ดี และการใช้สีสะท้อนความร้อน โดยล่าสุด บริษัทฯ ได้รับรางวัลโครงการบ้านและอาคารเบอร์ 5 จากการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย ซึ่งเป็นการรับรองมาตรฐานด้านการออกแบบและก่อสร้างที่คำนึงถึงการประหยัดพลังงาน โดยมี 2 โครงการที่ได้รับรางวัลในครั้งนี้ ได้แก่ โครงการ เดอะ แกรนด์ แจ้งวัฒนะ – เมืองทอง และโครงการ แกรนดิโอ 2 วิภาวดี – รังสิต
อีกหนึ่งมาตราฐานระดับโลกที่ทางบริษัทฯ ให้ความสำคัญไม่แพ้กันได้แก่ มาตรฐาน LEED Certification ซึ่งถือเป็นหลักเกณฑ์ในการประเมินอาคารสีเขียวจากประเทศสหรัฐอเมริกา โดยวัดระดับตั้งแต่การวางแผนตั้งเป้าหมาย การเลือกสถานที่ การบริหารจัดการน้ำ พลังงาน และการเลือกใช้วัสดุ รวมถึงบรรยากาศโดยรวมในอาคาร โดยบริษัทฯ ได้นำร่องโครงการแรกอย่าง เดอะ แกรนด์ พระราม 5 ยื่นขอการรับรอง LEED สำหรับประเภทบ้านที่อยู่อาศัย (LEED for Homes)
ทั้งนี้ เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ ประเทศไทย ยังได้สร้างความร่วมมือยกระดับสิทธิมนุษยชนในกลุ่มแรงงานก่อสร้าง เพื่อสร้างคุณภาพชีวิตที่ดีให้กับกลุ่มแรงงานและเด็กในแคมป์ก่อสร้างอย่างต่อเนื่อง สอดคล้องกับนโยบายด้านความยั่งยืนของบริษัทฯ ซึ่งในปี 2567 บริษัทฯ ได้ร่วมมือกับมูลนิธิเครือข่ายพัฒนาบ้านเด็ก (BSI: Building Social Impact Initiative) ในการปรับปรุงที่พักและจัดให้มีสวัสดิการตามแนวทางปฎิบัติที่ดีในแคมป์ก่อสร้าง จำนวน 10 แคมป์ โดยมุ่งเน้นปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐานในแคมป์ก่อสร้างให้มีความปลอดภัย และสุขอนามัยที่ดีขึ้น สนับสนุนการเข้าถึงสวัสดิการพื้นฐานต่าง ๆ รวมถึงการป้องกันการถูกละเมิดและการใช้ความรุนแรง ส่งเสริมการเข้าถึงบริการสาธารณสุข ส่งเสริมการเข้าถึงระบบการศึกษา และสื่อสารช่องทางการรับข้อร้องเรียนผ่านหน่วยงาน BSI (WHISTLE BLOWER) ครอบคลุมภาษาของแรงงาน เป็นต้น
เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ ประเทศไทย พร้อมเดินหน้าขยายผลโครงการด้านสังคมและสิ่งแวดล้อมตามแนวคิด ESG อย่างต่อเนื่อง เพื่อสร้างผลกระทบเชิงบวกต่อสังคมให้กว้างขึ้น โดยเชื่อมั่นว่าโครงการต่างๆ เหล่านี้ รวมถึงนวัตกรรมที่อยู่อาศัยของเรา จะสามารถตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคด้านความยั่งยืนในปัจจุบัน พร้อมยกระดับการอยู่อาศัยและคุณภาพชีวิตที่ดีของผู้คนและสิ่งแวดล้อม รวมถึงร่วมขับเคลื่อนสังคมให้น่าอยู่และยั่งยืนในระยะยาว สอดคล้องกับเจตนารมณ์ในการสร้างสรรค์พื้นที่ ให้ประสบการณ์ที่ดีคงอยู่ (Inspiring experience, creating places for good.) ” นายสมบูรณ์ กล่าว
ติดตามช่องทางมิติหุ้นเพื่อรับข่าวสารตลาดทุนได้ตามลิงค์ด้านล่าง
Web : https://www.mitihoon.com/
Facebook : https://www.facebook.com/mitihoon
Youtube : https://www.youtube.com/@mitihoonofficial7770
Tiktok : www.tiktok.com/@mitihoon