Pi Daily ตลาดหุ้น Dow Jones คืนวันศุกร์ปิดลบ 86 จุด (-0.2%)

13

มิติหุ้น – ตลาดหุ้น Dow Jones คืนวันศุกร์ปิดลบ 86 จุด (-0.2%) บรรยากาศการซื้อขายเป็นไปอย่างระมัดระวังท่ามกลางภาวะตลาดที่ไร้ปัจจัยใหม่ๆ โดยนักลงทุนรอติดตามประชุม FED ด้านราคาน้ำมันดิบ BRT ปิดบวก 1.5% และทดสอบระดับสูงสุดในรอบ 3 สัปดาห์ แรงหนุนจากคว่ำบาตรรัสเซียและอิหร่าน

วันศุกร์ที่ผ่านมาฝั่งสหรัฐฯมิได้มีตัวเลขเศรษฐกิจที่สำคัญในฝั่งสหรัฐฯและการเคลื่อนไหวของตลาดหุ้นเป็นไปอย่างจำกัด เพราะนักลงทุนอยู่ในช่วงรอดูปัจจัยสำคัญอย่างการประชุมธนาคารกลางสหรัฐฯที่จะเกิดขึ้นในสัปดาห์นี้ หรือทราบผลอย่างเป็นทางการในช่วงเช้าวันพฤหัสบดีตามเวลาประเทศไทย ข้อมูลล่าสุดจาก CME FED Watch ให้น้ำหนักราว 96% ที่ FED จะลดดอกเบี้ย 0.25% ในการประชุม ครั้งนี้ แต่อย่างไรก็ตามสิ่งที่นักลงทุนจะให้น้ำหนักอาจไม่ใช่การปรับลดดอกเบี้ยครั้งนี้แต่อยู่ที่ถ้อยแถลงของประธาน FED และมุมมองต่อดอกเบี้ยหลังจากนี้เพราะในประชุม FED เดือนกันยายนระบุไว้ว่าทั้งปี 25 จะปรับลดดอกเบี้ยทั้งหมด 1% หรือคิดเป็นการปรับลด 0.25% (4 ครั้ง) แต่ข้อมูลจาก CME FED Watch ล่าสุดนั้นให้โอกาสที่ FED จะปรับลดดอกเบี้ยปี 25 ทั้งหมดเพียง 2 ครั้ง สาเหตุที่มุมมองดอกเบี้ยน้อยลงนั้นอาจเกิดขึ้นจากตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯที่ค่อยๆดีขึ้นพร้อมกับมุมมองต่อเงินเฟ้อที่ร้อนแรงมากขึ้นหลังจากที่สหรัฐฯรายงานเงินเฟ้อทั้งฝั่งผู้ผลิตและผู้บริโภคเริ่มปรับตัวขึ้น ขณะที่มองไปยังช่วงถัดไปเงินเฟ้อสหรัฐฯอาจสูงขึ้นจากการปรับขึ้นภาษีนำเข้าจากประเทศต่างๆ ส่วนการสะท้อนมุมมองต่างๆจากนักลงทุน พบว่ามีมุมมองต่อดอกเบี้ยที่เข้มงวดมากขึ้นเพราะเห็นการปรับขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯต่อเนื่องทั้งอายุ 2 , 10 ปี พร้อมกับ Dollar Index ที่แข็งค่าต่อเนื่อง ปัจจัยข้างต้นไม่เป็นบวกกับตลาดหุ้นฝั่ง EM เท่าใดนักโดยเฉพาะการเคลื่อนย้ายเงินทุน ซึ่งในวันศุกร์ที่ผ่านมาเริ่มเห็นการอ่อนค่าของเงินบาททดสอบระดับ 34 บาท / ดอลลาร์สหรัฐฯ และมีแนวโน้มจะอ่อนค่าต่อเนื่องตามความคาดหวังสหรัฐฯที่มากขึ้น นอกจากนี้ยังมีรายงานจากทาง ITIF ซึ่งเป็นองค์กรวิจัยนโยบายสาธารณะออกมาระบุว่าไทยมีความเสี่ยงเป็นอันดับ 2 ในประเทศที่มีความเสี่ยงจาก Trump จะเล็งเห็นถึงการทำกีดการค้า ปัจจัยติดตามสัปดาห์นี้ได้แก่ผลประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงินในวันพุธ ข้อมูลจาก Bloomberg Consensus ประเมินว่าจะคงดอกเบี้ยนโยบาย แต่ก็เชื่อว่าไม่มีผลอะไรมากนักเพราะนักลงทุนจะให้น้ำหนักกับ FED สัปดาห์นี้ประเมิน SET INDEX เคลื่อนไหวในกรอบ 1400 – 1450 ในเชิงกลยุทธ์การลงทุนอาจเพิ่มความระมัดระวังการลงทุนมากขึ้นจากความเสี่ยงการค้า รวมไปถึงกระแสเงินทุนอาจไหลออกจากความกังวลบาทอ่อนค่า ส่วนนักลงทุนรับความเสี่ยงสูงแนะนำเก็งกำไรในกลุ่มค้าปลีก (BJC CRC CPALL DOHOME GLOBAL) ศูนย์การค้า (CPN) ธนาคารพาณิชย์ (BBL KBANK KTB SCB) ท่องเที่ยว (AOT CENTEL MINT) การเงิน (MTC SAWAD TIDLOR)

SAV (ซื้อ / ราคาเป้าหมาย 27.00 บาท)
ปัจจัยบวกจากการเป็นผู้ประกอบการที่ได้รับสัมปทานดำเนินการบริการด้านการเดินอากาศเพียงรายเดียวในประเทศกัมพูชา ผ่านบริษัทลูกอย่าง แคมโบเดีย แอร์ ทราฟฟิค เซอร์วิส (CATS) ซึ้งธุรกิจการบินในกัมพูชายังมีโอกาสเติบโตได้อีกมากทั้งจากการเติบโตของภาคการท่องเที่ยว หรือการเข้ามาของผู้ประกอบการสายการบิน นอกจากนี้ในอนาคตยังมีโอกาสเติบโตจากการเข้าไปบริหารการเดินอากาศในประเทศลาวเพิ่มอีกแห่ง ซึ่งจะเป็นปัจจัยหนุนการเติบโตในปี 25 ได้อีกมาก ทั้งนี้เราคาดกำไรสุทธิในปี 24-25 จะเติบโต 71%YoY,29%YoY ตามลำดับ

BBL (ซื้อ / ราคาเป้าหมาย 168.00 บาท)
คาดว่ากำไรสุทธิจะเติบโตชะลอตัวที่ 2%/4.3% ในปี 2025-26 ด้าน ROE ปรับลดลงที่ 7.9%/7.8% ในปี 2025-26 จาก 8.1% ในปี 2024 และคาดอัตราผลตอบแทนเงินปันผลสูง 5.3-5.6% ในปี 2024-26 ด้านแนวโน้มผลการดำเนินงานใน 4Q เราคาดกำไรจะลดลง QoQ จากปัจจัยฤดูกาลที่ค่าใช้จ่ายการดำเนินงานเพิ่มขึ้น และรายได้ดอกดเบี้ยลดลง แต่กำไรจะปรับสูงขึ้น YoY จากรายได้ที่มิใช่ดอกเบี้ยเพิ่มขึ้นเป็นหลัก

ติดตามช่องทางมิติหุ้นเพื่อรับข่าวสารตลาดทุนได้ตามลิงค์ด้านล่าง

Web : https://www.mitihoon.com/
Facebook : https://www.facebook.com/mitihoon
Youtube : https://www.youtube.com/@mitihoonofficial7770
Tiktok : www.tiktok.com/@mitihoon