TOP วิเคราะห์สถานการณ์ราคาน้ำมัน

28

ราคาน้ำมันดิบปรับเพิ่มขึ้น หลังสต๊อกน้ำมันสหรัฐปรับลดลง
และความกังวลของตลาดกับนโยบายว่าที่ประธานาธิปดีสหรัฐฯ

ปัจจัยที่ส่งผลกระทบกับราคา

(+) ราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัสและเบรนท์ปรับเพิ่มขึ้น หลังสำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานของสหรัฐฯ (EIA) เผยตัวเลขน้ำมันดิบคงคลังสหรัฐฯ ประจำสัปดาห์สิ้นสุด ณ วันที่ 13 ธ.ค. 67 ปรับลดลง 0.9 ล้านบาร์เรล สู่ระดับ 421 ล้านบาร์เรล มากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะปรับลดลงเพียง 0.1 ล้านบาร์เรล

(-) ธนาคารกลางสหรัฐ (FED) ได้ทำการส่งสัญญาณว่าจะลดอัตราดอกเบี้ย 2 ครั้งคิดเป็น 0.25% ภายในปี 2568 หลังอัตราเงินเฟ้อสหรัฐยังไม่ได้ลดลงมากพอ ในขณะเดียวกันดัชนีดอลลาร์ได้ปรับตัวสูงสุดหลังจากเลือกตั้งประธานาธิปดีสหรัฐฯ แตะระดับ 108 ทำให้ค่าเงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้น และคาดว่าจะกระทบต่อแรงซื้อสำหรับผู้ซื้อที่ใช้เงินสกุลอื่น

(+/-) ตลาดจับตานโยบายของนายโดนัลด์ ทรัมป์ ว่าจะมีโอกาสทำให้เกิดภาวะเงินเฟ้อได้ และมีความกังวลเกี่ยวกับการแทรกแซงธนาคารกลางสหรัฐฯ ส่งผลให้ผู้ลงทุนยังต้องจับตาเฝ้าระวังตลาดในช่วงนี้

ราคาน้ำมันเบนซิน : ราคาน้ำมันเบนซินปรับลดลงสวนทางกับราคาน้ำมันดิบดูไบ หลังการนำเข้าน้ำมันเบนซินของออสเตรเลียได้ปรับลดลง 19.89% เมื่อเทียบ ต.ค. 67 กับเดือนก่อนหน้า แม้จะเป็นฤดูการขับรถเองก็ตาม แม้ว่าปริมาณน้ำมันเบนซินคงคลังที่ออสเตรเลียปรับตัวลดลง 1.29% แตะระดับ 7.99 ล้านบาร์เรลในเดือน ต.ค. 67

ราคาน้ำมันดีเซล : ราคาน้ำมันดีเซลปรับลดลงสวนทางกับราคาน้ำมันดิบดูไบ หลังสมาคมผู้ผลิตยานยนต์แห่งประเทศจีนได้เปิดเผยจำนวนการผลิตรถยนต์ไฟฟ้าของเดือน ก.ย. 67 อยู่ที่ 786,000 คัน ซึ่งเป็นตัวเลขสูงสุดเป็นประวัติการณ์ ส่งผลให้เกิดสัญญาณความต้องการน้ำมันดีเซลปรับตัวลดลง ในขณะเดียวกันปริมาณนำเข้าน้ำมันดีเซลของออสเตรเลียปรับลดลง 2.38% แตะระดับ 15.98 ล้านบาร์เรลในเดือน ต.ค. 67 เมื่อเทียบกับ ต.ค. 66

ติดตามช่องทางมิติหุ้นเพื่อรับข่าวสารตลาดทุนได้ตามลิงค์ด้านล่าง

Web : https://www.mitihoon.com/
Facebook : https://www.facebook.com/mitihoon
Youtube : https://www.youtube.com/@mitihoonofficial7770
Tiktok : www.tiktok.com/@mitihoon