
นางสาวดวงใจ แก้วบุตตา เปิดเผยเพิ่มเติมว่า จากผลการดำเนินงานงวดเก้าเดือนของปี 2567 บริษัทมีรายได้รวมงวด 3 เดือน ของไตรมาส 3 ปี 2567 จำนวน 1,899.49 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 22.64 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 1.21% จากช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน อันเป็นผลจากนโยบายการพิจารณาอนุมัติการให้สินเชื่อที่เข้มงวดเพื่อควบคุมคุณภาพลูกหนี้และส่งผลต่อกำไรในระยะยาวของบริษัท โดยหากพิจารณากำไรสุทธิงวด 3 เดือน ของไตรมาส 3 ปี 2567 จำนวน 231.71 ล้านบาท จะพบว่ากำไรสุทธิเพิ่มขึ้นจำนวน 98.44 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 73.86% จากช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน ซึ่งเกิดจากการบริหารจัดการค่าใช้จ่ายที่ดีขึ้น จึงทำให้มีค่าใช้จ่ายในการบริหารที่ลดลง และยังคงประสิทธิภาพการดำเนินงานที่ดี ส่งผลให้กำไรสุทธิดีขึ้น ด้านภาพรวมของรายได้สำหรับงวด 9 เดือน จำนวน 5,951 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 752.25 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 14.47% จากช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน และมีกำไรสุทธิจำนวน 545.40 ล้านบาท โดยคาดการณ์เศรษฐกิจในปี 2568 จะฟื้นตัวดีขึ้น แต่ความต้องการการเข้าถึงแหล่งเงินกู้ยืมยังคงสูง ธุรกิจการให้บริการสินเชื่อจึงมีโอกาสเติบโตที่ดี นอกจากนี้ บริษัทยังมุ่งเน้นพัฒนาการบริการและผลิตภัณฑ์เดิมให้ตอบโจทย์ลูกค้าและมีประสิทธิภาพมากขึ้น เพื่อให้เกิดการใช้บริการซ้ำอย่างต่อเนื่อง และในเชิงกว้างด้วยการเพิ่มผลิตภัณฑ์ใหม่จากธุรกิจหลัก และธุรกิจใหม่อื่นๆ เพื่อขยายฐานลูกค้าและสนับสนุนให้พอร์ตสินเชื่อคงค้างรวม สินเชื่อใหม่ และรายได้เติบโตตามเป้าหมายที่วางไว้
สำหรับเป้าหมายในปี 2568 นี้ บริษัทจะยังคงพิจารณาอนุมัติการให้สินเชื่อรายใหม่ที่เข้มงวดต่อเนื่องจากปี 2567 เพื่อคุณภาพลูกหนี้ที่ดี ซึ่งจะส่งผลให้ต้นทุนความเสี่ยงของสินเชื่อลดลง โดยหากบริษัทปล่อยสินเชื่อได้เป็นไปตามเป้าหมาย จะส่งผลให้เกิด Economies of Scale และบริษัทคงความเป็นอันดับ 1 ในอุตสาหกรรมสินเชื่อเช่าซื้อรถมอเตอร์ไซค์ป้ายแดงของประเทศ ผลักดันให้ต้นทุนการดำเนินงานลดลง เพิ่มประสิทธิภาพในการดำเนินงานให้สูงขึ้น และเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน“หลังจากเครือบริษัทศรีสวัสดิ์ได้ทำการปรับโครงสร้างธุรกิจใหม่ โดยบริษัท ศรีสวัสดิ์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) (“SAWAD”) จะเน้นทำธุรกิจจำนำที่มีหลักทรัพย์ค้ำประกัน ส่วน SCAP เน้นทำธุรกิจสินเชื่อรายย่อยอื่นๆ แบบครบวงจร เพื่อสร้างโอกาสการเติบโตทางธุรกิจที่ชัดเจนยิ่งขึ้น และทำให้นักลงทุนเข้าใจความแตกต่างในการดำเนินธุรกิจ ซึ่งแผนในปี 68 บริษัทจะเร่งปรับบริการและผลิตภัณฑ์เพื่อรองรับทั้งลูกค้าเก่าและใหม่ เพิ่มผลิตภัณฑ์ใหม่เพื่อขยายฐานลูกค้า และเร่งศึกษาสินเชื่อรายย่อยใหม่ๆ เพื่อสร้าง Ecosystem แบบครบวงจรในธุรกิจ พร้อมก้าวสู่การเป็นผู้นำสินเชื่อรายย่อยระดับต้นของเมืองไทย”
บริษัทมีแผนระยะยาวที่จะมุ่งเน้นในการทำกำไรอย่างยั่งยืนและมีเสถียรภาพโดยมุ่งเน้นผลิตภัณฑ์ที่มีผลตอบแทนสูงและมีความเสี่ยงที่ยอมรับได้ในธุรกิจสินเชื่อรายย่อยแบบครบวงจร และมีการกระจายตัวของสัดส่วนทางธุรกิจ ทั้งในแนวลึก และแนวกว้าง เพื่อลดการพึ่งพิงธุรกิจใดธุรกิจหนึ่ง ช่วยกระจายความเสี่ยงและปรับตัวเพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน สนับสนุนให้เกิดการสร้างรายได้ และผลกำไรแก่บริษัทเพิ่มมากขึ้นอย่างต่อเนื่องและยั่งยืน
กลุ่มสถาบันการเงินผู้จัดการการจัดจำหน่ายหุ้นกู้ SCAP กล่าวเพิ่มเติมว่า หุ้นกู้ SCAP มีแนวโน้มที่จะได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจากนักลงทุน จากการเป็นบริษัทหลักในกลุ่มศรีสวัสดิ์และมีผลการดำเนินงานที่แข็งแกร่งอย่างต่อเนื่อง สำหรับการเสนอขายหุ้นกู้ที่คาดว่าจะเปิดจองซื้อระหว่างวันที่ [31 มกราคม และ 3-4 กุมภาพันธ์] 2568 นี้ จะมีหุ้นกู้ 3 ชุดให้เลือกตามระยะเวลาที่ต้องการลงทุน มีผลตอบแทนที่น่าพอใจ รวมถึงอันดับความน่าเชื่อถือระดับ Investment Grade ที่ BBB+ แนวโน้มอันดับเครดิต “คงที่” จากบริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด เมื่อวันที่ 27 พฤศจิกายน 2567 ซึ่งช่วยสร้างความมั่นใจให้กับผู้ลงทุนได้เป็นอย่างดี
ติดตามช่องทางมิติหุ้นเพื่อรับข่าวสารตลาดทุนได้ตามลิงค์ด้านล่าง
Web : https://www.mitihoon.com/
Facebook : https://www.facebook.com/mitihoon
Youtube : https://www.youtube.com/@mitihoonofficial7770
Tiktok : www.tiktok.com/@mitihoon