ต้องยอมรับสภาวะที่ตลาดหุ้นทุกวันนี้ไม่ได้เทรดกันง่ายๆ เพราะ Capitalgain จากหุ้นส่วนใหญ่ไม่ได้เยอะมากมายไม่เหมือนช่วงหลังวิกฤตต่างๆหลังคลี่คลายแล้วใครที่เลือกจังหวะลงทุนช่วงนั้นยังไงก็กำไรเพราะดัชนีช่วงวิกฤตมันลงไปเยอะมาก
ส่วนช่วงนี้ใครที่ยังรอดจากการลงทุนก็คงจะต้องยกให้กับกลุ่มที่มีความเชี่ยวชาญ และมีเครื่องไม้เครื่องมือรวมถึงผู้ที่ศึกษามาอย่างรอบด้าน จัดให้อยู่ในระดับเซียนหุ้น ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มนักลงทุนบุคคลรายใหญ่ ที่ตั้งตัวเป็นกลุ่ม VI และกลุ่มเทรดเดอร์รุ่นใหม่ หรือแม้แต่บรรดากองทุนต่างชาติ รวมทั้งกองทุนหุ้น
ซึ่งระดับฝีมือธรรมดาทั่วไปต้องยอมรับว่าส่วนใหญ่ยังติดหุ้นกันที่ระดับ 1,700-1,800 จุด รวมทั้งกลุ่มนักลงทุนหน้าใหม่ที่เข้าลงทุนช่วง “ล็อกดาวน์” วิกฤตโควิดเพราะเข้ามาลงทุนในช่วงที่คู่แข่งเริ่มมีเครื่องมือช่วยเทรดต่างๆ อย่างบรรดานักลงทุนสถาบันต่างประเทศ หรือที่เรียกกันง่ายๆว่า “โรบอทเทรด” น่าจะลูบปากหอบกำไรออกนอกประเทศหลายแสนล้านบาท
จะว่าไปแล้วปีนี้ตั้งแต่ต้นปี ดัชนีหุ้นไทยยังอยู่ในแดนลบ เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา หรือเรียกง่ายๆว่าเกือบจะไม่เปลี่ยนแปลงก็ว่าได้ แม้ว่าระหว่างปีเคยแตะจุดสูงสุดที่ 1,506 จุด จากสิ้นปี 66 อยู่ที่ 1,415.85 จุด ปัจจุบัน ยังอยู่แถวๆ 1,400 จุด บวกลบ
แต่กลับยังมีหุ้นฮอตที่ราคาพุ่งเกิน 100% หากย้อนหลังไปนับตั้งแต่ต้นปี 67 (YTD) สวนดัชนีหุ้นไทย ถึง 4 ตัวหุ้นนำโดยอันดับ 1. CCET ราคาบวก 361.54% ดันมาเก็ตแคปทะลุ แสนลบ.หลังสวยเตะตากลุ่ม VI แต่ผลงานก็ไม่ได้ว้าวอะไรเท่าไหร่ โบรกส่วนใหญ่ยังแนะ “ขาย” เสียด้วยซ้ำ
ถัดมาอันดับ 2. TRC ราคาบวก 278% (YTD) แม้ผลการดำเนินงานยังขาดทุนบักโกรก ราคาเด้งจากระดับ สิบกว่าสตางค์ ไปทะลุ 1บาท รับสตอรี่เด็ดเซ็นสัญญางานรับเหมาช่วงโครงการเหมืองแร่โพแทช ชัยภูมิ มูลค่า 2.7 พันลบ. อันดับ 3. TRUE ราคาบวก 115.84% (YTD) ควบรวม DTAC คาดช่วยธุรกิจพลิกบวกได้ปีหน้า โบรกก็แห่ปรับคาดเชิงบวกมากขึ้น
อันดับ 4.EE หุ้นไซส์มินิ ราคาบวก 114.81% (YTD) จากธุรกิจพืชเศรษฐกิจชนิดใหม่แบบครบวงจร ล่าสุดเมื่อมีดีลที่สร้างความตะลึง!!! ให้กับวงการตลาดหุ้น เมื่อ “นอท กองสลากพลัส” หรือนายพันธ์ธวัช นาควิสุทธิ์ ที่มีชื่อเสียงจากธุรกิจสลากออนไลน์ ได้ซื้อหุ้นผ่านรายการบิ๊กล็อตของ จำนวน 1,607 ล้านหุ้น สัดส่วน 57.81% พร้อมกับประกาศทำคำเสนอซื้อหุ้นที่เหลือทั้งหมดที่ราคาเดียวกันคือ 0.14 บ. ราคาหุ้นก็แรลรี่อย่างกับหุ้นอนาคตไกลเลยทีเดียว
อันดับ 5. MCOT ราคาบวก 83.94% (YTD) ราคาหุ้นวิ่งจากระดับ 2.76 บ.เคยพุ่งไปทะลุ 10 บ.มาแล้ว แม้ล่าสุดจะวิ่งแถวๆ 5-6บ.ก็ตามประเด็นที่ต้องจับตาไม่ใช่ผลประกอบการที่ยังลุ่มๆดอนๆ แต่มันมีกระแสข่าวบวกว่าวายุภักษ์เข้าเก็บด้วยจริงเท็จประการใดต้องติดตามกันต่อไป อันดับ 6.DELTA ที่ยังแรงข้ามปี ราคาบวก 73.30% (YTD) ระหว่างปีเคยวิ่งทำราคาใหม่ ทะลุ 170 บ. หากคิดราคาก่อนแตกพาร์ก็ปาเข้าไป 1,700บ. (จากราคาไม่ 50บ.เมื่อปี 64) จนสร้างมาร์เก็ตแคปทะลุ 2ล้านล้านบาท หรือกว่า 11% ที่มีผลต่อ SETINDEX จนถูกแซวว่าหุ้นไทยควรเปลี่ยนชื่อเป็น DELTA INDEX เลยทีเดียว
อันดับ 7.VGI ราคาบวก 72.02% (YTD) จัดว่าอยู่ในกระแสมาอย่างต่อเนื่องภายหลังเพิ่มทุน PP ล็อตใหญ่สำเร็จและจัดว่ามีเงินสดในมือสูงกว่า 2 หมื่นลบ.ทีเดียวพร้อมกับการขยับตัวของกลุ่มที่จะบุก Virtual Bank และสตอรี่ได้ประโยชน์ หากรัฐปลดล็อกเอ็นเตอร์เทนเมนคอมเพล็กซ์แม้ว่าผลประกอบการยังขาดทุนแต่ภายหลังจากตัดขายธุรกิจ KEX ออกไปก็จะเริ่มฟื้นตัวขึ้นได้พร้อมกับเทรนด์ปลายปีธุรกิจสื่อนอกบ้านสดใสขึ้นด้วย
สุดท้าย อันดับ 8. NSL สินค้าเบเกอรี่ อาหารรองท้อง และขนมขบเคี้ยว ส่ง 7-Eleven ราคาหุ้นบวก 71.60 % (YTD) ธุรกิจที่มาร์จิ้นดีราคาค่อยๆขยับอย่างต่อเนื่องสะท้อนผลกำไรที่เติบโตโบรกก็ยังคาดการกำไรจะเติบโตต่อเนื่อง
ทั้งหมดทั้งมวลนี้ คือตัวอย่างหุ้นฮอต!ในปีนี้ที่ปรับขึ้นแรลรี่แรงจริงจังและคงสะดุดตาเทรดเดอร์ และบรรดานักวิเคราะห์ด้วย ก็คงจะต้องติดตามกันต่อไปว่าหุ้นฮอต! ทั้ง 8 หุ้นชั้นเซียนจะยืนในแดนบวกได้ในปี 68 อีกหรือไม่!
ติดตามช่องทางมิติหุ้นเพื่อรับข่าวสารตลาดทุนได้ตามลิงค์ด้านล่าง
Web : https://www.mitihoon.com/
Facebook : https://www.facebook.com/mitihoon
Youtube : https://www.youtube.com/@mitihoonofficial7770
Tiktok : www.tiktok.com/@mitihoon