CGSI : Trend Spotter

17

มิติหุ้น – Trend Spotter
• สรุปภาพรวมตลาด: ตลาดหุ้นสหรัฐฯ วันศุกร์ที่ผ่านมา (27 ธ.ค.) ร่วงลงมาปิดแดนลบ นำโดยแรงขายทำกำไรหุ้นในกลุ่มเทคโนโลยี (Tesla -5.0%, Nvidia -2.0%) โดยการปรับตัวขึ้นของบอนด์ยีลด์สหรัฐ 10 ปี ที่เพิ่มขึ้นมากกว่า 4bp สู่ระดับ 4.627% เป็นปัจจัยที่กดดันทั้งตลาดหุ้นสหรัฐ และ ราคาทองคำให้ปรับตัวลงมา -0.8%

ด้านราคาน้ำมันดิบ WTI ปิดบวก 1.4% หลัง EIA รายงานตัวเลขสินค้าคงคลังน้ำมันดิบลดลง 4.2 ล้านบาร์เรล สูงกว่าที่ตลาดคาดว่าจะลดลงเพียง 7 แสนบาร์เรล รวมถึงตลาดมีความคาดหวังต่อการฟื้นตัวของอุปสงค์น้ำมันในจีนในปีหน้า

สำหรับตลาดหุ้นภูมิภาค ดัชนี NIKKEI ปิดพุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 5 เดือน ทะลุระดับ 40,000 จุด ในวันศุกร์ที่แล้ว (27 ธ.ค.) จากแรงซื้อหุ้นกลุ่มส่งออก หลังเงินเยนอ่อนค่าลง ธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) เปิดเผยรายงานสรุปความคิดเห็นของกรรมการ BOJ โดยระบุว่า กรรมการบางส่วนมีมุมมองเชิงบวกเกี่ยวกับการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเร็วๆ นี้ แม้ว่า BOJ มีมติคงอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือน ธ.ค. ที่ผ่านมา

สัปดาห์นี้ ตลาดหุ้นส่วนใหญ่ปิดทำการวันที่ 31 ธ.ค. 24 – 1 ม.ค. 25 เนื่องในเทศกาลปีใหม่ อย่างไรก็ตาม ติดตามตัวเลขเศรษฐกิจที่สำคัญ ได้แก่ ดัชนี PMI ภาคการผลิตเดือนธ.ค. ของจีน (31 ธ.ค.) และ สหรัฐฯ (2 ม.ค.)

• SET Index : ในวันศุกร์ที่ผ่านมา ตลาดปรับตัวขึ้นจากแรงซื้อของหุ้นขนาดใหญ่ จากเม็ดเงินของนักลงทุนสถาบัน ขณะที่ช่วงบ่ายตลาดแกว่งผันผวนจากการ Rollover ของ Series Z ที่จะหมดสัญญา

วันนี้เราคาดว่าตลาดน่าจะเคลื่อนไหวในกรอบ 1,400 จุด +/- ด้วยมูลค่าซื้อขายเบาบาง เนื่องจากเป็นวันทำการสุดท้ายก่อนวันหยุดเทศกาลปีใหม่ อย่างไรก็ดีเราคาดว่าแรงซื้อจากสถาบันในประเทศจากเม็ดเงินกองทุน TESG ในวันสุดท้ายจะช่วยพยุงตลาดไว้ได้ รวมถึงการเก็งกำไรหุ้นที่จะปรับเข้าดัชนี SET50/SET100 ใน 1H25 และหุ้นที่มีปัจจัยบวกเฉพาะ

ธปท. เผยแนวโน้มเศรษฐกิจไทยยังมีแรงหนุนจากภาคท่องเที่ยว และบริการ ขณะที่การส่งออกสินค้ายังขยายตัวได้ต่อเนื่อง อย่างไรก็ตามปัจจัยที่ต้องติดตาม คือ 1.ผลกระทบจากความไม่แน่นอนของแนวนโยบายของประเทศเศรษฐกิจหลัก และ 2.มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐ

• หุ้นแนะนำ
CCET : เก็งกำไร หุ้นที่จะเข้าคำนวณดัชนี SET50/SET100 ใน 1H25
ผู้บริหารของบริษัทคาดว่ายอดขายในปี FY25 จะยังเติบโตต่อเนื่อง โดยมีปัจจัยหนุนจาก 1) ลูกค้ามีแนวโน้มจะย้ายการผลิตมาไทยมากขึ้นเพื่อกระจายฐานการผลิตออกจากจีนและเวียดนาม 2) บริษัทจะขยายธุรกิจไปยังผลิตภัณฑ์ที่มีศักยภาพเติบโตสูง และ 3) บริษัทขยายกำลังการผลิต
ในประเทศไทยอย่างมีนัยสำคัญ
(Take profit : 10.50 / Stop loss : 9.50)

SIRI : คาดกำไรสุทธิ 4Q24 น่าจะสูงสุดในปี 2024 จากรายได้ธุรกิจอสังหาฯ เพิ่มขึ้น และคาดว่าอัตราผลตอบแทนจากเงินปันผลสูงที่ระดับ 9-10% ในปี 2024-25 นอกจากนี้การขายเงินลงทุนใน Standard International Holdings (SIH) ให้ กับ Hyatt Corporation อาจทำให้มี upside ใน 4Q24-2029 จากค่าตอบแทนพิเศษตามผลการดำเนินงานและค่าตอบแทนการใช้แบรนด์
โครงการ
(Take profit : 1.85 / Stop loss : 1.76)

Link : https://resmail.cgsi.com/l/763223/2024-12-29/2snjbxy

#MacroWealthResearch
#CGSInternational

ติดตามช่องทางมิติหุ้นเพื่อรับข่าวสารตลาดทุนได้ตามลิงค์ด้านล่าง

Web : https://www.mitihoon.com/
Facebook : https://www.facebook.com/mitihoon
Youtube : https://www.youtube.com/@mitihoonofficial7770
Tiktok : www.tiktok.com/@mitihoon