Pi Daily แม้มีข่าวว่าทรัมป์จะผ่อนคลายกำแพงภาษีนำเข้า แต่สุดท้ายก็ออกมาปฎิเสธ ตลาดหุ้นไทย Valuation ถูกแต่ขาดปัจจัยหนุน

18

มิติหุ้น – ตลาดหุ้น Dow Jones ปิดลบ 25 จุด (-0.06%) ในช่วงแรกนั้นตลาดหุ้นสหรัฐฯได้แรงหนุนจากรายงานที่ว่าทรัมป์กำลังหารือกับคนใกล้ชิดเกี่ยวกับการตั้งกำแพงภาษีเฉพาะบางสินค้าเท่านั้นก่อนที่จะออกมาปฎิเสธภายหลัง ด้านราคาน้ำมันดิบ BRT ปิดลบ 0.27% การซื้อขายเป็นไปอย่างผันผวนท่ามกลางตัวเลขเศรษฐกิจที่แย่

เมื่อวานที่ผ่านมากระทรวงพาณิชย์รายงานดัชนีราคาผู้บริโภคประจำเดือน ธ.ค. พบว่าขยายตัว 1.2%YoY ใกล้เคียงกับที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ ปัจจัยหนุนเงินเฟ้อขยายตัวมาจากการสูงขึ้นของราคาน้ำมันเชื้อเพลิง เพราะฐานราคาที่ต่ำในช่วงปีก่อนหน้าประกอบกับราคาสินค้าในกลุ่มอาหารและเครื่องดื่มปรับสูงขึ้นจากราคาผลไม้สดโดยเฉพาะราคาเงาะ มะม่วง กล้วยน้ำว้า อย่างไรก็ตามมีราคาสินค้าบางชนิดราคาปรับลดลงได้แก่กลุ่มไข่และผลิตภัณฑ์นม (-0.96%YoY) และผักสด (-3.9%YoY) ตามการลดลงของราคาพริกสด มะเขือเทศ และมะนาว ส่วนหมวดอื่นๆที่มิใช่อาหารและเครื่องดื่ม (+1.2%YoY) ตามการสูงขึ้นของราคาสินค้าในหมวดเคหสถาน (+0.4%YoY) ตามราคาค่ากระแสไฟฟ้า ค่าเช่าบ้าน และค่าแรงกระเบื้อง โดยราคาสินค้าที่ปรับลงได้แก่เครื่องนุ่งห่มและรองเท้า (-0.5%YoY) จากการลดลงของราคาเสื้อยืดบุรุษ ด้านเงินเฟ้อพื้นฐานขยายตัว 0.8%YoY นับเป็นระดับที่ค่อนข้างต่ำสะท้อนถึงอุปสงค์ที่มิได้แข็งแกร่งมากนัก แต่ด้วยต้นทุนบางประเภทที่ปรับลงอย่างผักสดจะเป็นบวกกับหุ้นในกลุ่มร้านอาหาร (CENTEL MINT) ในขณะเดียวกันวานนี้กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาได้รายงานตัวเลขนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เดินทางเข้าไทยทั้งหมดในปี 24 พบว่าอยู่ที่ 35.5 ล้านคน (+26%YoY) และสร้างรายได้ต่อประเทศได้ราว 1.67 ล้านล้านบาท (+34%YoY) 5 อันดับแรกได้แก่ จีน มาเลเซีย อินเดีย เกาหลีใต้ และรัสเซีย สำหรับปีนี้หลายๆสำนักคาดการณ์จำนวนนักท่องเที่ยวที่ 38-39 ล้านคน มองเป็นบวกกับหุ้นในกลุ่มท่องเที่ยวและค้าปลีก (AOT CENTEL CPALL MINT) ส่วนต่างประเทศเมื่อคืนช่วงหัวค่ำตามเวลาประเทศไทยสำนักข่าววอชิงตันโพสต์ได้ออกมารายงานระบุว่า ทรัมป์ มีแผนจะผ่อนคลายนโยบายการตั้งกำแพงภาษี แม้จะยังมีแนวคิดจัดเก็บทุกประเทศแต่จะจำกัดเพียงบางอุตสาหกรรม

โดยเฉพาะอุตสาหกรรมที่มีผลต่อความมั่นคงแห่งชาติหรือเศรษฐกิจสหรัฐฯเท่านั้น ทำให้ในช่วงแรกนั้นค่าเงินฝั่งเอเชียพลิกกลับมาแข็งค่าก่อนจะกลับมาอ่อนค่าเช่นเดิม เพราะทรัมป์ได้ออกมาปฎิเสธ ทั้งนี้คงต้องรอดูช่วงรับตำแหน่งในวันที่ 20 ม.ค. ของทรัมป์อีกครั้ง แต่เบื้องต้นนั้นพบว่าอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐฯยังปรับเพิ่มขึ้น สะท้อนว่านักลงทุนยังมิได้เชื่อมากนักกับข่าวที่วอชิงตันได้ออกมารายงาน วันนี้ประเมิน SET เคลื่อนไหวในกรอบ 1360 – 1380 ยังคงเป็นภาวะที่หุ้นไทย Valuation ถูกแต่ไร้ซึ่งความเชื่อมั่นและไม่มีปัจจัยบวก กระแสเงินทุนยังมิเห็นการไหลกลับอย่างมีนัยยะไม่ว่าจะสถาบันหรือจะต่างประเทศ โดยเฉพาะต่างประเทศยังไม่น่าเห็นการกลับมาซื้ออย่างมีนัยยะ ตามการเร่งตัวของ US Bond Yield และเงินบาทยังไม่มีทิศทางกลับมาแข็งค่า ดังนั้นในเชิงกลยุทธ์การลงทุนยังเน้นเพียงแค่เก็งกำไรระยะสั้นสำหรับคนที่รับความเสี่ยงได้สูง เน้นที่กลุ่มมีปัจจัยหนุน อาทิ ส่งออก (ITC TU) ธนาคารพาณิชย์ (BBL KBANK KTB SCB) ท่องเที่ยว (AOT CENTEL MINT) ค้าปลีก (BJC CRC HMPRO)

BBL (ซื้อ / ราคาเป้าหมาย 168.00 บาท)
คาดว่ากำไรสุทธิจะเติบโตชะลอตัวที่ 2%/4.3% ในปี 2025-26 ด้าน ROE ปรับลดลงที่ 7.9%/7.8% ในปี 2025-26 จาก 8.1% ในปี 2024 และคาดอัตราผลตอบแทนเงินปันผลสูง 5.3-5.6% ในปี 2024-26 ด้านแนวโน้มผลการดำเนินงานใน 4Q เราคาดกำไรจะลดลง QoQ จากปัจจัยฤดูกาลที่ค่าใช้จ่ายการดำเนินงานเพิ่มขึ้น และรายได้ดอกดเบี้ยลดลง แต่กำไรจะปรับสูงขึ้น YoY จากรายได้ที่มิใช่ดอกเบี้ยเพิ่มขึ้นเป็นหลัก

HMPRO (ซื้อ / ราคาเป้าหมาย 12.50 บาท)
ท่ามกลางกำลังของผู้บริโภคที่ชะลอตัว ประกอบกับงานก่อสร้างและการโอนโครงการอสังหาที่ลดลง ทำให้การจับจ่อยใช้สอยในส่วนของสินค้าซ่อมแซมและตกแต่งบ้านจะชะลอตาม แต่เราคาดว่า HMPRO จะรายงานกำไรสุทธิงวด 4Q24 ที่ 1.7 พันล้านบาท (+3%YoY, +20%QoQ) ผลจากยอดขาย Mega Home ที่ขยายตัวดี ประกอบกับค่าใช้จ่ายที่เริ่มควบคุมได้ดีขึ้นจาก Hybrid store ที่ทยอยเห็นผล ขณะที่การเติบโตของยอดขายสาขาเดิม (SSSG) ของ HomePro ช่วงเดือน ธ.ค. 2024 พลิกกลับมาบวกได้เล็กน้อย YoY จากฐานที่ต่ำในปีก่อน และ HomePro Super Expo ที่จัดเดือน ธ.ค. 2024 เทียบกับ พ.ย. 2023 ส่วน Mega Home ยังขยายตัวดีระดับ 3%-5% YoY

ติดตามช่องทางมิติหุ้นเพื่อรับข่าวสารตลาดทุนได้ตามลิงค์ด้านล่าง

Web : https://www.mitihoon.com/
Facebook : https://www.facebook.com/mitihoon
Youtube : https://www.youtube.com/@mitihoonofficial7770
Tiktok : www.tiktok.com/@mitihoon