CGSI : Trend Spotter

15

มิติหุ้น – Trend Spotter
• สรุปภาพรวมตลาด : ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ผันผวน หลังรายงานตัวเลขเศรษฐกิจที่สำคัญออกมาในทิศทางที่ต่างกัน โดยดัชนี DJIA และ S&P500 ปิดบวก ขานรับนายวอลเลอร์ สมาชิก FOMC กล่าวสนับสนุนการปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงของ Fed ปีนี้ ท่ามกลางแรงกดดันด้านเงินเฟ้อที่ยังคงมีอยู่ โดยในบันทึกการประชุมของ Fed เดือนที่ผ่านมา (17-18 ธ.ค.) แสดงให้เห็นว่าผู้เข้าร่วมประชุมส่วนใหญ่มองว่าความเสี่ยงด้านเงินเฟ้อเพิ่มขึ้น อีกทั้ง มีรายงานว่าทรัมป์เตรียมแผนที่จะประกาศภาวะฉุกเฉินทางเศรษฐกิจแห่งชาติ หลังเข้าพิธีสาบานตนรับตำแหน่งในวันที่ 20 ม.ค. เพื่อให้มีอำนาจในการใช้นโยบายตั้งกำแพงภาษีนำเข้า

สำหรับการเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญเมื่อวานนี้ (8 ม.ค.) ตัวเลขการเปลี่ยนแปลงในการจ้างงานนอกภาคเกษตรกรรมจาก ADP เดือนธ.ค. ต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนส.ค. 2024 โดยเพิ่มขึ้นเพียง 1.22 แสนตำแหน่ง ต่ำกว่าที่ตลาดคาดว่าจะเพิ่มขึ้น 1.39 แสนตำแหน่ง (vs. เดือนพ.ย. เพิ่มขึ้น 1.46 แสนตำแหน่ง) สวนทางกับรายงานตัวเลขผู้ยื่นขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกรายสัปดาห์ที่ลดลง 10,000 ราย สู่ระดับ 2.01 แสนราย ต่ำกว่าตลาดคาดที่ 2.14 แสนราย

ดังนั้น ติดตามรายงานข้อมูลอื่นเพิ่มเติม เพื่อประเมินแนวโน้มการตัดสินใจเกี่ยวกับอัตราดอกเบี้ยของ Fed ต่อไป โดยพรุ่งนี้ (10 ม.ค.) จะมีการเปิดเผยตัวเลขรายได้เฉลี่ยต่อชั่วโมง-การจ้างงานนอกภาคการเกษตร-อัตรากการว่างงาน เดือนธ.ค.

ความไม่แน่นอนในสหรัฐฯ นี้ ส่งผลให้นักลงทุนเข้าสะสมในสินทรัพย์ปลอดภัย และ สนับสนุนให้ราคาทองคำเพิ่มขึ้น 0.3%

ด้านราคาน้ำมันดิบ WTI ร่วงลงกว่า 1.2% หลัง EIA รายงานตัวเลขสินค้าคงคลังน้ำมันดิบสัปดาห์ที่ผ่านมาลดลง 9.59 แสนบาร์เรล ต่ำกว่าที่ตลาดคาดว่าจะลดลง 1.8 ล้านบาร์เรล รวมถึงแรงกดดันจากดอลลาร์ที่แข็งค่า

ตลาดหุ้นสหรัฐฯ จะปิดทำการวันนี้ เพื่อเป็นการไว้อาลัยต่อการถึงแก่อสัญกรรมของอดีตประธานาธิบดีจิมมี คาร์เตอร์

• SET Index : เราคาดว่า SET Index จะแกว่งผันผวนบริเวณ 1,380-1,395 จุด หลังตลาดรับรู้ปัจจัยต่างๆ ไปพอสมควรแล้ว อย่างไรก็ตาม ตลาดอาจเผชิญแรงกดดันจากความกังวลต่อความไม่แน่นอนของสงครามการค้าหลังมีรายงานว่าทรัมป์กำลังพิจารณาประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินทางเศรษฐกิจระดับชาติ เพื่อมอบความชอบธรรมทางกฎหมายแก่มาตรการรีดภาษีอันครอบคลุม

ติดตามรายงานผลประกอบ 4Q24 หุ้นกลุ่มแบงก์ โดยจากประมาณการของ Bloomberg Consensus คาดว่าธนาคารส่วนใหญ่ (ยกเว้น Tisco) จะมีกำไรสุทธิลดลง qoq เนื่องจาก NIM ที่ลดลง แต่หากเทียบ yoy แล้ว คาดว่า BBL, KTB, KKP จะมีกำไรสุทธิเติบโตแข็งแกร่งจากต้นทุนเครดิตที่ลดลง yoy

• หุ้นแนะนำ
MOSHI : เราเชื่อว่าผู้ค้าปลีกที่จำหน่ายสินค้าแฟชั่นและไลฟ์สไตล์จะมี SSSG เพิ่มสูงขึ้น qoq ใน 4Q24 โดย MOSHI ยังคงเป็นหุ้น Top pick ของเรา เพราะ บริษัทน่าจะมี SSSG แข็งแกร่งและอัตรากำไรขั้นต้นขยายตัวอย่างน้อยจนถึง 3Q25 เพราะฐานต่ำหลังมีปัญหาสินค้าขาดในปีที่แล้ว

(Take profit : 43.75 / Stop loss : 41.25)

SCB : เราคาดว่า SCB จะสามารถประหยัดค่าใช้จ่ายได้ 2 พันล้านบาทในปี FY25-26 หลังจากขายเงินลงทุนในบริษัท เพอร์เพิล เวนเจอร์ส จำกัด (Not listed) ซึ่งจะส่งผลให้ EPS เติบโต 7.3-7.4% ในปี FY25-26 ดังนั้น เราจึงคาดว่า SCB จะจ่ายเงินปันผลสูงถึง 11.0-11.8 บาท/หุ้นในปี FY25-26 หรือคิดเป็นอัตราการจ่ายเงินปันผล 80%

(Take profit : 121.5 / Stop loss : 117.0)

#MacroWealthResearch
#CGSInternational

ติดตามช่องทางมิติหุ้นเพื่อรับข่าวสารตลาดทุนได้ตามลิงค์ด้านล่าง

Web : https://www.mitihoon.com/
Facebook : https://www.facebook.com/mitihoon
Youtube : https://www.youtube.com/@mitihoonofficial7770
Tiktok : www.tiktok.com/@mitihoon