ธนาคารทิสโก้ชู 3 กองทุน สร้างโอกาสปกป้องความเสี่ยงจากนโยบายทรัมป์ (Asset Shield) ชูลงทุนบอนด์ทั่วโลก,ทองคำและ REITs โลกได้รับประโยชน์จากช่วงดอกเบี้ยขาลง และราคาทองคำแท่งอาจปรับขึ้นช่วงหนี้สาธารณะสหรัฐฯ พุ่ง
นางวรสินี เศรษฐบุตร ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายพัฒนาผลิตภัณฑ์กองทุน และสื่อสารการตลาด สายธุรกิจธนบดี ธนาคารทิสโก้ จำกัด (มหาชน)เปิดเผยว่า ในปี 2568 สำหรับลูกค้าที่ต้องการลงทุนในสินทรัพย์ที่ช่วยปกป้องความผันผวนจากนโยบายนายโดนัล ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐฯ (Asset Shield) พร้อมทั้งเพิ่มโอกาสสร้างผลตอบแทนที่ดีในระยะยาว ธนาคารทิสโก้แนะนำให้ลงทุนในตราสารหนี้ระยะสั้นถึงระยะกลาง ทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ (REITs) ระดับโลก และทองคำ
ลุ้นผลตอบแทนบอนด์ปีนี้โดดเด่น
โดยมี 3 กองทุนรวมที่แนะนำ ดังนี้ 1. กองทุน ES-GINCOME เน้นลงทุนในตราสารหนี้ทั้งภาครัฐและเอกชนทั่วโลก ซึ่งข้อมูลจาก PIMCO GIS Income Fund ณ วันที่ 30 พฤศจิกายน 2567 ระบุว่าในช่วงนี้กองทุนหลักลงทุนในตราสารหนี้ที่มีอายุเฉลี่ย 4.09 ปี ซึ่งนับเป็นตราสารหนี้ระยะสั้นถึงระยะกลาง ทำให้มีโอกาสสร้างผลตอบแทนได้สูงกว่าตราสารหนี้ระยะยาว
แนะลงทุนอสังหาฯทั่วโลก–ทอง
- กองทุน KFGPROP ลงทุนใน REITs และอสังหาริมทรัพย์ทั่วโลก คาดว่าในปี 2568 อัตราการเติบโตของกำไรกลุ่ม Global REITs จะเติบโต 4.2% เมื่อเทียบกับปีก่อนถือว่าอยู่ในระดับที่น่าสนใจ และ 3. กองทุน TGOLD ลงทุนในกองทุน SPDR Gold Trust (กองทุนหลัก) ซึ่งมีนโยบายเน้นลงทุนในทองคำแท่ง จัดตั้งและจัดการโดย World Gold Trust Services, LLC โดยกองทุน SPDR เป็นกองทุน ETF
ติดตามช่องทางมิติหุ้นเพื่อรับข่าวสารตลาดทุนได้ตามลิงค์ด้านล่าง
Web : https://www.mitihoon.com/
Facebook : https://www.facebook.com/mitihoon
Youtube : https://www.youtube.com/@mitihoonofficial7770
Tiktok : www.tiktok.com/@mitihoon
