กลายเป็น Talk of The Town สำหรับหุ้น แมว 9 ชีวิตค่ายเพลงดังในอดีต อย่าง RS หรือ บมจ.อาร์เอส แม้ธุรกิจจะถูก Digital Disruption ก็ยังฟื้นขึ้นมาได้ ซึ่งเคยถูกชื่นชมในฝีมือผู้บริหาร “เฮียฮ้อ” หรือ “สุรชัย เชษฐโชติศักดิ์” ที่จัดว่าเป็นผู้บริหารที่แก้เกมได้เท่าทันทุกเหตุการณ์จนอาณาจักร RS ก็ยังคงเติบโตต่อเนื่องโดยพบว่าปี 64 สร้างกำไรทะลุพันล้านบาท โดยทำกำไรได้ถึง 1,395.23 ลบ.เติบโตถล่มถลายหลายร้อยเท่า และแม้ว่าจะสะดุดไปช่วงปีก่อนหน้านั้นก็ตาม RS ก็ยังคงทำกำไรได้ต่อเนื่อง
….แต่ทว่าวงการตลาดหุ้นก็เหมือนแดนสนธยา….และช่วงเฟื่องฟูราคาหุ้น RS จากต่ำกว่า 4บาท พุ่งทะลุ 20 บาทในปี 64 (ราคาปิดสิ้นปี64 ที่ 21.70บ.) มาร์เก็ตแคปทะลุ 2 หมื่นลบ. ฟาดกำไรหุ้นกันไป พร้อมๆ ธุรกรรมแปลกๆ ก็บรรเจิดเกิดขึ้นในช่วงนั้น…เคสนี้ก็เช่นกันถือว่าใช้ทุกเครื่องมือทางการเงินแบบล้ำหน้าผองเพื่อนที่โดน Forced Sell ไปก่อนหน้านี้อยู่หลายตัวและดังกระฉ่อนทุกตัวซึ่งคงไม่ต้องเอ่ย …ทำให้เป็นช่องทางที่ระดมเงินทุนได้ง่ายได้ไวของบรรดาเจ้าของหุ้นและต้นทุนถูกกว่า….ก็ว่าได้
….ว่ากันว่า คนอื่นเค้าใช้แค่เครื่องมือตึ๊งหุ้น…แต่ค่ายนี้ ใช้ 3 เครื่องมือ 1.ตึ้งหุ้นกับ 2 ค่าย 1.โบรกย่านสาทร กับโบรกชื่อคล้ายทองคำย่านถนนวิทยุ ซึ่งก็ต้องชื่นชมโบรกแรกบริหารความเสี่ยงได้ดีเยี่ยม Forced Sell เป็นรายแรกๆเจ็บน้อยสุด
เครื่องมือที่ 2. คือการปล่อยสินเชื่อ หรือ ที่เรียกว่า ลอมบาร์ดโลน ซึ่งโบรกค่ายนี้ให้บริการอยู่รายเดียว ชื่อโบรกมีความหมายว่า “ทุกสิ่งที่ดึงดูดความโชคดี” และที่สุดแสบที่สุดคือ การใช้เครื่องมือ บล็อกเทรด ผ่านนอมินี กับ 3 โบรก นำโดยตัวแสบสุดคือค่ายที่มีมาร์เก็ตแชร์ทิ้งห่างเพื่อนๆ และอีก 2 โบรกค่ายแบงก์ แบงก์สีสว่างย่านมาบุญครองและโบรกย่านรัชโยธิน เพื่อดันราคาหุ้นด้วยต้นทุนที่ต่ำกว่ามาร์จิ้น นอกจากนี้ก็ยังมีการกู้ยืมเงินระหว่างบริษัทในตลาดด้วยกันอีกอีรุงตุงนังกันไปหมด…
เงินที่ได้ก็คาดว่าหลายพันล้าน ทำให้ “เฮียฮ้อ” มีเงินขยายอาณจักรใหม่บนเนื้อที่กว่า 16 ไร่ บนถนนประเสริฐมนูกิจ และแผนการเข้าซื้อกิจการบริษัทในตลาดหุ้น แต่ทว่าเหตุการณ์ที่เริ่มจะเปิดแผลแรก คือ แผนเทกฯ GIFT สะดุดจนต้องล้มแผน สถานการณ์ที่ RS ขยายประจวบเหมาะกับภาวะเศรษฐกิจที่ยังไม่ฟื้นตัว สถานการณ์ในตลาดหุ้นก็เริ่มย่ำแย่เงินถูกดึงสภาพคล่องจากรายย่อยจนติดหุ้น และเริ่มลุกลามมาที่รายใหญ่กลุ่มนำหุ้นไปตึ๊ง จากบริษัทหลายแห่งจนราคาร่วงต่ำสุดท้ายตอก็ผุด RS ก็เป็น1ในบริษัทเหล่านี้เช่นกัน
สุดท้ายอาณาจักร RS ก็หายวับในรูปมาร์เก็ตแคปเหลือเพียง 3.2 พันลบ.เท่านั้น (จากมาร์เก็ตแคป 2 หมื่นลบ.) แม้ว่าเบื้องต้นคาดว่าจะจบแล้วการถูก Forced Sell เมื่อวันศุกร์ (10 ม.ค.68) ที่ผ่านมาราคาหุ้น RS ปิดที่ 1.5 บ. ลดลง -17% ราคาร่วง 4 ฟลอร์ หรือราคาร่วงในรอบกว่า 12 ปี จากนี้ไป RS ภายใต้การกุมบังเหียนของ “เฮียฮ้อ” โอกาสจะยังเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่อันดับ 1 คงน้อยนิดแล้ว!!!!
ติดตามช่องทางมิติหุ้นเพื่อรับข่าวสารตลาดทุนได้ตามลิงค์ด้านล่าง
Web : https://www.mitihoon.com/
Facebook : https://www.facebook.com/mitihoon
Youtube : https://www.youtube.com/@mitihoonofficial7770
Tiktok : www.tiktok.com/@mitihoon
