Pi Daily ตลาดหุ้น Dow Jones คืนวันศุกร์ปิดลบ 696 จุด (-1.6%) หลังจากสหรัฐฯรายงานการจ้างงานมากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้กดดันดอกเบี้ยธนาคารกลางสหรัฐฯ

58

มิติหุ้น – ตลาดหุ้น Dow Jones คืนวันศุกร์ปิดลบ 696 จุด (-1.6%) หลังจากสหรัฐฯรายงานการจ้างงานมากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้กดดันดอกเบี้ยธนาคารกลางสหรัฐฯ ด้านราคาน้ำมันดิบ BRT ปิดบวกมากถึง 3.7% หลังจากนักลงทุนประเมินว่าอุปทานน้ำมันจะได้รับผลกระทบจากการคว่ำบาตรของสหรัฐฯที่มุ่งเป้าไปยังรัสเซีย

วันศุกร์ที่ผ่านมาสหรัฐฯรายงานการจ้างงานนอกภาคเกษตรพบว่าเพิ่มขึ้น 2.56 แสนรายดีกว่าที่ Bloomberg Consensus คาดไว้ที่ 1.64 แสนราย พร้อมกับอัตราการว่างงานที่ 4.1% ดีกว่าที่ Bloomberg Consensus คาดไว้ที่ 4.2% และลดลงจากเดือนก่อนหน้าที่ 4.2% ด้วยตัวเลขแรงงานที่ดีกว่านักวิเคราะห์คาดการณ์ได้กดดันให้อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯปรับตัวขึ้นอย่างมีนัยยะ พร้อมกับการแข็งค่าของ Dollar Index แต่ CME FED Watch ยังคงให้น้ำหนักเช่นเดิมกล่าวคือลดดอกเบี้ยเพียง 1 ครั้งในปี 25 โดย Sector ที่ Outperform สุดใน S&P500 ได้แก่พลังงาน (+0.3%) และ Underperform สุดได้แก่อสังหา (-2.5%) ด้วยอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯที่เร่งขึ้นต่อเนื่องจะเป็นปัจจัยบวกเชิงจิตวิทยาต่อกลุ่มธนาคารพาณิชย์ สัปดาห์นี้ให้จับตาค่าเงินบาทที่อาจกลับมาอ่อนค่าตามกระแสเงินทุนไหลกลับสหรัฐฯ แต่จะเป็นบวกระยะสั้นกับหุ้นในกลุ่มส่งออก (ITC TU) สำหรับตลาดหุ้นไทย YTD ปรับลงมาแล้ว 2.3% รับแรงกดดันเงินทุนไหลออกพร้อมกับความกังวลหุ้นขนาดกลางบางตัว ขณะที่แนวโน้มถัดไปก็เตรียมเผชิญแรงกดดันจากการมาของ Trump ตามนโยบายกีดกันการค้าระหว่างสหรัฐฯกับนานาประเทศที่อาจรวมถึงประเทศไทย ทำให้การฟื้นตัวยังเป็นไปอย่างจำกัดสำหรับตลาดหุ้นไทย แต่อย่างไรก็ตาม SET INDEX ที่ลงมาซื้อขายระดับ 1367 ด้วยค่า Forward PE ราว 14.2x นับเป็นระดับที่ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยในช่วง 15.5x เป็นระดับที่เหมาะสมกับการสะสมเบื้องต้นเพื่อลงทุนระยะกลางขึ้นไป เน้นหุ้นขนาดใหญ่ที่เป็นผู้นำอุตสาหกรรมและมีการเติบโตหลังจากนี้ อาทิ AOT CPALL TU MINT สัปดาห์นี้รอติดตามตัวเลขเศรษฐกิจประกอบไปด้วย (1) ดัชนีราคาผู้ผลิตของสหรัฐฯ (PPI) ในวันอังคาร Bloomberg Consensus ประเมินไว้ที่ 3.5%YoY , 0.4%MoM (2) เงินเฟ้อสหรัฐฯ (CPI) ในวันพุธ Bloomberg Consensus ประเมินไว้ที่ 2.9%YoY , 0.3%MoM (3) ยอดค้าปลีกสหรัฐฯในวันพฤหัสบดี Bloomberg Consensus ประเมินไว้ที่ 0.6%MoM ส่วนในประเทศรอติดตามผลประกอบการบริษัทจดทะเบียนที่จะทยอยรายงานออกมา ข้อมูลจาก Bloomberg ระบุว่าสัปดาห์นี้คาดว่าจะมี TISCO BBL KTC KTB รายงานสัปดาห์นี้ สัปดาห์นี้ประเมิน SET INDEX เคลื่อนไหวในกรอบ 1350 – 1395 ในเชิงกลยุทธ์การลงทุนหุ้นขนาดใหญ่หลายตัวที่พื้นฐานดีราคาปรับลงมาจนน่าสนใจอาจเป็นจังหวะเริ่มสะสมแต่เน้นถึงการลงทุนระยะกลางขึ้นไป อาทิ AOT CPALL TU MINT อย่างไรก็ตามสำหรับนักลงทุนระยะสั้นรับความเสี่ยงได้สูงแนะ Trading ในหุ้นธนาคารพาณิชย์ (BBL KBANK KTB SCB) ปัจจัยหนุนอัตราผลตอบแทนพันธบัตรปรับขึ้น กลุ่มน้ำมัน (PTTEP) ปัจจัยหนุนราคาน้ำมันปรับขึ้น

PTTEP (ซื้อ / ราคาเป้าหมาย 141.00 บาท)
คาดกำไรสุทธิ 4Q24 ที่ 1.75 หมื่นล้านบาท (-5%YoY, -2%QoQ) ชะลอตัวลงตามราคาน้ำมันดิบเป็นหลัก โดยราคาน้ำมันดิบดูไบเฉลี่ยประจำไตรมาส 4 ที่ 73.6 US$/bbl (-10%YoY, -4%QoQ) หลักจากที่ตัวเลขเศรษฐกิจของจีนชะลอตัว ส่งผลให้ราคาขายเฉลี่ยอยู่ที่ 45.6 US$/BOE (-6%YoY, -3%QoQ) แม้ว่าปริมาณการขายอยู่ที่ 506 KBOED (+7%YoY, +7%QoQ) เพิ่มขึ้นเนื่องจากกลับมาดำเนินการขุดเจาะหลังจากมีการปิดซ่อมบำรุงหลุมในอ่าวไทย แนวโน้มปี 2025 เราคาดว่าราคาน้ำมันดิบปรับตัวลงในกรอบ 65 – 75 US$/bbl โดยอุปทานที่เพิ่มขึ้นจากทั้ง OPEC+ และ Non-OPEC เป็นปัจจัยกดดันราคาน้ำมัน

BBL (ซื้อ / ราคาเป้าหมาย 170.00 บาท)
ชอบ BBL ด้วยงบดุลแข็งแกร่ง และ Valuation ที่ไม่แพงซื้อขายที่ 0.5x PBV’25E หากเทียบกับความสามารถในการทำกำไรในระยะยาว ด้วยภาวะเศรษฐกิจที่ฟื้นตัวเปาะบางทำให้การขยายสินเชื่อในปี 2024 ขยายตัวต่ำกว่าเป้าหมายเล็กน้อย แต่กำไรสุทธิยังเติบโตได้ 7.1% ในปี 2024 อย่างไรก็ดี คาดกำไรจะเติบโตชะตัวที่ 2.6%/4.4% ในปี 2025-26 ส่วนหนึ่งเพราะ NIM ปรับลดลงล้อกับการปรับลดอัตราดอกเบี้ย ด้าน ROE จะปรับเพิ่มขึ้นที่ 8.2% ในปี 2024 และ 8% ในปี 2025-26 และคาดอัตราผลตอบแทนเงินปันผลสูงที่ 5.3%-5.5% ในปี 2025-26

ติดตามช่องทางมิติหุ้นเพื่อรับข่าวสารตลาดทุนได้ตามลิงค์ด้านล่าง

Web : https://www.mitihoon.com/
Facebook : https://www.facebook.com/mitihoon
Youtube : https://www.youtube.com/@mitihoonofficial7770
Tiktok : www.tiktok.com/@mitihoon