มิติหุ้น- TOP โดยบล.ลิเบอเรเตอร์ ระบุว่า งบQ4/67 คาดว่าจะพลิกมีกลับมามีกำไรได้อีกครั้ง แยกตามธุรกิจดังนี้
กลุ่มโรงกลั่น คาดใช้กำลังการผลิต 110-112% ขณะที่ GRM ฟื้นตัว q-q จากเข้าสู่เทศกาลท่องเที่ยวหนุนให้ความต้องการใช้น้ำมันเครื่องบิน และดีเซล ดีขึ้นส่งผลให้ส่วนต่างราคาเพิ่มขึ้น 1.7 และ 1.5 เหรียญ/ บาร์เรลตามลำดับ ซึ่งคาดจะทำให้ GRM อยู่ที่ 5.2 เหรียญ/บาร์เรลจาก 3.7 เหรียญ/ บาร์เรล
กลุ่มอะโรเมติกส์ กลุ่ม TPX ใช้กำลังการผลิต 80% ขณะที่กลุ่ม LAB คาดใช้กำลังการผลิต 120-130% แต่คาด GIM จะลดเหลือ 1 เหรียญ/ บาร์เรล จาก 1.2 เหรียญ/ บาร์เรล
กลุ่ม Lube base คาดมีการใช้กำลังการผลิต 83-85% แต่ GIM ดีขึ้นจาก 0.5 เหรียญเป็น 1 เหรียญ/ บาร์เรล
เราคาดทั้งกลุ่ม GIM อยู่ที่ 7.2 เหรียญ/ บาร์เรลจาก 5.4 เหรียญ/บาร์เรล ขณะที่ต้นทุนอยู่ที่ 2.5 เหรียญจาก 1.9 เหรียญจากปกติ 4Q จะมีค่าใช้จ่ายมากกว่าปกติ คาดจะมีรายการพิเศษเกิดขึ้นมีขาดทุนจากสต็อก -1,873 ลบ. แต่จะมีการโอนกลับมูลค่าสินค้าราว 2,000 ลบ. และคาดจะมีขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยน -682 ลบ. ตามเงินบาทแข็งค่า และมีกำไรจากการป้องกันความเสี่ยง (Hedging) ราว 50 ลบ. คาดกำไรสุทธิ 2,333 ลบ. พลิกจากขาดทุน 4,218 ลบ.
แม้แนวโน้มการดำเนินงานฟื้นตัวตาม GRM ที่ดีขึ้นและคาดยังต่อเนื่องใน Q1/68 อย่างไรก็ตาม ประเด็น CFP ที่ทั้งต้องใส่เงินเพิ่มและความล่าช้าที่เกิดขึ้นอาจทำให้ความได้เปรียบของ TOP จะน้อยลงภายใต้อุปทานใหม่ที่เพิ่มขึ้น และสัดส่วนการใช้รถ EV ที่มากขึ้น
กลยุทธ์การลงทุนยังให้เล่นรอบตามการเหวี่ยงขึ้นลงของ GRM และราคาน้ำมันที่ปรับขึ้น ราคาเป้าหมายที่ 34 บาท
ติดตามช่องทางมิติหุ้นเพื่อรับข่าวสารตลาดทุนได้ตามลิงค์ด้านล่าง
Web : https://www.mitihoon.com/
Facebook : https://www.facebook.com/mitihoon
Youtube : https://www.youtube.com/@mitihoonofficial7770
Tiktok : www.tiktok.com/@mitihoon
