มิติหุ้น – นายพีระพงศ์ จรูญเอก ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) หรือ ORI ผู้พัฒนาธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ครบวงจร เปิดเผยถึงแนวนโยบายในการดำเนินธุรกิจภายใต้สถานการณ์การเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วจากสภาพเศรษฐกิจไทยในปัจจุบัน บริษัทออริจิ้นฯ และ บริษัทในเครือของออริจิ้นฯ มีกลยุทธ์ในการปรับตัวและต่อยอดธุรกิจ ผ่านโมเดลต่างๆ อย่างต่อเนื่อง ควบคู่ไปกับการขยายธุรกิจทั้งเชิงกว้างและเชิงลึก รวมถึงเดินหน้ากลยุทธ์ “Open Platform” ร่วมทุน (Joint Venture: JV) กับพาร์ทเนอร์ทั้งในประเทศและต่างประเทศ รวมทั้งแลนด์ลอร์ดเจ้าของที่ดินกระจายพอร์ตในหัวเมืองหลักต่างๆ ซึ่งในปี 2567 ยังคงมีโครงการร่วมทุนใหม่ รวม 14 โครงการ ทั้งโครงการคอนโดมิเนียม โครงการบ้านจัดสรร โรงแรม และคลังสินค้า ทำให้สิ้นปี 2567 กลุ่มบริษัท มีโครงการร่วมทุนรวม 119 โครงการ มูลค่ารวม 186,960 ล้านบาท
กว่า 7 ปีที่ ออริจิ้น เริ่มมี Platform ร่วมทุน โดยมีสัดส่วนของพาร์ทเนอร์แบ่งเป็น พาร์ทเนอร์สัญชาติญี่ปุ่น 72%, ไทย 24% และเกาหลี 4% โดยสัญชาติญี่ปุ่นหลักๆ คือกลุ่ม บริษัท โนมุระ เรียลเอสเตท ดีเวลล็อปเมนท์ พันธมิตรต่างชาติจากญี่ปุ่นรายแรกของออริจิ้น ที่ร่วมลงทุนมาอย่างยาวนานนับตั้งแต่กลางปี 2560 จนถึงปัจจุบันมีโครงการที่เกิดจากการร่วมทุนทั้งสิ้น 27 โครงการ มูลค่ารวม 62,671 ล้านบาท และ บริษัท โตคิว แลนด์ เอเชีย จำกัด บริษัทพัฒนาและลงทุนด้านอสังหาริมทรัพย์ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ในเครือโตคิว แลนด์ คอร์เปอเรชั่น หนึ่งในผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์จากประเทศญี่ปุ่น มีโครงการร่วมทุนร่วมกันทั้งสิ้นมากกว่า 10 โครงการ นอกจากนี้ บริษัท โซเท็ตซึ เรียล เอสเตท จำกัด (โซเท็ตซึ ฟุโดซัง) เป็นบริษัทในเครือ โซเท็ตซึ กรุ๊ป (Sotetsu GROUP) ประกอบธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ในเครือโซเท็ตซึ กรุ๊ป โดยล่าสุดเดือนธันวาคม ได้เข้าร่วมทุนกับกลุ่มบริษัทฯ ขยายการลงทุนสู่การพัฒนาโครงการแนวราบ โครงการ เบลกราเวีย เอ็กซ์คลูซีฟ ราชพฤกษ์-พระราม 5 ตั้งอยู่บนถนนนครอินทร์ พัฒนาในรูปแบบ Private Residences เพียง 35 ยูนิต ที่ได้แรงบันดาลใจการออกแบบสไตล์อังกฤษ ในราคาเริ่ม 39 ล้านบาท* มูลค่าโครงการรวม 1,400 ล้านบาท
ขณะที่พันธมิตรสัญชาติเกาหลี คือ บริษัท จีเอส เอ็นจิเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น คอร์ปอเรชั่น จำกัด(GS E&C) กลุ่มธุรกิจอุตสาหกรรมก่อสร้างและอสังหาริมทรัพย์ระดับโลกของเกาหลีใต้ ที่ลงทุนร่วมกันมาตั้งแต่ต้นปี 2563 ปัจจุบันร่วมพัฒนาโครงการร่วมกันทั้งสิ้น 3 โครงการ มูลค่า 5,600 ล้านบาท และยังมีพาร์ทเนอร์ในไทยอีกหลายรายที่พัฒนาโครงการร่วมกัน อาทิ บริษัท บุญภา 2020 จำกัด และ บริษัท เกษมบัณฑิต จำกัด เป็นต้น
ผู้บริหารของบริษัท ออริจิ้นฯ ยังกล่าวด้วยว่า การขับเคลื่อนธุรกิจผ่านความร่วมมือกับพาร์ทเนอร์เป็นอีกหนึ่งสูตรธุรกิจที่จะช่วยสร้างการเติบโตร่วมกันอย่างยั่งยืนให้กับทั้งสององค์กร แบบ Win-Win ถือเป็นการเติมเต็มซึ่งกันและกันทั้งด้านเงินทุน ประสบการณ์ การแลกเปลี่ยน Know How การพัฒนาที่อยู่อาศัยให้ตอบโจทย์การใช้ชีวิตแห่งอนาคต ขณะเดียวกันยังสะท้อนถึงความไว้วางใจจากพันธมิตร ที่มีความเชื่อมั่นในศักยภาพและความแข็งแกร่งของ ออริจิ้น ในหลายๆ ด้าน ทั้งทีมงานมืออาชีพ การพัฒนาคุณภาพสินค้า การพัฒนาแบรนด์ รวมถึง การให้ความสำคัญข้อมูล Insight ของผู้บริโภค เพื่อให้เข้าถึงกลุ่มลูกค้าเป้าหมายทั้งในระยะสั้นและระยะยาว
“เราพร้อมจะสร้างโอกาสใหม่ให้กับเครือ ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ ในอนาคต ซึ่งยังมีการลงทุนโครงการอสังหาฯ ใหม่ๆ ทั้งที่ ออริจิ้น ลงทุนเอง 100% และ โครงการที่ Joint Venture กับพาร์ทเนอร์ ซึ่งจะทยอยเปิดตัวเพิ่มต่อเนื่องรวมถึงการแถลงแผนธุรกิจปี 2568 ในเร็วๆ นี้” นายพีระพงศ์ กล่าวในตอนท้าย
ติดตามช่องทางมิติหุ้นเพื่อรับข่าวสารตลาดทุนได้ตามลิงค์ด้านล่าง
Web : https://www.mitihoon.com/
Facebook : https://www.facebook.com/mitihoon
Youtube : https://www.youtube.com/@mitihoonofficial7770
Tiktok : www.tiktok.com/@mitihoon