The 1 Insight เผยกลยุทธ์ปลุกยอดขายรับปี 2025 แนะธุรกิจเจาะกลุ่มผู้บริโภค “Gen Y-Wealth เจนวายล่ำซำ” พร้อมใช้จ่ายเพื่อภาพลักษณ์ ประสบการณ์ และความสะดวกสบาย

17

มิติหุ้น  –  The 1 Insight ชี้ทางธุรกิจปลุกยอดขายรับปี 2025 เผยกลยุทธ์เจาะกลุ่มผู้บริโภค “Gen Y-Wealth เจนวายล่ำซำ” ซึ่งก็คือกลุ่ม Gen Y (อายุ 25-40 ปี) ที่อยู่ใน Wealth Segment ของประเทศไทย โดยกลุ่ม Gen Y-Wealth มีการใช้จ่ายสูงกว่า 7 เท่าเมื่อเทียบกับ Gen Y ทั่วไป จึงเป็นลูกค้า High Value และ Premium Consumers อันเป็นโอกาสทองสำหรับหลากหลายกลุ่มธุรกิจในปัจจุบันและอีกหลายทศวรรษต่อจากนี้ ทั้งนี้ รายงานยังเผย 3 อินไซต์หลักที่มีอิทธิพลต่อการตัดสินใจใช้จ่ายของกลุ่ม Gen Y-Wealth ได้แก่ 1) พร้อมจ่ายเพื่อ “ภาพลักษณ์” (Image-Driven Spending) โดยเฉพาะในหมวดแฟชั่นลักชัวรี่และบิวตี้ 2) เหนือระดับด้วย “ประสบการณ์” (Prestige Experience) มากกว่าเพียงการซื้อสินค้า และ 3) ช้อปได้ “ไร้รอยต่อ” (Omni-Centric & Phygital) เน้นความสะดวกสบาย ไร้ข้อจำกัด

ปฏิเสธไม่ได้ว่า Gen Y เป็นกลุ่มผู้ขับเคลื่อนเศรษฐกิจหลักในปัจจุบัน โดยภายในปี 2025 นี้ ชาว Gen Y จะครองสัดส่วนมากถึง 75% ของวัยแรงงานทั่วโลก ความสามารถในการหารายได้ทำให้พวกเขากลายเป็นกลุ่มผู้บริโภคสำคัญในตลาด อย่างไรก็ดี การวิเคราะห์เชิงลึกจาก The 1 Insight ยังเผยให้เห็นถึงกลุ่มย่อยที่เรียกว่า “Gen Y-Wealth เจนวายล่ำซำ” ซึ่งแม้จะคิดเป็นเพียง 1% ของ Gen Y ทั้งหมด แต่กลับมีการใช้จ่ายที่สูงกว่ากลุ่มอื่นๆ  อย่างมีนัยสำคัญ โดยคิดเป็น 30% ของการใช้จ่ายรวม โดยกลุ่ม Gen Y-Wealth ยังมีการใช้จ่ายเฉลี่ยมากกว่า Gen Y ทั่วไปถึง 7 เท่า สะท้อนให้เห็นว่ากลุ่มนี้มีศักยภาพในการจับจ่ายและสร้างผลกระทบต่อเศรษฐกิจในระดับสูง

กลุ่ม Gen Y-Wealth ประกอบไปด้วยทั้งกลุ่มผู้สืบทอดทรัพย์สินจากครอบครัวรุ่น Silent Generation และ Baby Boomersและกลุ่มนักธุรกิจที่สร้างตัวเองจากเศรษฐกิจใหม่ (New Economy) เช่น ธุรกิจ E-commerce และเทคโนโลยี นอกจากนี้ Gen Y กำลังจะเป็นผู้รับประโยชน์จากปรากฏการณ์ส่งต่อทรัพย์สินระดับโลกที่เรียกว่า Great Wealth Transfer ซึ่งมีมูลค่าหลายล้านล้านดอลลาร์ ส่งผลให้ Gen Y มีศักยภาพที่จะกลายเป็นหนึ่งในรุ่นที่ร่ำรวยที่สุดในประวัติศาสตร์

  1. พร้อมจ่ายเพื่อ “ภาพลักษณ์” (Image-Driven Spending)

แรงจูงใจหลักของกลุ่ม Gen Y-Wealth สอดคล้องกับ Gen Y ที่เน้นการสร้างภาพลักษณ์มากกว่าช่วงวัยอื่น ๆ ซึ่งสอดคล้องกับแนวคิด “Generation ME” ของนักจิตวิทยา โดยเฉพาะเมื่อพวกเขาเติบโตมากับโซเชียลมีเดียที่การนำเสนอชีวิตและเปรียบเทียบกับผู้อื่นเป็นเรื่องปกติ ที่สำคัญคือ กลุ่ม Gen Y-Wealth มีความพร้อมทางการเงินที่จะตอบสนองความต้องการดังกล่าว ทำให้พวกเขาเป็นกลุ่ม Premium Consumers ที่ทรงอิทธิพลอย่างมากในตลาดปัจจุบัน โดยสัดส่วนการใช้จ่าย 50% ของกลุ่ม Gen Y-Wealth อยู่ในหมวดสินค้าแฟชั่นลักชัวรี่และบิวตี้ โดยมีการใช้จ่ายในหมวดแฟชั่นลักชัวรี่มากกว่ากลุ่มอื่นๆ 15 เท่า และในหมวดบิวตี้มากกว่าถึง 4 เท่า

ในส่วนของ 3 อันดับสินค้าแฟชั่นลักชัวรี่ขายดีในกลุ่ม Gen Y-Wealth ได้แก่ Luxury Watch, Fine Jewelry, Designer Fashion โดยส่วนใหญ่นิยมช้อปปิ้งในห้างหรู อาทิเช่น เซ็นทรัล เอ็มบาสซี และห้างสรรพสินค้าอื่นๆ ในระดับเดียวกัน ซึ่งมีบทบาทสำคัญในไลฟ์สไตล์ของกลุ่ม Gen Y-Wealth ซึ่งมีการใช้จ่ายรวมสูงสุดจากทุกช่วงวัยที่สถานที่ดังกล่าว ซึ่งเต็มไปด้วยแบรนด์ลักชัวรี่ระดับโลก นอกจากนั้น ยังพบว่ามีกลุ่มที่ชื่นชอบกลุ่มแบรนด์ Quiet Luxury ที่ยังคงมีการเติบโตโดดเด่นและมอบภาพลักษณ์หรูในอีกระดับหนึ่ง นอกจากนี้ จากฐานข้อมูล The 1 พบว่า 40% ของกลุ่ม Gen Y-Wealth นั้นเป็นคุณพ่อคุณแม่ ดังนั้น พฤติกรรมการใช้จ่ายในหมวดแฟชั่นจึงรวมถึงแฟชั่นสำหรับเด็กด้วย โดยกลุ่ม Gen Y-Wealth มีการใช้จ่ายกับเสื้อผ้าสำหรับเด็กมากกว่าคนรุ่นอื่นๆ ถึง 2 เท่า

ในส่วนของ 3 อันดับสินค้าบิวตี้ขายดีในกลุ่ม Gen Y-Wealth ได้แก่ Shimmer Pressed Powder, Intensive Wrinkle Treatment, Luxury Perfume สะท้อนถึงความสำคัญของความงามในฐานะส่วนหนึ่งของการแสดงออกตัวตนของพวกเขา สำหรับคนในช่วงวัยนี้ การลงทุนดูแลความงามด้วยสินค้าบิวตี้เป็นการสร้าง Personal Branding ที่แข็งแกร่ง พร้อมด้วยความตระหนักรู้ถึงคุณค่าของมอบสิ่งดีๆ ให้กับตนเอง

  1. เหนือกว่าด้วย “ประสบการณ์” (Prestige Experience)

กลุ่ม Gen Y-Wealth ให้ความสำคัญกับประสบการณ์มากกว่ากลุ่ม Gen Y ทั่วไปอย่างชัดเจน โดยกลุ่ม Gen Y-Wealth มีการใช้จ่ายในการท่องเที่ยวต่างประเทศมากกว่ากลุ่มอื่นๆ ถึง 4 เท่า นอกจากนี้ การเลือกใช้บริการที่หรูหรา เช่น โรงแรมระดับโลก หรือการเข้าร่วมกิจกรรมพิเศษ เป็นสิ่งที่กลุ่มนี้ให้ความสำคัญสูง เพราะถือว่าเป็นการสร้างประสบการณ์ที่มีค่าและน่าจดจำ มากกว่าการใช้จ่ายเพื่อซื้อสินค้าเพียงอย่างเดียว ดังนั้น แบรนด์ที่ต้องการดึงดูดกลุ่ม Gen Y-Wealth จึงควรเน้นการมอบประสบการณ์พิเศษที่ตอบสนองความต้องการในด้านความหรูหราและความแตกต่าง เพื่อสร้างความประทับใจที่เหนือกว่ากลุ่ม Gen Y ทั่วไป

จากข้อมูลชี้ว่า ชาว Gen Y-Wealth ชื่นชอบการเป็นสมาชิกของ Privilege Club ต่างๆ โดยมีจำนวนสมาชิกสูงเป็นอันดับ 2 รองจาก Gen X ในโปรแกรม The 1 Exclusive และเป็นหนึ่งในกลุ่มที่มีสัดส่วนสมาชิกสูงในโปรแกรม Cenfinity ซึ่งเป็นโปรแกรมพิเศษสำหรับกลุ่ม Top Customers ลูกค้าคนสำคัญของห้างเซ็นทรัล ห้างโรบินสัน และเซ็นทรัล เอ็มบาสซี โดยทั้งสองโปรแกรมดังกล่าวเป็นผู้นำด้านการดูแลลูกค้า Wealth Segment ของไทยที่มอบสิทธิประโยชน์และบริการพิเศษทั้งในแง่ของ Dining, Hospitality, Travel, Wellness และ Lifestyle เรียกได้ว่าเป็นแรงจูงใจที่ตรงจุดสำหรับกลุ่ม Gen Y-Wealth ที่ให้ความสำคัญกับประสบการณ์เหนือระดับเป็นอย่างมาก อาทิ การช้อปปิ้งแบบเหนือกว่าด้วยสิทธิประโยชน์จากการเป็นสมาชิก ที่ไม่ได้เป็นเพียงเรื่องของส่วนลด แต่ยังได้รับการบริการแบบพิเศษอย่างแท้จริงจาก Personal Shoppers ไปจนถึงการบริการลิมูซีนในห้างต่างประเทศทั่วยุโรป สะท้อนให้เห็นว่าสำหรับกลุ่ม Gen Y-Wealth แบรนด์ไม่สามารถเข้าถึงของกลุ่มดังกล่าวด้วยการโฆษณาสรรพคุณสินค้าตรงๆ เพียงอย่างเดียว ทว่าอาจนำเสนอแบรนด์หรือผลิตภัณฑ์ในฐานะผู้มอบประสบการณ์ที่ช่วยเสริมสร้างภาพลักษณ์และสถานะทางสังคมของพวกเขา

  1. ช้อปได้ “ไร้รอยต่อ” (Omni-Centric & Phygital)

เนื่องจากเติบโตมาพร้อมกับยุคดิจิตัล กลุ่ม Gen Y-Wealth จึงมีความคุ้นเคยกับทั้งโลก Physical และ Digital ดังนั้นแบรนด์จึงต้องมอบประสบการณ์ “Phygital” ที่เชื่อมโยงโลกจริงและโลกดิจิตัลเข้าไว้อย่างไร้รอยต่อ โดยผู้บริโภคกลุ่มนี้ใช้จ่ายผ่าน E-Commerce และ Personal Shopper มากกว่า 4 เท่า เมื่อเทียบกับกลุ่มอื่นๆ เพื่อรับคำแนะนำหรือทำการซื้ออย่างสะดวกสบายได้ในทันที รวมถึงนิยมใช้บริการแอปพลิเคชั่นเดลิเวอรี่ เช่น LINE MAN โดยรีวอร์ดส่วนลดของ LINE MAN เรียกได้ว่าเป็นหนึ่งในแคมเปญบน The 1 APP ที่ได้รับการแลกสูงสุดและได้รับเสียงตอบรับที่ดีจากกลุ่มสมาชิก The 1 Exclusive

ส่วนการช้อปที่หน้าร้าน ก็ยังคงให้ความสำคัญกับความสะดวกสบายสูงสุด โดยกลุ่ม Gen Y-Wealth นิยมช้อปในช่วงวันธรรมดาระหว่างวันมากกว่า 2 เท่า เมื่อเทียบกับกลุ่มอื่นๆ สะท้อนถึงความต้องการประสบการณ์ที่สะดวกสบายและเป็นส่วนตัว โดยไม่ได้จำกัดว่าจะเป็นช่องทาง Physical หรือ Digital นั่นเอง

ติดตามช่องทางมิติหุ้นเพื่อรับข่าวสารตลาดทุนได้ตามลิงค์ด้านล่าง

Web : https://www.mitihoon.com/
Facebook : https://www.facebook.com/mitihoon
Youtube : https://www.youtube.com/@mitihoonofficial7770
Tiktok : www.tiktok.com/@mitihoon