มิติหุ้น – Trend Spotter
• ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ร่วงลงมาปิดแดนลบ หลัง FOMC มีมติเอกฉันท์คงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับ 4.25-4.50% ตามตลาดคาด โดยในแถลงการณ์หลังการประชุม Fed ได้มีท่าทีที่ระมัดระวังเกี่ยวกับเงินเฟ้อที่ยังคงสูง พร้อมระบุว่า อัตราการว่างงานยังคงอยู่ในระดับต่ำและ ภาวะตลาดแรงงานยังคงแข็งแกร่ง
ด้านนายเจอโรม พาวเวล ประธาน Fed ได้ส่งสัญญาณว่า Fed จะไม่รีบร้อนในการปรับอัตราดอกเบี้ย ในช่วงเวลาที่เศรษฐกิจยังคงแข็งแกร่ง
ตลาดหุ้นสหรัฐยังถูกกดดันจากหุ้น Nvidia ปรับตัวลดลง หลังมี รายงานว่ารัฐบาลชุดทรัมป์ได้เตรียมหารือเกี่ยวกับการจำกัดการขายชิปของ Nvidia ให้จีน จากความกังวลต่อโมเดล AI ของ DeepSeek
ด้านราคาน้ำมันดิบ WTI ร่วงลงมา -1.6% หลังสินค้าคงคลังน้ำมันดิบ (EIA) เพิ่มขึ้น 3.46 ล้านบาร์เรล สูงกว่าที่ตลาดคาดว่าจะเพิ่มขึ้น 2.2 ล้านบาร์เรล และ ตลาดติดตามผลกระทบมาตรการกำแพงภาษีของทรัมป์ หลังจะมีผลบังคับใช้กับแคนาดาและเม็กซิโกในอัตรา 25% ในวันเสาร์นี้ (1 ก.พ.)
สำหรับงบการเงินบริษัทต่างประเทศ
Microsoft รายงานกำไรและรายได้สูงกว่าคาด โดยมี EPS อยู่ที่ $3.23 (vs. คาดไว้ที่ $3.11) แต่ธุรกิจ Azure cloud มีการเติบโตที่ต่ำกว่าคาด และ บริษัทให้ Guidance รายได้รายไตรมาสต่ำกว่าที่ตลาดคาดไว้
META รายงานกำไรและรายได้สูงกว่าคาด โดยมียอดขายเพิ่มขึ้น 21% yoy ในขณะที่กำไรสุทธิเติบโต 49% yoy นอกจากนี้บริษัทมี EPS อยู่ที่ $8.02 (vs. คาดไว้ที่ $6.77)
TESLA รายงานกำไรและรายได้น้อยกว่าคาด โดยมี EPS อยู่ที่ $0.73 (vs. คาดไว้ $0.76) และรายได้รวม อยู่ที่ 2.57 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ (vs. คาดไว้ที่ 2.73 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ) เนื่องจากรายได้กลุ่มรถยนต์ลดลง 8% yoy
• SET Index : เราคาดว่า SET Index จะแกว่งผันผวนในกรอบ 1330-1360 เราเชื่อว่าตลาดอาจไม่ผันผวนมากนักสำหรับปัจจัยต่างประเทศ เนื่องจาก
1) อัตราดอกเบี้ยนโยบายสหรัฐเป็นไปตามที่ตลาดคาดที่ 4.50%
2) ตลาดหุ้นจีน, ตลาดหุ้นฮ่องกง และเกาหลีใต้ปิดทำการวันนี้
วันนี้ เราแนะนำระมัดระวังหุ้นกลุ่มอิเล็กทรอนิกส์ ตาม NVIDIA ที่ปิดลบเมื่อคืน และ กลุ่ม Magnificent 7 ที่ปิดบวกลบผสมผสาน
สำหรับปัจจัยในประเทศ คณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (BOI) ได้อนุมัติส่งเสริมการลงทุนของ TikTok รวมกว่า 1.7 แสนล้านบาท ได้แก่ Data Hosting รวมทั้ง Server และอุปกรณ์ 3 พื้นที่สำคัญในประเทศไทย และกิจการ AI Cloud service
สำหรับงบในประเทศ
SCC รายงานผลประกอบการ 4Q24 ขาดทุนสุทธิ 512 ล้านบาท น้อยกว่าเราและ Bloomberg consensus คาดไว้ที่ราว 0.7-1.7 พันล้านบาท หากไม่รวมกำไรจากสต็อก ขาดทุนปกติหลักอยู่ที่ -1.25 พันล้านบาท (vs. -160 ล้านบาทใน 3Q24) เนื่องจากธุรกิจบรรจุภัณฑ์ และ Smart living พลิกเป็นขาดทุนใน 4Q24 ในขณะที่ธุรกิจ Chemical ขาดทุนมาก เนื่องจาก PE/PP spread ที่อ่อนแอ, การหยุดซ่อมฉุกเฉินของ VCM หลังเกิดเหตุระเบิดส่งผลให้ปริมาณผลิต PVC ลดลง และการขาดสุทธิ LSP อย่างไรก็ดี อัตราการจ่ายเงินปันผลของ SCC อยู่ที่ 95% สูงกว่าเราประมาณไว้ที่ 40% ซึ่งอาจช่วยหนุนราคาหุ้น
หุ้นแนะนำ
KTB : เราแนะนำ Trading จาก fund flow ที่ไหลเข้าในกลุ่ม high dividend yield โดยเราเชื่อว่าคุณภาพสินทรัพย์จะดีขึ้น และอัตราการสำรองหนี้สูญจะลดลงใน 2025-2026F
(Take profit: 23.4 / Stop loss: 22.6)
COM7 : เราแนะนำ trading ลุ้นกลุ่ม Magnificent7 อย่าง Apple ที่จะประกาศงบคืนนี้ เราเชื่อว่า COM7 มียอดขายมือถือแข็งแกร่งได้แรงหนุนจากการรับรู้ Iphone 16 ที่แข็งแกร่ง เราเชื่อว่ามูลค่าหุ้น COM7 รับรู้ความกังวลเกี่ยวกับแอพลิเคชั่นบนมือถือแบรนด์ Oppo/Realme
(Take profit : 25.0 / Stop loss : 22.0)
#MacroWealthResearch
#CGSInternational
ติดตามช่องทางมิติหุ้นเพื่อรับข่าวสารตลาดทุนได้ตามลิงค์ด้านล่าง
Web : https://www.mitihoon.com/
Facebook : https://www.facebook.com/mitihoon
Youtube : https://www.youtube.com/@mitihoonofficial7770
Tiktok : www.tiktok.com/@mitihoon
