CGSI : Trend Spotter

7

มิติหุ้น – Trend Spotter
• สรุปภาพรวมตลาด: ตลาดหุ้นสหรัฐฯ รีบาวด์ปิดบวก ขานรับปธน. ทรัมป์ ประกาศชะลอการเรียกเก็บภาษีศุลกากรจากเม็กซิโกเป็นเวลา 1 เดือน หลังคลอเดีย เชมบัม ปธน. แห่งเม็กซิโก บรรลุข้อตกลงยินยอมส่งทหารไปประจำการบริเวณชายแดนเม็กซิโก-สหรัฐ เพื่อแก้ไขปัญหาลักลอบขนส่งยา ส่งผลให้ตลาดคลายความกังวลต่อสงครามการค้าที่อาจเกิดขึ้น (VIX แตะทำนิวไฮในรอบ 1 สัปดาห์) และ กองทุน iShares MSCI Mexico ETF (EWW) ฟื้นตัวขึ้นมาและปิดบวกมากกว่า 2%

ตลาดหุ้นสหรัฐยังมีแรงสนับสนุนจากรายงานตัวเลขเศรษฐกิจที่สดใส ส่งผลให้ดอลลาร์แข็งค่า โดยดัชนี PMI ภาคการผลิตเดือนม.ค. พุ่งขึ้นมาอยู่ในภาวะขยายตัวในรอบหลายปี จากความคาดหวังต่อมาตรการที่จะเอื้อต่อกลุ่มธุรกิจสหรัฐของทรัมป์ รวมถึงตัวเลขการใช้จ่ายด้านการก่อสร้างเพิ่มขึ้น 0.5% mom สูงกว่าที่ตลาดคาดว่าจะคงเดิมจากเดือนพ.ย. ที่ 0.2% ขณะที่ตัวเลขเศรษฐกิจสำคัญอื่น ติดตามตำแหน่งว่างงานเปิดใหม่จาก JOLTS เดือนธ.ค. วันนี้

การเลื่อนเก็บภาษีสินค้านำเข้าจากเม็กซิโก กอปรกับ มติ “คง” นโยบายปรับลดกำลังการผลิตน้ำมันของ OPEC+ ตามที่ตลาดคาด หรือลดลงมาที่ 5.86 ล้าน bpd ส่งผลให้ราคาน้ำมันดิบ WTI ปิด +0.9% โดยมติการปรับลดรอบแรกที่มาจากกลุ่ม OPEC+ 2 ล้าน bpd และ โดยสมัครใจของสมาชิก 8 ชาติ 1.65 ล้าน bpd จะสิ้นสุดลงในปี 2026 และมติการปรับลดรอบ 2 โดยสมัครใจจำนวน 2.2 ล้าน bpd สิ้นสุดในช่วง 2Q25 ติดตามการประชุม JMMC ครั้งต่อไปในวันที่ 5 เม.ย.

ความไม่แน่นอนนโยบายการค้าของทรัมป์ ส่งผลให้สินทรัพย์ปอดภัยอย่างราคาทองคำ +0.8% เช่นเดียวกับทองคำฟิวเจอร์ที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น รวมถึงราคาทองสปอตแตะทำนิวไฮระหว่างวัน

• SET Index : เราคาดว่า SET Index มีโอกาส Technical rebound บริเวณ 1,295-1,320 จุด หลังดัชนีร่วงลงมาแรงวานนี้ แต่ยังสามารถยืนเหนือระดับ 1,280 จุดได้

เรามองว่าตลาดหุ้นไทยวันนี้จะมีแรงสนับสนุนจาก sentiment บวกตามตลาดหุ้นสหรัฐ หลังทรัมป์ชะลอการเรียกเก็บภาษีศุลกากรจากเม็กซิโกออกไป 1 เดือน ภายหลังบรรลุข้อตกลงกับปธน. เม็กซิโก บ่งชี้ว่าการเรียกเก็บภาษีของทรัมป์อาจเป็นเครื่องมือเพื่อการเจรจาข้อตกลงระหว่างประเทศเท่านั้น

หากไทยได้รับผลกระทบจากมาตรการเรียกเก็บภาษีสินค้านำเข้าของทรัมป์เช่นเดียวกัน หลังไทยมีการเกินดุลการค้ากับสหรัฐเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง เราจึงแนะนำหลีกเลี่ยงการลงทุนในหุ้นกลุ่มอิเล็กทรอนิกส์ที่เป็นสินค้าส่งออกของไทยไปยังสหรัฐมากที่สุด

ขณะเดียวกัน เราแนะนำหุ้นกลุ่ม Domestic play ที่ได้รับประโยชน์จากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐ และ หุ้นที่ได้รับอานิสงค์บวกจาก Data Centre-การย้ายฐานการผลิต (WHA-AMATA) ท่ามกลางสถานการณ์ที่ปัจจัยต่างประเทศยังคงมีความไม่แน่นอน

ติดตามการประชุมครม. วันนี้ ที่จะมีวาระเสนอขออนุมัติดำเนินโครงการรถไฟความเร็วสูง กรุงเทพฯ – หนองคาย เฟส 2 เชื่อมจีน วงเงิน 3.4 แสนล้านบาท

• หุ้นแนะนำ
CRC : เราเชื่อว่า CRC จะเป็นตัวเลือกที่ดีที่โดดเด่นที่สุดสำหรับปี FY25 เพราะการปรับลดอัตราดอกเบี้ยนอกจากจะทำให้ความต้องการสินค้าฟุ่มเฟือยเพิ่มขึ้นแล้ว ยังช่วยลดดอกเบี้ยจ่ายของ CRC อย่างมีนัยสำคัญ ขณะที่มาตรการ Easy E-receipt ของรัฐบาลน่าจะช่วยหนุนราคาหุ้น

(Take profit : 34.25 / Stop loss : 32.00)

BBL : BBL ทำกำไรสุทธิ 1.04 หมื่นล้านบาท ใน 4Q24 สอดคล้องกับประมาณการของเรา และมีอัตราส่วน NPL ลดลงจาก 3.94% ใน 3Q24 เป็น 3.45% ใน 4Q24 เนื่องจากมีการปรับชั้นของสินเชื่อธุรกิจจากสินเชื่อ Stage 3 เป็น Stage 2

(Take profit : 154.5 / Stop loss : 151.0)

#MacroWealthResearch
#CGSInternational

ติดตามช่องทางมิติหุ้นเพื่อรับข่าวสารตลาดทุนได้ตามลิงค์ด้านล่าง

Web : https://www.mitihoon.com/
Facebook : https://www.facebook.com/mitihoon
Youtube : https://www.youtube.com/@mitihoonofficial7770
Tiktok : www.tiktok.com/@mitihoon