ผู้บริโภค เครือข่ายนักวิชาการและสื่อมวลชน ออกมาเรียกร้องความเป็นธรรม คดีกรรมการ “พิรงรอง” ถูก “ทรูไอดี” ฟ้องศาลอาญาทุจริตฯ หลังทำหน้าที่คุ้มครองผู้บริโภค ปมออกหนังสือเตือนทีวีดิจิทัล ลุ้นชี้ชะตาวันนี้ ถ้าศาลไม่ให้ประกันตัว หลุดจากตำแหน่ง กสทช.ทันที!

61

มิติหุ้น – สภาองค์กรผู้บริโภค เผยว่า จากกรณีที่ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง นัดฟังคำพิพากษาในวันพรุ่งนี้ ( 6 กุมภาพันธ์ 2568) ในคดีที่บริษัท ทรูดิจิทัล กรุ๊ป จำกัด ฟ้องศาสตราจารย์กิตติคุณ ดร.พิรงรอง รามสูต กรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) ด้านกิจการโทรทัศน์ ซึ่งกลุ่มนักวิชาการและภาคประชาชน เห็นว่า เป็นคดีตัวอย่างที่ ‘กสทช.’ ทำหน้าที่คุ้มครองผู้บริโภคแต่ถูกฟ้องร้อง

สืบเนื่องจากที่มีผู้บริโภคร้องเรียนมาที่สำนักงาน กสทช. ในปี 2566 หลังจากพบว่าบนแพลตฟอร์มของแอปพลิเคชันทรูไอดี มีการโฆษณาแทรกในช่องทีวีดิจิทัลของผู้ได้รับใบอนุญาตจาก กสทช. ซึ่งบริษัทน้าทรูดิจิทัล กรุ๊ป ในฐานะผู้ให้บริการแอปฯ ทรูไอดี ได้นำสัญญาณมาถ่ายทอดในแพลตฟอร์มของตนเอง

ต่อมา คณะอนุกรรมการพิจารณาอนุญาตด้านกิจการโทรทัศน์ ได้พิจารณาและเสนอความเห็นในเรื่องดังกล่าว และสำนักงาน กสทช. ได้ออกหนังสือแจ้งไปยังผู้ประกอบการที่ได้รับใบอนุญาตประกอบกิจการโทรทัศน์ ให้ตรวจสอบว่า มีการนำช่องรายการที่ได้รับอนุญาตไปออกอากาศผ่านโครงข่ายใดหรือนำไปแพร่ภาพในแพลตฟอร์มใด และให้ปฏิบัติตามประกาศ กสทช.และเงื่อนไขแนบท้ายใบอนุญาตที่เกี่ยวข้องโดยเคร่งครัด ตามหลัก “มัสแครี่” (Must Carry) ที่มีโฆษณาแทรกไม่ได้ แม้หนังสือดังกล่าว ไม่ได้ส่งตรงไปยังบริษัททรูดิจิทัลฯ เนื่องจากไม่ได้เป็นผู้ได้รับใบอนุญาต และไม่อยู่ภายใต้การกำกับดูแลของ กสทช. แต่บริษัททรูดิจิทัลฯ อ้างว่า การออกหนังสือดังกล่าวทำให้ตนเองเสียหาย จึงนำมาซึ่งการฟ้องร้อง กสทช. พิรงรอง รามสูต

ในคำร้องของบริษัททรูดิจิทัลฯ อ้างว่า หนังสือดังกล่าวเป็นเหตุที่ทำให้ตนเองได้รับความเสียหาย เนื่องจากผู้รับใบอนุญาตประเภทช่องรายการโทรทัศน์ อาจทำการระงับการเผยแพร่รายการต่าง ๆ ผ่านทางแพลตฟอร์มของตน โดยในคำร้องได้อ้างว่าทางสำนักงาน กสทช. ยังไม่มีระเบียบเฉพาะในการกำกับดูแลกิจการ OTT (Over-The-Top หรือ การให้บริการสตรีมเนื้อหาผ่านโครงข่ายอินเทอร์เน็ต)

อย่างไรก็ตาม กสทช. พิรงรอง ยืนยันว่า การออกหนังสือของสำนักงาน กสทช. เป็นการทำตามหน้าที่คุ้มครองผู้บริโภค ที่ได้รับผลกระทบจากการ ‘แทรกโฆษณา’ ในบนแพลตฟอร์มทรูไอดีในการรับชมเนื้อหาตามประกาศมัสต์ แครี่ และดูแลลิขสิทธิ์เนื้อหาของผู้ให้บริการโทรทัศน์ดิจิทัล เพื่อให้เกิดการแข่งขันที่เสรีและเป็นธรรม ซึ่งการตรวจสอบของ กสทช. จนนำไปสู่การออกหนังสือดังกล่าว มาจากการร้องเรียนของผู้บริโภคที่ได้รับผลกระทบจากการแทรกโฆษณาบนกล่องทรูไอดี ทั้งนี้ ไม่ได้มีการเลือกปฏิบัติต่อผู้ประกอบกิจการรายหนึ่งรายใดเป็นพิเศษ

//นักวิชาการและอาจารย์ด้านสื่อสาร ชี้ทำงานด้วยความสุจริต //

ทางด้านนักวิชาการด้านสื่อสารมวลชนและเครือข่ายผู้บริโภคทั่วประเทศ พร้อมใจกันติด #saveพิรงรอง พร้อมล่ารายชื่อให้ถึง 10,000 รายชื่อ เพื่อส่งกำลังใจในการปฏิบัติหน้าที่และให้ได้รับความเป็นธรรมในการตัดสินคดีครั้งนี้

ศาสตราจารย์พิเศษธงทอง จันทรรางศุ โพสต์ผ่านเฟสบุ๊คกล่าวถึงกรณีนี้ว่า “ถ้าการปฏิบัติหน้าที่ตามตำแหน่งที่รับผิดชอบด้วยความสุจริตจะกลายเป็นความผิดทางอาญาแล้วไซร้ ในระยะยาว จะเหลือใครทำงานให้กับส่วนรวม”

ทางด้านนายธนา เธียรอัจฉริยะ ผู้นำทางความคิดวงในการธุรกิจ อดีตผู้บริหารระดับสูงของดีแทค ที่ปัจจุบันควบรวมโดยทรู โพสต์ว่า “สะเทือนความรู้สึกมากและน่าจะมีผลกระทบในวงกว้างแน่”

// อดีต กรรมการ กสทช.และสื่อมวลชน ส่งกำลังใจ //

ทางด้านนางสาวสุภิญญา กลางณรงค์ อดีต กรรมการ กสทช.และโพสต์ผ่านเฟสบุ๊คส่วนตัว ส่งกำลังใจให้ “พิรงรอง” ที่ยืนหยัดต่อสู้ เพื่อ กสทช.

นายสรยุทธ สุทัศนะจินดา นำเสนอข่าวผ่านเฟสบุ๊คแฟนเพจ กรรมกรข่าว ชวนจับตาดูการพิจารณาคดีดังกล่าว หลัง “พิรงรอง” ทำหน้าที่คุ้มครองผู้บริโภค

// ชี้ชะตา! ลุ้นศาลอาญาทุจริตฯ หลุดตำแหน่งหรือไม่ ? //

คำพิพากษาของศาลในวันพรุ่งนี้ (6 กุมภาพันธ์ 2568) หาก กสทช. พิรงรอง ถูกตัดสินว่ามีความผิดและไม่ได้รับสิทธิให้ประกันตัว ระหว่างรอการอนุมัติการอุทธรณ์ จะต้องสิ้นสภาพการเป็น กสทช. ทันที

อนึ่ง ผู้ที่กระทำความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 157 มีโทษคุกตั้งแต่ 1 – 10 ปี หรือปรับตั้งแต่ 2,000 บาทถึง 20,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ส่วนคุณสมบัติของ กสทช. ตามพระราชบัญญัติองค์กรจัดสรรคลื่นความถี่และกำกับการประก0อบกิจการวิทยุกระจายเสียง วิทยุโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคม พ.ศ. 2553 มาตรา 7 (6) และ (7) กำหนดลักษณะต้องห้ามของกรรมการ กสทช.ว่า เป็นบุคคลที่ต้องคำพิพากษาให้จำคุกและถูกคุมขังอยู่โดยหมายของศาล หรือ เคยได้รับโทษจำคุกโดยคำพิพากษาถึงที่สุดให้จำคุก เว้นแต่ในความผิดอันได้กระทำโดยประมาทหรือความผิดลหุโทษ

อย่างไรก็ตาม ก่อนนี้ ในเดือน เมษายน 2567 บริษัททรูดิจิทัลฯ ได้ยื่นเคยคำร้องขอให้ศาลสั่งให้ ‘กสทช.พิรงรอง’ ยุติการปฏิบัติหน้าที่กรรมการ กสทช. และ ประธานอนุกรรมการพิจารณาอนุญาตด้านกิจการโทรทัศน์ไว้ชั่วคราว จนกว่าศาลจะมีคำพิพากษาในคดีนี้ แต่ต่อมาในเดือนพฤษภาคม 2567 ศาลยกคำร้องดังกล่าว โดยพิจารณาว่าจำเลยไม่มีพฤติการณ์ที่แสดงให้เห็นว่า เป็นปฏิปักษ์ ขัดขวาง หรือกลั่นแกล้งการประกอบธุรกิจของโจทก์ตามที่กล่าวอ้าง

ติดตามช่องทางมิติหุ้นเพื่อรับข่าวสารตลาดทุนได้ตามลิงค์ด้านล่าง

Web : https://www.mitihoon.com/
Facebook : https://www.facebook.com/mitihoon
Youtube : https://www.youtube.com/@mitihoonofficial7770
Tiktok : www.tiktok.com/@mitihoon